xs
xsm
sm
md
lg

เมื่อม.5 น่ากลัวยิ่งกว่า ม.44

เผยแพร่:   โดย: ยุรชัฏ ชาติสุทธิชัย


เล่าเรื่องเวียดนามประเทศเพื่อนบ้านไปสามตอน เป็นช่วงที่ในบ้านเราเองก็มีข่าวสารสำคัญหลายเรื่อง การทำประชามติรัฐธรรมนูญที่มาพร้อมคำถามพ่วง ก็ผ่านฉลุยไปในที่สุด แต่เสียงระเบิดที่ตามมานั้นเป็นสิ่งที่น่ากังวลไม่น้อย เมื่อประชาชนออกมาลงคะแนนเสียงรับร่างรัฐธรรมนูญมองในมุมหนึ่งคนส่วนใหญ่ที่รับร่างนั้นก็ต้องเชื่อมั่นและเชื่อมือในตัวนายกลุงตู่ละครับว่าจะทำให้ประเทศไทยเดินหน้าต่อไปได้

แต่ตอนนี้ผมละเซ็งกับข่าวของคุณหมอคนหนึ่ง ซึ่งเป็นข่าวฉาวมาหลายวันแล้ว ไม่ใช่หมอที่ผ่าตัดสำเร็จ ไม่ใช่หมอที่เสียสละทำคุณประโยชน์อะไรหรอกครับ หากแต่เป็นหมอคนหนึ่งที่เคยโด่งดังและรับรางวัลมากมาย วันนี้หมอคนนนี้เอาพื้นที่สื่อมวลชนทุกค่ายทุกสำนักไปเต็มๆ กับพฤติกรรมที่จับนักข่าวแก้ผ้า สืบเนื่องจากนักข่าวไปติดตามข่าว กรณีที่ตัวหมอเองมีภาพหลุดไปผูกข้อไม้ข้อมือกับสาวน้อยวัยใสชั้นม.5 ตรงหน้ามีพระพุทธรูปบนพานมีธนบัตรสี่ปึกใหญ่ มีข่าวว่าให้เงินสี่แสนบาทและรถยนต์อีกหนึ่งคันเป็นสินสอด ผมคงไม่ต้องลงรายละเอียดมากนักนะครับ ข่าวนี้ทุกคนคงตามกันอยู่แล้ว

โดยวัยและวุฒิภาวะ คนที่เป็นหมอวัยห้าสิบเศษ มีดีกรีดอกเตอร์นำหน้า ผ่านการบวชเรียน เคยสังกัดพรรคการเมืองใหญ่ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เป็นนักการเมืองระดับชาติ และระดับท้องถิ่น เรื่องแบบนี้ไม่น่าเกิดเลยละครับ คนระดับนี้เป็นข่าว ไม่ใช่คนเล็กๆหรือชาวบ้านทั่วไป แต่เป็นบุคคลสาธารณะด้วยซ้ำ

เมื่อมีภาพหลุดเป็นข่าว เป็นที่สนใจของคนทั่วไปเป็นธรรมดา มีนักข่าวหลายสำนักติดตามไปทำข่าวในพื้นที่

แทนที่จะชี้แจงว่าเกิดอะไรขึ้น หมอคนนี้ดันไปจับคุณลุงนักข่าวเดลินิวส์แก้ผ้าซะอีก อันนี้ก็ทำเกินไป แถมมีข่าวภรรยาตัวจริง ซึ่ง เป็นใครก็คงโกรธ หมอโกรธเกรี้ยวกราดระบายมาลงกับนักข่าว ในห้องสถานที่ราชการที่เกิดเหตุวันนั้นมีนักข่าวอยู่หลายคน มีนักข่าวผู้หญิงรวมอยู่ด้วย การกระทำแบบนี้ผมว่าไม่มีความเป็นลูกผู้ชายหลงเหลืออยู่แล้วละครับ

นักข่าวทุกคนที่ไปทำข่าววันนั้น ทุกคนหวังจะได้รับคำอธิบายจากเจ้าตัวว่ามันเกิดอะไรขึ้น ถ้ามันเป็นเรื่องเข้าใจผิดกัน ทุกคนก็คงพร้อมลงข่าวให้ใหม่หรือแก้ข่าวให้อยู่แล้ว แถมการเข้าไปคุยในห้องปิดแบบนั้นทุกคนคงคิดว่าน่าจะได้ข่าวเอ็กซคลูซีฟ สัมภาษณ์พิเศษ เจาะลึก แต่สิ่งที่เกิดขึ้นดันตรงกันข้าม กลายเป็นกักตัวนักข่าวทีวีและหนังสือพิมพ์ไว้ภายในห้องประชุม ก่อนจะให้เจ้าหน้าที่ล็อกตัวผู้สื่อข่าวเดลินิวส์ ถอดเสื้อผ้าเหลือแต่กางเกงใน

จริงๆแล้วนักข่าวท้องถิ่นกับนักการเมืองในพื้นที่เป็นอะไรที่รู้จักมักจี่กันดีอยู่แล้ว


การพูดคุยกันเป็นเรื่องธรรมดา กรณีนี้จริงๆมีทางเลือกอื่นที่ดีกว่า ไม่จำเป็นต้องใช้การกระทำรุนแรงเกินเหตุ แต่ดันเลือกที่จะไม่ทำแบบนั้น

