กิตตินันท์ นาคทอง Facebook.com/kittinanlive
ยุคนี้คนรุ่นใหม่ไม่มีใครไม่รู้จัก “พอร์นฮับ” (Pornhub) เว็บไซต์ภาพยนตร์สำหรับผู้ใหญ่ชื่อดัง แม้เว็บนี้จะก่อตั้งเมื่อปี 2550 หรือเมื่อ 12 ปีก่อน แต่เมื่อทุกเพศทุกวัยเข้าถึงอินเตอร์เน็ตได้ง่าย ขอแค่มีมือถือ ก็ยิ่งทำให้กลายเป็นที่รู้จักกันมากขึ้น
ลักษณะของพอร์นฮับ ไม่ต่างอะไรกับ ยูทูป (YouTube) ตรงที่สมาชิกสามารถอัพโหลดและแบ่งปันวีดีโอคลิปออกสู่สาธารณะมากขึ้น มีความเป็น User Generated Content คือทุกคนสามารถผลิตคอนเทนต์นั้นออกมาได้เอง
เพราะฉะนั้น ไม่ว่าจะเป็นคลิปถ่ายกันเอง หรือคลิปแอบถ่าย ก็มีคนแบ่งปันอัปโหลดลงเว็บไซต์แห่งนี้ให้ได้เชยชม แบบชนิดที่ว่าปราศจากการควบคุม แม้สื่อลามกอนาจารจะเป็นเรื่องต้องห้ามตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ของไทยก็ตาม
ปัจจุบันพอร์นฮับมีผู้เข้าชมทั่วโลกประมาณ 42 ล้านคน มีการค้นหาทั้งสิ้น 39,000 ล้านครั้ง กลุ่มผู้ชมส่วนใหญ่เป็นผู้ชายอายุระหว่าง 25-34 ปี ซึ่งถือว่าเป็นกลุ่มวัยเริ่มต้นทำงาน
ที่ผ่านมา ไทยติดอันดับผู้เข้าชมเว็บไซต์พอร์นฮับเป็นอันดับต้นๆ สถิติล่าสุดปี 2019 (2562) แม้จะเป็นประเทศที่เข้าชมเว็บไซต์อันดับที่ 17 ของโลก แต่ครองแชมป์เข้าชมวีดีโอคลิปนานที่สุดในโลก เฉลี่ย 11.21 นาทีต่อการเข้าชมเว็บไซต์ 1 ครั้ง
แม้ในอดีตทางการจะแบนเว็บไซต์ลามกอนาจาร หรือเว็บโป๊อย่างต่อเนื่อง แต่ยิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุ เพราะยังมีวิธีที่เข้าชมเว็บไซต์ที่ถูกบล็อกได้ อีกทั้งที่ตั้งเซิร์ฟเวอร์เว็บไซต์อยู่ที่ต่างประเทศ จึงเป็นการยากที่จะควบคุม
อันเนื่องมาจากข่าวโซเชียลเมื่อช่วงหลังปีใหม่ที่ผ่านมา ในโลกโซเชียลต่างแชร์วีดีโอคลิป “คู่รักเอาท์ดอร์” เมื่อชายหญิงคู่หนึ่งเปลือยกายมีเพศสัมพันธ์ ภายในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งย่านบางเขน กรุงเทพฯ
กลายเป็นที่วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสม สร้างความเสื่อมเสียแก่มหาวิทยาลัยอย่างยิ่ง แต่ก็เชื่อว่ามีหลายคนต่างเข้าไป “ตามวาร์ป” กันเป็นจำนวนมาก พร้อมกับส่งเสียงวิจารณ์คู่รักรายนี้หลากหลายอารมณ์
ตำรวจ สน.บางเขนถึงกับนั่งไม่ติด ส่งชุดสืบสวนลงพื้นที่มหาวิทยาลัยชื่อดัง พบว่าอาศัยช่วงยามวิกาลขับรถเข้าไปในประตูมหาวิทยาลัยที่เปิดตลอด 24 ชั่วโมง ก่อนจะถ่ายคลิปบริเวณใต้ต้นปาล์มข้างสนามเทนนิส
