xs
xsm
sm
md
lg

“แบงกิ้ง เอเยนต์” จำเป็นแค่ไหน?

เผยแพร่:   โดย: กิตตินันท์ นาคทอง


ในโซเชียลแห่แชร์เว็บคลิกเบท (Clickbait) ตีข่าวร้านสะดวกซื้อดัง “เซเว่นอีเลฟเว่น” ได้รับการอนุมัติให้เป็นตัวแทนธนาคาร รับฝากเงิน ถอนเงิน โอนเงิน 24 ชั่วโมง เหมือนธนาคารพาณิชย์

แม้ในเนื้อหาจะอ้างถึงกรณีที่ น.ส.ดารณี แซ่จู ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายกลยุทธ์สถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย ระบุว่า ในเร็วๆ นี้ จะมีการประกาศหลักเกณฑ์การเป็นตัวแทนธนาคาร (Banking Agent)

แค่ยังไม่ประกาศ แต่ก็ตีความกันไปใหญ่ว่า เซเว่นฯ กำลังจะทำธุรกิจธนาคาร!

ไม่นับรวมเสียงวิจารณ์ทำนองว่า “เจ้าสัว” กินรวบประเทศอย่างนั้น “พนักงานแบงก์” จะตกงานงี้ ธนาคารพาณิชย์ยักษ์ใหญ่ก็ประกาศควบรวมสาขาจาก 1,200 เหลือ 400 สาขาไปก่อนหน้านี้

ทำเอาแบงก์ชาติต้องออกมาบอกว่า “ใจเย็นๆ”

ยืนยันว่า ในขณะนี้ยังไม่ได้อนุญาตให้เอกชน โดยเฉพาะ “เซเว่นอีเลฟเว่น” มาขอใบอนุญาตทำธุรกิจ “ธนาคารพาณิชย์ใหม่” แต่อย่างใด

ภาพ “ธนาคารเซเว่น” ที่มีอยู่ในโลกโซเชียล ก็เป็นธนาคารเซเว่นแบงก์ของญี่ปุ่น

ส่วนรูปแบบการฝากเงิน ถอนเงิน โอนเงิน ในร้านสะดวกซื้อ เป็นเพียงแค่ในฐานะ ตัวแทนธนาคาร หรือ แบงกิ้ง เอเยนต์ (Banking Agent) ที่ธนาคารพาณิชย์แต่ละแห่งแต่งตั้งนิติบุคคลรายใดรายหนึ่งเท่านั้น

ซึ่งขณะนี้ “เซเว่นอีเลฟเว่น” ยังไม่ได้ประกาศอย่างเป็นทางการแต่อย่างใด

ล่าสุด แบงก์ชาติกำลังรอประกาศหลักเกณฑ์แบงกิ้ง เอเยนต์ ลงในราชกิจจานุเบกษา ในเดือนมีนาคมนี้ กำหนดให้ธนาคารพาณิชย์สามารถแต่งตั้งแบงกิ้ง เอเยนต์ได้เอง โดยไม่ต้องขออนุญาตจากแบงก์ชาติเหมือนในอดีต

และไม่ใช่จำกัดแค่ร้านสะดวกซื้อชื่อดังเท่านั้น ร้านสะดวกซื้อแบรนด์อื่นๆ สหกรณ์ กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง หรือร้านค้าชุมชน แม้กระทั่งโชวห่วยก็ทำหน้าที่แบงกิ้ง เอเยนต์ได้ แต่บุคคลธรรมดาต้องขออนุญาตเป็นรายกรณีไป

ที่สำคัญ จะเพิ่มบริการให้ลูกค้าธนาคาร สามารถถอนเงิน ผ่านแบงกิ้ง เอเยนต์ ได้ไม่เกิน 5,000 บาทต่อรายการ และไม่เกิน 20,000 บาทต่อวัน ต่อเลขที่บัตรประจำตัวประชาชน

อันที่จริง “แบงกิ้ง เอเยนต์” ก็ไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะตั้งแต่ปี 2553 แบงก์ชาติก็อนุมัติให้ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เป็นตัวแทนรับฝากเงินให้กับธนาคารพาณิชย์แล้ว ณ ที่ทำการไปรษณีย์ทุกแห่ง

เพียงแต่ธนาคารที่ให้ฝากเงินทางไปรษณีย์ได้ มีเพียงธนาคารขนาดเล็ก และต้องเสียค่าธรรมเนียม เช่น ธนาคารไทยเครดิตเพื่อรายย่อย กรุงศรีอยุธยา ทหารไทย ซีไอเอ็มบี ไทย ทิสโก้ และ ยูโอบี