สมาคมสื่อจังหวัดที่เกิดเหตุ ออกแถลงการณ์ประณามหมอผู้นี้ คุกคาม โหดร้าย ป่าเถื่อน ละเมิดสิทธิ์จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 26 ก.ค. ณ ห้องประชุมของเทศบาล กักตัวนักข่าวทีวีและหนังสือพิมพ์ไว้ภายในห้องประชุม ก่อนจะให้เจ้าหน้าที่ล็อกตัวผู้สื่อข่าวเดลินิวส์ ถอดเสื้อผ้าเหลือแต่กางเกงใน โดยผู้สื่อข่าวจำนวน 5 คน จาก 5 สำนัก เตรียมเดินทางเข้าแจ้งความ ตามความผิดประมวลกฎหมายอาญา กักขัง หน่วงเหนี่ยว ส่วนหมอแจ้งความสื่อมวลชน ฐานบุกรุก ละเมิดสิทธิ ก็เป็นประเด็นทางกฎหมายละครับ

ชาวบ้านในพื้นที่ ผู้ปกครองนักเรียน ศิษย์เก่าของโรงเรียนรับพฤติกรรมของหมอคนนี้ไม่ได้ ก็ออกมาเรียกร้องปกป้องชื่อเสียงของโรงเรียน หมอเป็นถึงประธานกรรมการสถานศึกษาของโรงเรียนแห่งนี้ ถือว่าเป็นตำแหน่งอันสูงยิ่ง ที่สำคัญยังเป็นอาจารย์พิเศษที่สอนในโรงเรียนและสอนเด็กด้วย ซึ่งหากมากระทำอย่างนี้ตามข่าวแล้วก็เป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม

ในฐานะนายกเทศมนตรีเมือง ถือเป็นบุคคลสาธารณะ ประชาชนหรือใครก็ตามสามารถไปมาหาสู่หรือเข้าไปปรึกษาหารือในองค์กรซึ่งเป็นสถานที่ราชการ ที่กลุ่มสื่อมวลชนเข้าไปพบแต่กลับกักขังหน่วงเหนี่ยวและจับแก้ผ้านั้น มันเกินไปสำหรับผู้บริหารที่ทำเช่นนั้น ชาวบ้านเสนอให้มีการสอบสวนเอาผิดทางวินัยหมอผู้นี้ แต่ที่แน่ๆเลยคือตอนนี้มาตรการทางสังคมเกิดขึ้นแล้ว เพราะประชาชนชาวบ้านในพื้นที่เรียกร้องให้หมอชี้แจง พูดความจริง และแสดงความรับผิดชอบ

ล่าสุดแม่ของเด็กสาวออกมาเปิดเผยข้อมูลผ่านคลิปวิดีโอว่า ที่หมอทำคือการมาขอลูกสาวไปเป็นบุตรบุญธรรม ชาวบ้านก็โต้แย้งละครับ การขอบุตรบุญธรรม ต้องให้รถให้เงิน ต่อหน้าพระพุทธรูป ผูกข้อไม้ข้อมือแนบชิดกันด้วยหรือ ขอเป็นบุตรบุญธรรมตามกฎหมายต้องไปยื่นเรื่องที่อำเภอ ชาวบ้านเขาไม่เชื่อข้ออ้างนี้

แถมงานนี้ถ้าใครดูคลิปนี้ดีๆจะสังเกตได้ว่าคุณแม่ของเด็กสาวคนนี้กระพริบตาบ่อยมากๆ สำหรับใครที่ชอบอ่านการ์ตูนอย่างโคนันหรือนิยายอย่างเชอร์ล็อค โฮล์มส์แล้วละก็การกระพริบตาถี่ๆนั้นเป็นอาการของคนที่กำลังปกปิดอะไรบางอย่าง ซึ่งสอดคล้องกับตามหลักจิตวิทยาที่ว่าพฤติกรรมหนึ่งของคนที่กำลังโกหกคือการกระพริบตาถี่ๆอีกด้วย อันนี้ผมแค่สังเกตนะครับไม่ได้มีเจตนาจะใส่ร้าย เพราะการกระพริบตาถี่ๆนั้นก็อาจจะเกิดจากสาเหตุอื่นๆก็ได้

เรื่องนี้ นอกจากเป็นเรื่องคุกคามสื่อมวลชนแล้ว ยังเป็นเรื่องของคุณธรรมจริยธรรมของครูและผู้บริหาร ในโรงเรียนสถานศึกษา และหน่วยงานการเมืองท้องถิ่น

นักการเมืองท้องถิ่นบางคนยังเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ใช้ ม.44 ทวงคืนศักดิ์ศรีให้ชาวบ้านด้วย ไม่ว่าสุดท้ายเรื่องนี้จะจบลงอย่างไรแบบไหน ที่แน่ๆตอนนี้สำหรับหมอที่ตกเป็นข่าว ม.44 ที่ว่าแน่ของนายกฯ ยังไม่น่ากลัวเท่า ม.5 เลยละครับงานนี้
กำลังโหลดความคิดเห็น