แม้ทั้งคู่จะเบลอหน้า เผยให้เห็นเฉพาะท่อนล่างขณะมีเพศสัมพันธ์แบบโจ๋งครึ่ม แต่ลายน้ำ “Whitefoxsex” ที่บ่งบอกฉายาของทั้งคู่ ทำให้การแกะรอยเพื่อติดตามตัวทั้งคู่ทำได้ไม่ยากนัก
ที่ผ่านมา ทั้งคู่เคยเปิดบัญชีทวิตเตอร์เพื่อโชว์คลิปขณะมีเพศสัมพันธ์ ก่อนจะเชิญชวนเข้ากลุ่มไลน์ที่เรียกกันว่า “กลุ่ม VIP” เสียค่าสมาชิกแรกเข้า 300 บาท ต่อไปเดือนละ 150 บาท แต่ก็พบว่ามีคนเข้าร่วมในกลุ่มไม่เยอะ
ต่อมาทั้งคู่สมัครสมาชิกพอร์นฮับในฐานะ “แอมะเทอร์ โปรแกรม” (Amateur Program) โดยอัปโหลดคลิปเพื่อสร้างรายได้จากการเข้าชม ผ่านส่วนแบ่งโฆษณา รวมทั้งขายคลิปที่ตั้งราคาได้เอง ซึ่งจะได้ส่วนแบ่ง 65% จากราคาขาย
ลักษณะนี้เรียกอย่างไม่เป็นทางการว่า “พอร์นฮับเบอร์” (Pornhubber) คล้ายกับ “ยูทูปเบอร์” (Youtuber) ที่มีบรรดาคนรุ่นใหม่เข้าไปทำกันอย่างกว้างขวาง สร้างรายได้จากยอดวิวเป็นกอบเป็นกำ และกลายเป็นอินฟลูเอนเซอร์อีกนับไม่ถ้วน
เพียงแต่ว่า “พอร์นฮับเบอร์” ยังเป็นเรื่อง “ต้องห้าม” ในสังคมไทย เพราะมีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14 (4) นำข้อมูลลามกเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ขนาดสมัยก่อนภาพยนตร์ที่เห็นอวัยวะเพศชัดเจน คณะกรรมการพิจารณาภาพยนตร์ไม่อนุญาตให้ฉายอยู่แล้ว ที่ขายออกมาเป็นซีดีในสมัยก่อน ก็มีเพียงแค่ภาพยนตร์ที่เรียกว่า “หนังบดไข่” คือมีฉากเพศสัมพันธ์แต่ไม่ได้เห็นของสงวนเด่นชัด
แม้ว่าคดีคู่รักเอาท์ดอร์จะเป็น “พอร์นฮับเบอร์” มือใหม่ ท่ามกลางสิ่งลามกอนาจารเป็นเรื่องต้องห้าม แต่ในความเป็นจริง การสร้างรายได้จากคลิปลามกอนาจาร โดยเฉพาะการมีเพศสัมพันธ์นอกสถานที่เกิดขึ้นมานานแล้ว
ย้อนกลับไปในปี 2557 สามีภรรยาคู่หนึ่งถ่ายคลิปมีเพศสัมพันธ์ระหว่างอาบน้ำ ในห้องน้ำโรงพยาบาลของรัฐแห่งหนึ่งที่ จ.สมุทรสงคราม พร้อมประกาศเชิญชวนเข้ากลุ่มวีไอพีเพื่อชมคลิปฉบับเต็ม ในตอนนั้นตำรวจจับกุมทั้งคู่เอาไว้ได้
หรือจะเป็นช่วงปี 2562 มีภาพหนุ่มสาวคู่หนึ่ง มีเพศสัมพันธ์บริเวณชั้นวางสินค้าในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง แม้จะจับกุมชายหญิงคู่นั้นไม่ได้ แต่ตำรวจ ปอท.ก็จับกุม “แอดมิน” คนดูแลเว็บไซต์ที่เผยแพร่คลิปดังกล่าวเอาไว้
