ตำรวจบางกอกใหญ่-บางขุนนนท์ รวบตัวลูกชายนักร้องลูกทุ่งชื่อดัง “ศรเพชร ศรสุพรรณ” หลังเมื่อกลางปีที่แล้วร่วมมือกับพี่ชาย-หนุ่มใบ้รุมปล้นสร้อยคอทองคำของสาวรายหนึ่งไปในช่วงเช้ามืด แต่ตำรวจตามรวบหนุ่มใบ้ได้ทันที ก่อนจะให้การซัดทอดสองพี่น้อง เพราะฉุนที่ได้ส่วนแบ่งแค่สองร้อยบาท
เมื่อเวลา 19.35 น.วานนี้ (15 ม.ค.) พ.ต.ท.พสิษฐ์ เก็งทอง สว.สส.สน.บางกอกใหญ่ พ.ต.ท.สิทธิชัย ไชยเหมวงศ์ สว.สป.สน.บางกอกใหญ่ ร่วมกับ พ.ต.ท.พจนาจ งบพิมาย สว.สส.สน.บางขุนนนท์ พ.ต.ท.ชวลิต หรุ่นศิริ สว.สป.สน.บางขุนนนท์ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนสน.บางกอกใหญ่ และสน.บางขุนนนท์ นำหมายจับศาลจังหวัดตลิ่งชัน ที่ 973/2550 ลงวันที่ 17 กรกฎาคม 2550 ในข้อหาปล้นทรัพย์ เข้าจับกุม นายศิริโชค หรือแขก คล้ายละมั่ง อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 161/15 ซอยจรัญสนิทวงศ์ 27 ถนนจรัญสนิทวงศ์ แขวงบางขุนศรี เขตบางกอกน้อย ซึ่งเป็นลูกชายของนายบุญทัน คล้ายละมั่ง หรือ “ศรเพชร ศรสุพรรณ” นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง โดยมีผลงานเพลงที่โด่งดัง เช่น เข้าเวรรอ รักมาห้าปี ใจจะขาด ไอ้หวังตายแน่
การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 2 พ.ค.50 ที่ผ่านมา นายศิริโชคได้ร่วมกับนายเทพ (นามสมมติ) อายุ 17 ปี และนายทศพร คล้ายละมั่ง ผู้เป็นพี่ชาย ก่อเหตุใช้อาวุธปืนปล้นทรัพย์สร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท ของ น.ส.ศิริพร แซ่เตียว ที่บริเวณฝั่งตรงข้ามซอยพาณิชยการธนบุรี 1 แขวงวัดท่าพระ เขตบางกอกใหญ่ แล้วหลบหนีไป โดยหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่สามารถติดตามจับกุมตัวนายเทพ หนุ่มพิการเป็นใบ้ได้ทันที โดยจากการสอบปากคำนายเทพให้การซัดทอดว่าได้ร่วมมือกับนายทศพร และนายศิริโชค สองพี่น้องก่อเหตุดังกล่าวจริง ส่วนที่รับสารภาพก็เพราะไม่พอใจที่ได้ส่วนแบ่งในการร่วมมือปล้นแค่ 200 บาท
หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงรวบรวมหลักฐานขอนุมัติหมายจับผู้ต้องหาทั้งสองคนจากศาลจังหวัดตลิ่งชัน ก่อนติดตามจับกุมตัวนายทศพร พี่ชายของนายศิริโชคได้เมื่อวันที่ 24 ธ.ค.50 ที่ผ่านมา โดยนายทศพรให้การปฏิเสธ จนกระทั่งวานนี้ (15 ม.ค.) เจ้าหน้าที่ก็สามารถจับกุมตัวนายศิริโชค ได้ที่บริเวณปากซอยจรัญสนิทวงศ์ 23/1 ถนนจรัญสนิทวงศ์ แขวงบางขุนศรี เขตบางกอกน้อย ก่อนคุมตัวมาสอบปากคำที่ สน.บางกอกใหญ่
จากการสอบสวนนายศิริโชคให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา เจ้าหน้าที่จึงคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.บางกอกใหญ่ ดำเนินคดีในข้อหาปล้นทรัพย์ต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากนายศิริโชคถูกคุมตัวอยู่ในห้องขังนั้น ได้มีญาติและเพื่อนของนายศิริโชคจำนวนประมาณ 10 คนพากันมารวมตัวอยู่ที่หน้า สน.บางกอกใหญ่ และพยายามขัดขวางไม่ช่างภาพบันทึกภาพข่าว แม้กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะนำตัวนายศิริโชคออกจากห้องขังมาสอบปากคำเพิ่มเติมก็เข้าไปกดดันไม่ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวออกมาจากห้องขัง เพื่อไม่ให้ช่างภาพสามารถบันทึกภาพ