กทม.ประกาศอาคารโตคิวเป็นพื้นที่อันตราย 30 วัน หลังเพลิงไหม้อาคาร พร้อมสั่งการ ผอ.เขต ดูแลประชาชนที่ได้รับความเสียหาย ตร.ส่งเจ้าหน้าที่ชุดพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบหาสาเหตุเพลิงไหม้ เบื้องต้นยังไม่สามารถหาจุดเพลิงได้ ด้านโชว์รูมรถหรูซวย เศษกระจกตกมาใส่รถเสียหายกว่า 10 คัน เจ้าของอาคารแจงเหตุเพลิงไหม้เกิดจากสติ๊กเกอร์ที่ห่อหุ้มแผ่นอะลูมิเนียมภายนอกอาคาร ย้ำโครงสร้างอาคารยังแข็งแรง
วันนี้ (9 ม.ค.) วันนี้ (9 ม.ค.) เวลา 08.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าเหตุเพลิงไหม้อาคารโตคิว ถนนรัชดาภิเษกซอย 10 ตรงข้ามห้างสรรพสินค้าโรบินสัน สาขารัชดาฯ แขวงและเขตห้วยขวาง กทม. เมื่อช่วงเวลา 03.00 น.ที่ผ่านมา ส่งผลให้บริเวณชั้นที่ 17 และ 51 เสียหายทั้งหมด โดยอาคารโตคิวมีทั้งหมด 51 ชั้น ต้นเพลิงเกิดขึ้นที่บริเวณชั้น 10 และลุกลามไปยังชั้นต่างๆ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงต้องใช้เวลาในการควบคุมเพลิงก่อนระดมรถดับเพลิง 10 กว่าคัน เร่งสกัดนานนับชั่วโมง จนเพลิงสงบลง
ต่อมาเมื่อเวลา 09.00 น.นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าฯ กทม.พร้อม นางวิภาวี อำมาตย์ทัต ผอ.เขตห้วยขวาง ได้เดินทางเข้าร่วมประชุมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายสื่อสารองค์กรบริษัท ทีซีซี แลนด์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที่ จากนั้นได้เดินตรวจสอบบริเวณโดยรอบที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ พร้อมรับฟังรายงานสรุปเหตุการณ์จากเจ้าหน้าที่สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
นายอภิรักษ์ เปิดเผยว่า หลังจากตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุซึ่งเป็นอาคารสูงกำลังก่อสร้างเป็นอาคารสำนักงานคู่ โดยจะเปิดเป็นสำนักงานแบ่งให้เช่า โดยตึกเอแบ่งเป็น 51 ชั้น ส่วนตึกบี 47 ชั้น มีพื้นที่โดยรวมประมาณ 200,000 ตารางเมตร และพื้นที่ใช้สอย 90,000 ตารางเมตร โดยหลังจากนี้จะประสานไปยังเจ้าของอาคารเพื่อประกาศเป็นพื้นที่อันตรายเป็นเวลา 30 วัน เพื่อดำเนินการตรวจสอบโครงสร้างของอาคารว่ามีความเสียหายมากน้อยเพียงใด โดยจะให้วิศวกรโยธา ของกทม.และสำนักวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ ซึ่งอาจจะต้องใช้เวลาในการตรวจสอบความเสียหายระยะหนึ่ง
นายอภิรักษ์ กล่าวต่อว่า สำหรับความเสียหายของบ้านเรือนประชาชนที่อยู่ใกล้เคียงอาคารที่เกิดเหตุนั้น เบื้องต้นพบว่ามีประมาณ 10หลังคาเรือน รถยนต์หรูที่ได้รับความเสียหายไปประมาณ 10 คัน ซึ่งจะให้ทางผอ.เขตห้วยขวาง เข้าไปดูแลช่วยเหลือรับเรื่องร้องทุกข์ สำหรับเรื่องรักษาความปลอดภัยของอาคารนั้น ตามปกติถ้าเป็นอาคารสูงก็จะมีระบบมาตรการรักษาความปลอดภัยของตัวเองอยู่แล้ว โดยจะมีถังดับเพลิงวางไว้อยู่โดยรอบทุกชั้นของอาคาร ซึ่งหลังเกิดเหตุนักผจญเพลิงจำนวนประมาณ 50 นาย ก็ได้เข้าไปใช้ถังดับเพลิง และลากสายยางเข้าไปฉีดจนสามารดับเพลิงเอาไว้ได้
