“ดีเอสไอ” สอบปากคำเจ้าหน้าที่ ททท.ในคดีฮั้วประมูลจัดงาน “บางกอกฟิล์ม” แล้วกว่า 10 ปาก พร้อมประสานเอฟบีไอขอข้อมูลบริษัทนอกประเทศที่เข้าร่วมประมูล พร้อมขยายผลสอบเส้นทางเงินสินบนว่าโอนไปให้ใครบ้าง แต่ยังไม่สอบอดีตผู้ว่าฯ ททท.
วันนี้ (18 ม.ค.) ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ นายสุนัย มโนมัยอุดม อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวถึงกรณีที่คณะลูกขุนใหญ่ประจำเมืองลอสแองเจลิส ได้ตั้งข้อหาต่อนายโรเบิร์ต กรีน แม็คเคลน ผู้บริหารบริษัทภาพยนตร์ฮอลลีวูด และนางแพทริเซีย ภรรยา ฐานจ่ายสินบนให้แก่นางจุฑามาศ ศิริวรรณ อดีตผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จำนวนกว่า 9 ล้านดอลลาร์ เพื่อแลกกับการนำภาพยนตร์ของเขามาฉายในเทศกาลบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล ฟิล์มเฟสติวัล เป็นเวลา 5 ปี ตั้งแต่ปี 2545- 2550 ว่า ดีเอสไอจะประสานไปสหรัฐอเมริกาเพื่อขอข้อมูลเส้นทางการเงินอย่างเละเอียด หลังจากนั้นพนักงานสอบสวนจะดำเนินการในส่วนเงินจำนวน 9 ล้านดอลลาร์ ที่โอนเข้ามายังบัญชีผู้เกี่ยวข้อง เริ่มตั้งแต่นางจุฑามาศ ศิริวรรณ อดีตผู้ว่าการท่องเที่ยวฯ รวมทั้งบุตรสาว เพื่อตรวจสอบว่าเงินจำนวนดังกล่าวโอนไปยังบัญชีหรือผู้เกี่ยวข้องบุคคลใดบ้าง และจะนำข้อมูลดังกล่าวมาประกอบสำนวนในคดีความผิด พ.ร.บ.ว่าด้วยการเสนอราคาต่อรัฐ (ฮั้วประมูล) กรณีการจัดงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล ฟิล์มเฟสติวัล คาดว่าคงใช้เวลาประมาณ 1 เดือน เพื่อสรุปสำนวนส่งให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ดำเนินการ เนื่องจากมีเอกสารหลักฐานค่อนข้างชัดเจน
ด้าน พ.อ.ปิยะวัฒก์ กิ่งเกตุ ผบ.สำนักคดีอาญาพิเศษ กล่าวว่าความคืบหน้าของคดีฮั้วประมูลดังกล่าวเจ้าหน้าที่ดีเอสไอประสานไปยัง ททท.เพื่อขอข้อมูลเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการจัดงานบางกอกฟิล์มเฟสติวัล นอกจากนี้ยังส่งพนักงานสอบสวนไปสอบปากเจ้าหน้าที่ ททท.ไปกว่า 10 ปาก ทั้งนี้ยังขอเอกสารบางส่วนที่เกี่ยวข้องกับบริษัทฯ ที่เข้าร่วมประมูล ซึ่งต้องประสานกับเอฟบีไอของสหรัฐฯ ว่าทุกบริษัทมีที่อยู่ที่ใดบ้าง แต่เบื้องต้นจากการตรวจสอบบริษัทที่เข้าร่วมประมูลงานพบเอกสารหลักฐาน น่าเชื่อว่าเป็นบริษัทของนายโรเบิร์ต กรีน แม็คเคลน เกือบทุกบริษัทเนื่องจากพบว่าที่อยู่ของการโอนเงินเข้าบัญชีบุตรกสาวของอดีตผู้ว่าฯ ททท.ไปยังบัญชีประเทศอังกฤษ มาจากที่อยู่เดียวกันทั้งหมด อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่มีการเชิญตัวนางจุฑามาศมาสอบปากคำแต่อย่างใด