จำเลยปลอมไฟล์ "มายสเปซ" สู้คดี ไม่รับผิดกรณีล่อลวงเด็กจนฆ่าตัวตาย

เอเจนซี - โลรี ดรูว์ หญิงชาวมลรัฐมิสซูรี ซึ่งตกเป็นจำเลยในคดีสร้างไฟล์ข้อมูลส่วนบุคคลปลอมเป็นเด็กหนุ่มวัย 16 ปี ใน "มายสเปซ" แล้วหลอกลวงให้เด็กหญิงวัย 13 ปีผิดหวังจนต้องฆ่าตัวตาย เข้าสู้คดีในศาลชั้นต้นของสหรัฐฯ ณ นครลอสแองเจลิส โดยยืนยันว่าบริสุทธิ์ไม่มีความผิดในข้อหาสมรู้ร่วมคิดและเข้าไปดึงข้อมูลจากระบบคอมพิวเตอร์ที่มีการป้องกันการขโมยข้อมูล

ในคดีลักษณะนี้คดีแรกที่เคยปรากฏขึ้นมา ดรูว์ได้ปฏิเสธไม่รับผิดตามข้อกล่าวหาดังกล่าว และคดีของเธอจะเข้าสู่การพิจารณาของศาลในวันที่ 26 กรกฎาคมนี้ ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายบอกว่า คดีนี้จะเป็นการขยายขอบเขตกฎหมายของสหรัฐฯ ออกไปจากเดิมที่เคยใช้ฟ้องจำเลยที่เข้าไปขโมยข้อมูลจากระบบคอมพิวเตอร์ของรัฐบาลเท่านั้น

ทั้งนี้ คณะลูกขุนใหญ่แห่งเคาน์ตีลอสแองเจลิส ได้มีมติให้ฟ้องดรูว์เมื่อเดือนพฤษภาคม หลังจากที่ทางการของมลรัฐมิสซูรีปฏิเสธที่จะฟ้องเธอ ด้วยเหตุผลว่าไม่มีกฎหมายที่จะดำเนินคดีเช่นนี้ได้ ความผิดที่ดรูว์ถูกฟ้องร้องต่อศาลสหรัฐฯคราวนี้ มีระวางโทษจำคุกสูงสุด 20 ปี

ดรูว์เดินทางมาขึ้นศาลที่ลอสแองเจลิสเป็นครั้งแรกเมื่อวันพฤหัสบดี เพื่อรับฟังข้อกล่าวหา แต่ในระหว่างที่ทนายโต้แย้งคดีที่ดรูว์ไม่ยอมรับผิด เธอก็ไม่ได้ให้การใด ๆ นอกจากยืนนิ่งเงียบอยู่ข้างทนาย

อัยการแจ้งว่าดรูว์ ซึ่งเป็นแม่ของเด็กหญิงวัยรุ่นคนหนึ่งที่มีเรื่องบาดหมางกับมีแกน เมียร์ ได้ร่วมมือกับคนอีกหลายคน สร้างไฟล์ข้อมูลปลอมแต่งเรื่องเด็กหนุ่มวัย 16 ปีชื่อ "โจช อีแวนส์" ขึ้น รวมทั้งใช้รูปปลอมของเด็กหนุ่มวัยรุ่นที่ไม่รู้จักคนหนึ่ง

ตามคำฟ้อง ระบุว่า คนกลุ่มนี้ใช้ชื่อ "โจช" ติดต่อกับเมียร์ทางเว็บไซต์สังคมออนไลน์ "มายสเปซ" และหลอกล่อให้เมียร์ตกหลุมรักก่อนที่จะประกาศตัดสัมพันธ์กันเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2006 โดยบอกเมียร์ว่าโลกนี้จะดีกว่าเดิมถ้าหากไม่มีเมียร์อยู่

เมียร์มีปากเสียงกับแม่ของเธออยู่บ่อยครั้งเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเธอกับ "โจช""ในโลกไซเบอร์ และหลังจากที่เธอได้รับข้อความสุดท้ายจาก "โจช" ไม่กี่ชั่วโมง เธอก็ตัดสินใจแขวนคอตายในตู้เสื้อผ้าภายในห้องนอน โดยที่ไม่มีโอกาสได้รู้ว่า "โจช" นั้นไม่มีตัวตนอยู่จริง

คำฟ้องระบุอีกว่าหลังจากที่เมียร์ฆ่าตัวตาย ดรูว์ได้ลบชื่อบัญชีปลอมในมายสเปซออก และสั่งให้เด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่รู้เรื่องนี้ "ปิดปากให้สนิท"

กรณีการฆ่าตัวตายของเมียร์เป็นข่าวดังไปทั่วโลก และกระตุ้นให้เว็บไซต์ที่มุ่งสร้างเครือข่ายทางสังคม อย่างเช่น มายสเปซ ใช้มาตรการเข้มงวดมากขึ้นกับการข่มเหงรังแกกันในโลกไซเบอร์