รับฝากเงินจากผู้ใช้บริการเป็นเงินสดไม่เกิน 50,000 บาทต่อรายการ ไม่เกิน 100,000 บาทต่อบัญชีต่อวัน
ปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารทหารไทย หรือ TMB
วันก่อน คุณปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารทหารไทย หรือ TMB ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีแบงกิ้ง เอเยนต์ ว่า ที่แต่งตั้งไปรษณีย์ไทยเป็นแบงกิ้ง เอเยนต์ เมื่อ 4 - 5 ปีก่อน เพื่อตอบโจทย์กลุ่มซัปพลายเชนเป็นหลัก

โดยเฉพาะกลุ่ม ปตท. ที่เจ้าของปั้มน้ำมันต้องเอาเงินสดเข้าบัญชีธนาคารทุกวัน เพื่อมาจ่ายสินเชื่อซื้อน้ำมันจาก ปตท. ก็ให้เอาเงินไปเข้าบัญชีทีเอ็มบีได้ที่ไปรษณีย์ไทย เพื่อที่จะได้นำเงินมาชำระเงินกู้ได้

แต่สำหรับลูกค้าบุคคลธรรมดา แม้จะสามารถไปใช้บริการได้ แต่ก็ชัดเจนว่าไม่ได้เป็นที่นิยมสักเท่าไหร่ ถึงแบงกิ้ง เอเยนต์ เป็นสิ่งที่มีประโยชน์ แต่ก็ต้องถามว่าคนกลุ่มไหนที่จะใช้?

ในส่วนของทีเอ็มบี ยังมีการคุยกับร้านสะดวกซื้อเรื่องแบงกิ้ง เอเยนต์ อยู่บ้าง เป้าหมายหลัก ๆ ไม่ได้ทำเพื่อทดแทนสาขา แต่ต้องการตอบโจทย์ลูกค้าบางกลุ่ม

ที่ผ่านมา ธนาคารได้ทดลองเทคโนโลยีต่าง ๆ เช่น เครื่องรับฝากเงินสด (ADM) หรือเครื่องฝาก/ถอนเงินสดในตัว ซึ่งตอบโจทย์ได้ระดับหนึ่ง แต่ก็มีปัญหาเรื่องสภาพธนบัตรที่นำมาฝาก และต้องซ่อมบำรุงอยู่บ่อยครั้ง

ที่สำคัญ การทำแบงกิ้ง เอเยนต์ ไม่ได้ตอบโจทย์ธนาคารอย่างเดียว แต่ตอบโจทย์ร้านสะดวกซื้อ ที่มีปัญหาเรื่องการนำเงินสดกลับเข้าสู่ระบบ หากทำได้ก็ถือว่าตอบโจทย์ทั้งสองฝ่าย การหมุนของระบบขนส่งเงินสดก็จะหายไป

โดยระยะแรกจะเน้นการฝากเงินก่อน เพราะการโอนเงินออก มีพร้อมเพย์ซึ่งเป็นเรื่องง่าย มีตู้เอทีเอ็ม และผลิตภัณฑ์บัญชีทีเอ็มบี ออล ฟรี ที่สามารถกดเงินสดได้ฟรี ที่ตู้เอทีเอ็มทุกตู้ทั่วประเทศ

ที่สำคัญ การถอนเงินยากกว่า จะรู้ได้ยังไงว่าเป็นตัวเรา บัญชีเราจริง เพราะฉะนั้น ความปลอดภัยจึงเป็นสิ่งสำคัญ ทำอย่างไรให้มั่นใจได้ว่าเงินของลูกค้าได้รับการปกป้อง

ขณะนี้กำลังทำเทคโนโลยีบางอย่าง เพื่อให้การพิสูจน์ตัวตนตามที่ต่างๆ โดยเฉพาะเวลาถอนเงินจากบัญชีเป็นไปได้โดยง่าย อาจจะใช้วิธีแสดงข้อมูลที่มือถือของเรา เพื่อให้รู้ว่าตัวเรามาจริง แล้วก็ไปถอนเงินที่แบงกิ้ง เอเยนต์

____________________

จากที่ได้ฟังคุณปิติให้สัมภาษณ์ คำถามที่น่าคิดก็คือ “คนกลุ่มไหนที่จะใช้บริการแบงกิ้ง เอเยนต์”?