ต่อมาเวลา 10.00 น.พ.ต.อ.สุรชัย วัชรโยธิน รอง ผบก.กองพิสูจน์หลักฐาน พ.ต.อ.ระยอง ยังอยู่ ผกก.สน.ห้วยขวาง พร้อมพนักงานสอบสวน เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนจาก ศูนย์สืบสวนบช.น.วิศวกรโยธาฯ จากสำนักโยธาฯ กทม.และวิศวกรจากวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ได้เข้าไปตรวจสอบในที่เกิดเหตุอย่างละเอียดอีกครั้งโดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที
พ.ต.อ.สุรชัย เปิดเผยว่า เบื้องต้นยังไม่สามารถตรวจสอบหาจุดต้นเพลิงได้ เนื่องจากอยู่ระหว่างอาคารเอกับอาคารบี ซึ่งจะต้องประสานทางเจ้าของอาคารขอทุบกระจกออกเพื่อไปตรวจสอบว่า บริเวณจุดต้นเพลิงนั้นมีเครื่องจักรอะไรอยู่หรือไม่ ซึ่งจากการตรวจสอบด้วยสายตานั้น ยังไม่สามารถมอบเห็นได้ชัดว่าสาเหตุของเพลิงไหม้เกิดจากอะไร
ต่อมา พ.ต.ต.ณัฐพงษ์ วงศ์ศรีอ่อน พนักงานสอบสวน (สบ.2) สน.ห้วยขวาง ได้เชิญนายธรรมนันท์ ชนะภัย อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 174/31 หมู่ 2 ต.สวนหลวง อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร วิศกรก่อสร้างของบริษัทฤทธา เป็นบริษัทรับเหมาก่อสร้างอาคารที่เกิดเหตุ โดยนายธรรมนันท์ ให้การว่า เมื่อเวลาประมาณ 20.30 น.ของวันที่ 8 ม.ค.ที่ผ่านมา ตนเองได้เข้ามาที่สำนักงานซึ่งอยู่ชั้น 6 ของตัวฐานตึก เพื่อรวบรวมเอกสารเพื่อจะส่งมอบงานให้กับผู้ว่าจ้างในวันที่ 15 ม.ค. จนกระทั่งเวลาประมาณ 03.00 น.ตนเองก็เกิดง่วงนอน เลยลงลิฟท์ด้านหลังอาคารเพื่อจะเดินทะลุไปอาคารบี กลับไปบ้าน แต่ขณะนั้นตนก็หันไปเห็นว่ามีแสงเพลิงเกิดขึ้นที่ชั้น 15 ของอาคารบี จึงรีบแจ้งรปภ.ให้ทราบว่ามีเพลิงไหม้ ก่อนจะแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ทำการดับเพลิง
เวลา 12 .00 น.ที่ สน.ห้วยขวาง ได้มีนายมนูญ จรูญประโดน อายุ 41 ปี พนักงานขับรถขสมก.เดินทางเข้าแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ว่า ขณะเกิดเหตุเพลิงไหม้ได้มีคนร้ายเข้าไปขโมยทรัพย์สินภายในบ้านของตนเอง โดยขณะเกิดเหตุตนเองกำลังนอนหลับพักผ่อนอยู่ในบ้าน เมื่อเกิดเพลิงไหม้ก็รีบวิ่งหนีออกมาโดยที่ไม่ได้หยิบทรัพย์สินอะไรออกไปเลย เมื่อกลับเข้ามาก็พบว่า กระเป๋าสตางค์ พร้อมเงินสดจำนวนหนึ่ง นาฬิกา เสื้อผ้า และเอกสารบางส่วนถูกคนร้ายขโมยไป โดยยังมีเพื่อนบ้านอีกหลายคนที่ถูกลักทรัพย์แบบเดียวกันกับตน ซึ่งคาดว่าจะทยอยเดินทางกันเข้ามาแจ้งความภายหลัง