กลับมาที่มหาวิทยาลัยชื่อดัง ในความเป็นจริงไม่มีอาชญากรคนไหนที่ไม่ทิ้งร่องรอย ตำรวจ สน.บางเขนตามสืบไปถึงเจ้าของบัญชีที่ทั้งคู่จ้างเปิดเพื่อรับเงินโอน พบว่าเป็นเยาวชนอายุเพียง 16 ปี เมื่อเรียกตัวมาสอบปากคำจึงทราบตัวผู้ก่อเหตุ
เมื่อตำรวจรวมทั้งกระแสสังคมกดดันอย่างหนัก ในที่สุดผู้ก่อเหตุทั้งสอง จึงยอมเข้ามอบตัวกับตำรวจ สน.บางเขน เมื่อวันที่ 21 มกราคม 2562 ที่ผ่านมา ฝ่ายชายเป็นนักศึกษาปริญญาโท อายุ 30 ปี ฝ่ายหญิงเป็นแฟนสาว อายุ 24 ปี
รับสารภาพว่าที่ทำไปนั้นเพราะ “อยากเลียนแบบคลิปโป๊ที่เคยดู”
เรื่องนี้จบลงที่ทั้งคู่เข้ามอบตัว ในข้อหาขายหน้าต่อธารกำนัล ผลิตภาพยนตร์ลามก และนำข้อมูลลามกเข้าสู่ระบบตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ได้รับการประกันตัวไปสู้คดีในชั้นศาล
ที่น่าตกใจก็คือ ทราบมาว่าฝ่ายชายเป็น “ศิษย์เก่า” จบปริญญาตรีวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเดียวกันกับที่ก่อเหตุอีกต่างหาก เป็นไปได้ว่าคงรู้จักและคุ้นเคยสถานที่เป็นอย่างดี รู้ว่าตรงไหนเป็นจุดมุมอับลับตาคนพอที่จะถ่ายทำได้
เมื่ออินเตอร์เน็ตเข้าถึงคนทุกวัย ผู้คนก็อยากจะสร้างสรรค์อะไรก็ได้ โดยปราศจากการกลั่นกรอง ควบคุม และไม่ตระหนักถึงพลังที่จะสร้างผลกระทบทั้งในด้านบวกและลบที่จะตามมาในวันข้างหน้า
เราอาจจะเคยเห็นยูทูปเบอร์ที่ทำอะไรห่ามๆ ทั้งทรมานสัตว์ กลั่นแกล้งผู้อื่น ทำทรัพย์สินทางราชการเสียหาย ฯลฯ สุดท้ายมักจะลงเอยด้วยการหงายการ์ดรู้เท่าไม่ถึงการณ์อยู่เรื่อยๆ
ขณะที่สื่อลามกอนาจารยังเป็นสิ่งต้องห้ามตามกฎหมายและสังคมไทย แต่ในยุคนี้ก็จะมีคนอีกกลุ่มหนึ่งที่ “ไม่เชื่อ” ในสิ่งต้องห้ามเหล่านั้น ไม่เชื่อในหลักศีลธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณี แต่เชื่อในความเป็นตัวของตัวเอง ทำยังไงก็ได้ที่จะสนองต่อความต้องการของตัวเองให้ได้มากที่สุด
เรื่องราวของ “คู่รักเอาท์ดอร์” จึงน่าคิดว่า วันหนึ่งเราอาจจะได้เห็นผู้คนตั้งตนเป็นพอร์นฮับเบอร์ หรือเป็นครีเอเตอร์สายดาร์ค กระจายตัวตามโซเชียลต่างๆ เพื่อสร้างรายได้อย่างไม่เคอะเขิน เพียงแค่ปกปิดใบหน้าเท่านั้นเพื่อไม่ให้ใครจับได้
ขึ้นอยู่กับว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะ “รับมือ” หรือ “รู้เท่าทัน” อย่างไรกับพฤติกรรมเหล่านี้