ในส่วนของลูกค้าบุคคลรายย่อย ที่ผ่านมา แม้ธนาคารพาณิชย์มีความพยายามที่จะเพิ่มช่องทางนอกธนาคาร ทั้งขาเข้า เช่น ฝากเงินสดเข้าบัญชีธนาคารผ่านตู้เติมเงิน ส่วนขาออก โอนเงินจากตู้เอทีเอ็ม รับเงินที่ร้านสะดวกซื้อหรือไปรษณีย์

แต่ที่ไม่ได้รับความนิยม เพราะค่าธรรมเนียมที่สูง ตั้งแต่ 30 – 65 บาทต่อรายการ

อีกทั้งบางธุรกรรม เช่น การฝากเงิน เมื่อเห็นค่าธรรมเนียมที่สูง ลูกค้าก็จะคิดว่า ฉันเอาเงินเข้าธนาคาร ดอกเบี้ยเงินฝากที่ได้รับก็ต่ำอยู่แล้ว ฉันควรจะต้องเสียค่าฝากด้วยเหรอ?

เพราะฉะนั้น วิธีการแบบดั้งเดิม คือไปธนาคาร จึงยังเป็นที่นิยมสำหรับลูกค้าบุคคลธรรมดา ระยะหลังธนาคารต่างๆ นำเครื่องอิเล็กทรอนิกส์มาใช้ เช่น เครื่องรับฝากเงินสด แต่ก็ประสบปัญหาเครื่องขัดข้องอยู่บ่อยครั้ง

สิ่งสำคัญที่ลูกค้าจะพิจารณา คือ ค่าธรรมเนียมที่แต่ละธนาคารจะกำหนดอยู่ที่เท่าไหร่ เพราะอย่าลืมว่า การที่ร้านสะดวกซื้อ หรือร้านค้า ยิ่งมีจำนวนสาขามากเท่าไหร่ ยิ่งมีอำนาจต่อรองกับธนาคารมากขึ้นเท่านั้น

หากร้านสะดวกซื้อ หรือร้านค้า ตกลงค่าธรรมเนียมในอัตราที่แพง ลูกค้าจะยิ่งรู้สึกเหมือนถูกเอารัดเอาเปรียบ แล้วภาระก็ยังคงตกอยู่กับธนาคารเช่นเดิม หรือสูญเสียลูกค้าไปธนาคารอื่น เพราะแบงกิ้ง เอเยนต์ที่แต่งตั้งไม่ค่อยมีใครใช้บริการ

ส่วนข้อมูลลูกค้าที่ธนาคารมีอยู่ในมือ บางธนาคารมองว่าก็เหมือนกับการจ่ายบิล แต่บางธนาคารกลับต้องดูในหลายจุดให้ดีเสียก่อน โดยเฉพาะความปลอดภัยของลูกค้า

เพราะแบงกิ้ง เอเยนต์ จะรู้พร้อมกับธนาคารว่าลูกค้าทำธุรกรรม เช่น ชื่อบัญชีอะไร จำนวนเงินเท่าไหร่ เสียค่าธรรมเนียมไปเท่าไหร่ ความถี่ในการใช้บริการผ่านแบงกิ้ง เอเยนต์ของเราบ่อยแค่ไหน ฯลฯ

และด้วยเทคโนโลยีทางการเงิน เช่น โมบายล์แบงกิ้ง ระบบพร้อมเพย์ ที่เงินในระบบธนาคารสามารถหมุนเวียนกันได้ รวมทั้งเครื่องเอทีเอ็มที่มีจำนวนมาก แทบจะไม่จำเป็นต้องพึ่งพาแบงกิ้ง เอเยนต์ เลย

นอกเสียจากในพื้นที่ห่างไกล หรือไม่มีเอทีเอ็มมาติดตั้ง เช่น ตามพื้นที่ชนบท ร้านค้าชุมชนสามารถทำหน้าที่เป็นแบงกิ้ง เอเยนต์ ได้ แต่ธนาคารก็ต้องดูแลสภาพคล่องของร้านค้าอย่างใกล้ชิด

เรื่องแบงกิ้ง เอเยนต์ แม้จะไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่เมื่อมีเรื่องการถอนเงินเพิ่มเข้ามา ก็ต้องดูแลกันอย่างใกล้ชิด ไม่ต่างจากเรื่องพร้อมเพย์ที่มีเรื่องข้อมูลส่วนบุคคล เช่น เลขที่บัตรประจำตัวประชาชน หรือ เบอร์โทรศัพท์มือถือ เข้ามาเกี่ยวข้อง

เพราะสิ่งสำคัญควบคู่กับความสะดวกก็คือ ความปลอดภัย ทั้งเงินในบัญชี ข้อมูลส่วนตัว และข้อมูลธุรกรรมของลูกค้านั่นเอง


กำลังโหลดความคิดเห็น