ด้าน พ.ต.ท.ยิ่งยศ อินทบุหรั่น รอง ผกก.สส.สน.ห้วยขวาง กล่าวว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่สอบคำได้แต่เพียง รปภ.ที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ด้านนอกอาคารเท่านั้น ส่วนเจ้าของอาคารและบริษัทผู้รับเหมานั้นกำลังติดต่อให้เข้ามาพบพนักงานสอบสวนเพื่อสอบปากคำ ส่วนเรื่องค่าเสียหายนั้น ยังไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าจำนวนเท่าใด ทั้งนี้สำหรับประชาชนที่อยู่ใกล้เคียงและได้รับความเสียหายจากเหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้ ให้รวบรวมหลักฐานและนำมาแจ้งความที่สน.ห้วงขวาง โดยเจ้าหน้าที่ได้จัดพนักงานสอบสวนไว้รอแล้ว
ทางด้านฝ่ายสื่อสารองค์กร บริษัท ทีซีซี แลนด์ ดีเวลล็อปเมนท์ จำกัด ผู้รับจ้างบริหารอาคารดังกล่าวได้ออกเอกสารชี้แจงสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ว่า อาคารสำนักงานที่เป็นอาคารคู่ 51 ชั้น และ 47 ชั้น เพลิงได้ลุกไหม้สติ๊กเกอร์ที่ห่อหุ้มแผ่นอะลูมิเนียมภายนอกอาคาร ทำให้แผ่นอะลูมิเนียมและกระจกบางส่วนได้รับความเสียหาย โดยไม่ได้ก่อความเสียหายภายในอาคาร หรือต่อโครงสร้างของอาคารใดๆ ทั้งสิ้น ซึ่งเมื่อเกิดเหตุ ระบบป้องกันอัคคีภัยและระบบรักษาความปลอดภัยของอาคาร หรือ ระบบสปริงเกิลได้ทำงานตามปกติ ทั้งนี้ เพลิงได้ลุกไหม้เป็นเวลาครึ่งชั่วโมงจึงสงบลง และไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ โดยมีบริษัทฤทธา เป็นผู้รับเหมาก่อสร้างและกำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้างให้แล้วเสร็จ
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบเพิ่มเติมภายหลังที่เพลิงสงบลงได้ปรากฏว่า พบเศษกระจกจากอาคารดังกล่าวได้ตกลงมาใส่อาคารของศูนย์รถยนต์ บีดี ออโต้ ซึ่งเป็นบริษัทรับซื้อขายและจัดไฟแนนซ์รถยนต์ ที่อยู่ใกล้กับอาคารดังกล่าว ส่งผลให้รถยนต์หรูหลายคัน อาทิ BMW Jaguar และ Benz ถูกเศษกระจกและเศษกระเบื้องตกใส่ได้รับความเสียหายจำนวน 10 คัน
วันนี้ (9 ม.ค.) วันนี้ (9 ม.ค.) เวลา 08.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าเหตุเพลิงไหม้อาคารโตคิว ถนนรัชดาภิเษกซอย 10 ตรงข้ามห้างสรรพสินค้าโรบินสัน สาขารัชดาฯ แขวงและเขตห้วยขวาง กทม. เมื่อช่วงเวลา 03.00 น.ที่ผ่านมา ส่งผลให้บริเวณชั้นที่ 17 และ 51 เสียหายทั้งหมด โดยอาคารโตคิวมีทั้งหมด 51 ชั้น ต้นเพลิงเกิดขึ้นที่บริเวณชั้น 10 และลุกลามไปยังชั้นต่างๆ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงต้องใช้เวลาในการควบคุมเพลิงก่อนระดมรถดับเพลิง 10 กว่าคัน เร่งสกัดนานนับชั่วโมง จนเพลิงสงบลง
ต่อมาเมื่อเวลา 09.00 น.นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าฯ กทม.พร้อม นางวิภาวี อำมาตย์ทัต ผอ.เขตห้วยขวาง ได้เดินทางเข้าร่วมประชุมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายสื่อสารองค์กรบริษัท ทีซีซี แลนด์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที่ จากนั้นได้เดินตรวจสอบบริเวณโดยรอบที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ พร้อมรับฟังรายงานสรุปเหตุการณ์จากเจ้าหน้าที่สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
