“อดีตประธานสภาเทศบาลบางบัวทอง” ร้องดีเอสไอสอบเทศบาลเมืองบางบัวทอง หลังพบบริหารงานไม่โปร่งใสจ่ายเงินสงเคราะห์คนชรา ติดตั้งเสาไฟฟ้าสวยงามต้นละ 76,000 บาท และนำงบประมาณไปพัฒนาตลาดเอกชน
วันนี้ (28 ม.ค) ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายชูศักดิ์ เวียสุวรรณ อดีตประธานสภาเทศบาลเมืองบางบัวทอง และนายเทพชัย ประมาณพาณิชย์ อดีตสมาชิกสภาเทศบาลเมืองบางบัวทอง เดินทางมายื่นหนังสือร้องเรียนเพื่อให้ดีเอสไอตรวจสอบความไม่โปร่งใสของผู้บริหารเทศบาลเมืองบางบัวทอง รวม 3 โครงการ โครงการแรกเป็นการทุจริตจ่ายค่าเบี้ยยังชีพคนชรา จากกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น มายังเทศบาลเมืองบางบัวทองเพื่อมอบให้ผู้สูงอายุจำนวน 199 คน คนละ 500 บาทต่อเดือน ในปีงบประมาณปี 2550 ตั้งแต่เดือน ต.ค.2549-มี.ค.2550 แต่กลับมีการจ่ายจริงเพียง 1,000 บาท และบางรายก็ไม่ได้รับเงิน เมื่อทางกลุ่มทำการตรวจสอบก็มีเจ้าหน้าที่ออกไปจ่ายเงินให้กับชาวบ้านและชี้แจงว่าเป็นเงินตกเบิก นอกจากนี้ยังพบว่ามีการจ่ายเงินให้กับนายสำราญ พ่วงศาสตร์ ผู้มีสิทธิ์ได้รับเงินสงเคราะห์ลำดับที่ 82 ทั้งที่นายสำราญเสียชีวิตไปตั้งแต่ปี 2547
นายเทพชัย กล่าวอีกว่า โครงการที่ 2 ที่ร้องเรียนให้ดีเอสไอตรวจสอบ คือ กรณีที่เทศบาลเมืองบางบัวทอง ดำเนินโครงการปรับภูมิทัศน์ถนนเทศบาล 9 โครงการปรับภูมิทัศน์ถนนบางกรวย-ไทรน้อย ด้วยการติดตั้งเสาไฟฟ้าสวยงาม พร้อมหุ่นประติมากรรมรูปช้าง และโคมไฟฟ้าพร้อมอุปกรณ์บนทางเท้าทั้งสองฝั่งจำนวนกว่า 30 ต้น ราคาต้นละ 76,000 บาท ยังไม่รวมค่าอุปกรณ์สายไฟจากแหล่งจ่ายพลังงานจะต้องใช้งบประมาณไม่ต่ำกว่า 2,280,000 บาท
นายเทพชัยยังได้ร้องเรียนให้ตรวจสอบการนำเงินงบประมาณของเทศบาลเมืองบางบังทองจำนวน 650,000 บาท ไปดำเนินโครงการพัฒนาปรับปรุงตลาดบัวทองพัฒนา ซึ่งเป็นตลาดของเอกชน โดยตลาดแห่งนี้มีรองนายกเทศมนตรีเทศบาลบางบัวทองมีชื่อเป็นผู้ถือหุ้นลำดับที่ 6 ทั้งนี้การจัดสรรงบประมาณไปพัฒนาตลาดครั้งนี้อาจเป็นการเอื้อประโยชน์ให้พรรคพวก
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ได้มีการร้องเรียนกรณีดังกล่าวแล้วหลายหน่วยงาน ทั้งกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน และผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี โดยมีนายเชาวลิต ธูปตาก้อง รองผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี โดยทุกหน่วยงานรับปากจะตรวจสอบ นอกจากนี้ยังได้ร้องเพิ่มที่ดีเอสไอดังกล่าว
วันนี้ (28 ม.ค) ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายชูศักดิ์ เวียสุวรรณ อดีตประธานสภาเทศบาลเมืองบางบัวทอง และนายเทพชัย ประมาณพาณิชย์ อดีตสมาชิกสภาเทศบาลเมืองบางบัวทอง เดินทางมายื่นหนังสือร้องเรียนเพื่อให้ดีเอสไอตรวจสอบความไม่โปร่งใสของผู้บริหารเทศบาลเมืองบางบัวทอง รวม 3 โครงการ โครงการแรกเป็นการทุจริตจ่ายค่าเบี้ยยังชีพคนชรา จากกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น มายังเทศบาลเมืองบางบัวทองเพื่อมอบให้ผู้สูงอายุจำนวน 199 คน คนละ 500 บาทต่อเดือน ในปีงบประมาณปี 2550 ตั้งแต่เดือน ต.ค.2549-มี.ค.2550 แต่กลับมีการจ่ายจริงเพียง 1,000 บาท และบางรายก็ไม่ได้รับเงิน เมื่อทางกลุ่มทำการตรวจสอบก็มีเจ้าหน้าที่ออกไปจ่ายเงินให้กับชาวบ้านและชี้แจงว่าเป็นเงินตกเบิก นอกจากนี้ยังพบว่ามีการจ่ายเงินให้กับนายสำราญ พ่วงศาสตร์ ผู้มีสิทธิ์ได้รับเงินสงเคราะห์ลำดับที่ 82 ทั้งที่นายสำราญเสียชีวิตไปตั้งแต่ปี 2547
นายเทพชัย กล่าวอีกว่า โครงการที่ 2 ที่ร้องเรียนให้ดีเอสไอตรวจสอบ คือ กรณีที่เทศบาลเมืองบางบัวทอง ดำเนินโครงการปรับภูมิทัศน์ถนนเทศบาล 9 โครงการปรับภูมิทัศน์ถนนบางกรวย-ไทรน้อย ด้วยการติดตั้งเสาไฟฟ้าสวยงาม พร้อมหุ่นประติมากรรมรูปช้าง และโคมไฟฟ้าพร้อมอุปกรณ์บนทางเท้าทั้งสองฝั่งจำนวนกว่า 30 ต้น ราคาต้นละ 76,000 บาท ยังไม่รวมค่าอุปกรณ์สายไฟจากแหล่งจ่ายพลังงานจะต้องใช้งบประมาณไม่ต่ำกว่า 2,280,000 บาท
นายเทพชัยยังได้ร้องเรียนให้ตรวจสอบการนำเงินงบประมาณของเทศบาลเมืองบางบังทองจำนวน 650,000 บาท ไปดำเนินโครงการพัฒนาปรับปรุงตลาดบัวทองพัฒนา ซึ่งเป็นตลาดของเอกชน โดยตลาดแห่งนี้มีรองนายกเทศมนตรีเทศบาลบางบัวทองมีชื่อเป็นผู้ถือหุ้นลำดับที่ 6 ทั้งนี้การจัดสรรงบประมาณไปพัฒนาตลาดครั้งนี้อาจเป็นการเอื้อประโยชน์ให้พรรคพวก
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ได้มีการร้องเรียนกรณีดังกล่าวแล้วหลายหน่วยงาน ทั้งกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน และผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี โดยมีนายเชาวลิต ธูปตาก้อง รองผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี โดยทุกหน่วยงานรับปากจะตรวจสอบ นอกจากนี้ยังได้ร้องเพิ่มที่ดีเอสไอดังกล่าว