นายอภิรักษ์ เปิดเผยว่า หลังจากตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุซึ่งเป็นอาคารสูงกำลังก่อสร้างเป็นอาคารสำนักงานคู่ โดยจะเปิดเป็นสำนักงานแบ่งให้เช่า โดยตึกเอแบ่งเป็น 51 ชั้น ส่วนตึกบี 47 ชั้น มีพื้นที่โดยรวมประมาณ 200,000 ตารางเมตร และพื้นที่ใช้สอย 90,000 ตารางเมตร โดยหลังจากนี้จะประสานไปยังเจ้าของอาคารเพื่อประกาศเป็นพื้นที่อันตรายเป็นเวลา 30 วัน เพื่อดำเนินการตรวจสอบโครงสร้างของอาคารว่ามีความเสียหายมากน้อยเพียงใด โดยจะให้วิศวกรโยธา ของกทม.และสำนักวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ ซึ่งอาจจะต้องใช้เวลาในการตรวจสอบความเสียหายระยะหนึ่ง
นายอภิรักษ์ กล่าวต่อว่า สำหรับความเสียหายของบ้านเรือนประชาชนที่อยู่ใกล้เคียงอาคารที่เกิดเหตุนั้น เบื้องต้นพบว่ามีประมาณ 10หลังคาเรือน รถยนต์หรูที่ได้รับความเสียหายไปประมาณ 10 คัน ซึ่งจะให้ทางผอ.เขตห้วยขวาง เข้าไปดูแลช่วยเหลือรับเรื่องร้องทุกข์ สำหรับเรื่องรักษาความปลอดภัยของอาคารนั้น ตามปกติถ้าเป็นอาคารสูงก็จะมีระบบมาตรการรักษาความปลอดภัยของตัวเองอยู่แล้ว โดยจะมีถังดับเพลิงวางไว้อยู่โดยรอบทุกชั้นของอาคาร ซึ่งหลังเกิดเหตุนักผจญเพลิงจำนวนประมาณ 50 นาย ก็ได้เข้าไปใช้ถังดับเพลิง และลากสายยางเข้าไปฉีดจนสามารดับเพลิงเอาไว้ได้
ต่อมาเวลา 10.00 น.พ.ต.อ.สุรชัย วัชรโยธิน รอง ผบก.กองพิสูจน์หลักฐาน พ.ต.อ.ระยอง ยังอยู่ ผกก.สน.ห้วยขวาง พร้อมพนักงานสอบสวน เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนจาก ศูนย์สืบสวนบช.น.วิศวกรโยธาฯ จากสำนักโยธาฯ กทม.และวิศวกรจากวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ได้เข้าไปตรวจสอบในที่เกิดเหตุอย่างละเอียดอีกครั้งโดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที
พ.ต.อ.สุรชัย เปิดเผยว่า เบื้องต้นยังไม่สามารถตรวจสอบหาจุดต้นเพลิงได้ เนื่องจากอยู่ระหว่างอาคารเอกับอาคารบี ซึ่งจะต้องประสานทางเจ้าของอาคารขอทุบกระจกออกเพื่อไปตรวจสอบว่า บริเวณจุดต้นเพลิงนั้นมีเครื่องจักรอะไรอยู่หรือไม่ ซึ่งจากการตรวจสอบด้วยสายตานั้น ยังไม่สามารถมอบเห็นได้ชัดว่าสาเหตุของเพลิงไหม้เกิดจากอะไร
ต่อมา พ.ต.ต.ณัฐพงษ์ วงศ์ศรีอ่อน พนักงานสอบสวน (สบ.2) สน.ห้วยขวาง ได้เชิญนายธรรมนันท์ ชนะภัย อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 174/31 หมู่ 2 ต.สวนหลวง อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร วิศกรก่อสร้างของบริษัทฤทธา เป็นบริษัทรับเหมาก่อสร้างอาคารที่เกิดเหตุ โดยนายธรรมนันท์ ให้การว่า เมื่อเวลาประมาณ 20.30 น.ของวันที่ 8 ม.ค.ที่ผ่านมา ตนเองได้เข้ามาที่สำนักงานซึ่งอยู่ชั้น 6 ของตัวฐานตึก เพื่อรวบรวมเอกสารเพื่อจะส่งมอบงานให้กับผู้ว่าจ้างในวันที่ 15 ม.ค. จนกระทั่งเวลาประมาณ 03.00 น.ตนเองก็เกิดง่วงนอน เลยลงลิฟท์ด้านหลังอาคารเพื่อจะเดินทะลุไปอาคารบี กลับไปบ้าน แต่ขณะนั้นตนก็หันไปเห็นว่ามีแสงเพลิงเกิดขึ้นที่ชั้น 15 ของอาคารบี จึงรีบแจ้งรปภ.ให้ทราบว่ามีเพลิงไหม้ ก่อนจะแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ทำการดับเพลิง
เวลา 12 .00 น.ที่ สน.ห้วยขวาง ได้มีนายมนูญ จรูญประโดน อายุ 41 ปี พนักงานขับรถขสมก.เดินทางเข้าแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ว่า ขณะเกิดเหตุเพลิงไหม้ได้มีคนร้ายเข้าไปขโมยทรัพย์สินภายในบ้านของตนเอง โดยขณะเกิดเหตุตนเองกำลังนอนหลับพักผ่อนอยู่ในบ้าน เมื่อเกิดเพลิงไหม้ก็รีบวิ่งหนีออกมาโดยที่ไม่ได้หยิบทรัพย์สินอะไรออกไปเลย เมื่อกลับเข้ามาก็พบว่า กระเป๋าสตางค์ พร้อมเงินสดจำนวนหนึ่ง นาฬิกา เสื้อผ้า และเอกสารบางส่วนถูกคนร้ายขโมยไป โดยยังมีเพื่อนบ้านอีกหลายคนที่ถูกลักทรัพย์แบบเดียวกันกับตน ซึ่งคาดว่าจะทยอยเดินทางกันเข้ามาแจ้งความภายหลัง
ด้าน พ.ต.ท.ยิ่งยศ อินทบุหรั่น รอง ผกก.สส.สน.ห้วยขวาง กล่าวว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่สอบคำได้แต่เพียง รปภ.ที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ด้านนอกอาคารเท่านั้น ส่วนเจ้าของอาคารและบริษัทผู้รับเหมานั้นกำลังติดต่อให้เข้ามาพบพนักงานสอบสวนเพื่อสอบปากคำ ส่วนเรื่องค่าเสียหายนั้น ยังไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าจำนวนเท่าใด ทั้งนี้สำหรับประชาชนที่อยู่ใกล้เคียงและได้รับความเสียหายจากเหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้ ให้รวบรวมหลักฐานและนำมาแจ้งความที่สน.ห้วงขวาง โดยเจ้าหน้าที่ได้จัดพนักงานสอบสวนไว้รอแล้ว
ทางด้านฝ่ายสื่อสารองค์กร บริษัท ทีซีซี แลนด์ ดีเวลล็อปเมนท์ จำกัด ผู้รับจ้างบริหารอาคารดังกล่าวได้ออกเอกสารชี้แจงสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ว่า อาคารสำนักงานที่เป็นอาคารคู่ 51 ชั้น และ 47 ชั้น เพลิงได้ลุกไหม้สติ๊กเกอร์ที่ห่อหุ้มแผ่นอะลูมิเนียมภายนอกอาคาร ทำให้แผ่นอะลูมิเนียมและกระจกบางส่วนได้รับความเสียหาย โดยไม่ได้ก่อความเสียหายภายในอาคาร หรือต่อโครงสร้างของอาคารใดๆ ทั้งสิ้น ซึ่งเมื่อเกิดเหตุ ระบบป้องกันอัคคีภัยและระบบรักษาความปลอดภัยของอาคาร หรือ ระบบสปริงเกิลได้ทำงานตามปกติ ทั้งนี้ เพลิงได้ลุกไหม้เป็นเวลาครึ่งชั่วโมงจึงสงบลง และไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ โดยมีบริษัทฤทธา เป็นผู้รับเหมาก่อสร้างและกำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้างให้แล้วเสร็จ
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบเพิ่มเติมภายหลังที่เพลิงสงบลงได้ปรากฏว่า พบเศษกระจกจากอาคารดังกล่าวได้ตกลงมาใส่อาคารของศูนย์รถยนต์ บีดี ออโต้ ซึ่งเป็นบริษัทรับซื้อขายและจัดไฟแนนซ์รถยนต์ ที่อยู่ใกล้กับอาคารดังกล่าว ส่งผลให้รถยนต์หรูหลายคัน อาทิ BMW Jaguar และ Benz ถูกเศษกระจกและเศษกระเบื้องตกใส่ได้รับความเสียหายจำนวน 10 คัน