ทันทีที่ข้อเสนอ5ข้อเกี่ยวกับแรงงานพม่าในประเทศออกมาในประเทศไทย มีเสียงคนไทยจำนวนหนึ่งก่นด่ากันใหญ่ในโซเชียลมีเดีย บางคนไล่ให้คนพม่ากลับประเทศ บอกว่าเป็นข้อเสนอที่มากเกินไป บางคนเอาไปอ้างว่านี่เป็นข้อเรียกร้องของอองซาน ซูจีต่อรัฐบาลไทย ก็พากันด่าทอซูจีกันใหญ่ แต่จริงๆแล้วนี่เป็นข้อเสนอของเอ็นจีโอหรือองค์กรด้านแรงงานในประเทศไทย
คำถามว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีความจำเป็นต้องใช้แรงงานต่างด้าวไหม คำตอบน่าจะรู้กันว่า แรงงานต่างด้าวกลายเป็นฟันเฟืองที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยที่สำคัญโดยเฉพาะในอุตสาหกรรมการประมง การก่อสร้าง แรงงานในภาคเกษตรกรรม และงานในระดับล่างที่คนไทยไม่ยอมทำ ถ้าไม่มีแรงงานต่างด้าวเข้ามารองรับงานประเภทนี้ ประเทศไทยจะกลายเป็นง่อยทันที ลองนึกภาพที่เขาบอกว่าสังคมไทยกำลังก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุ นั่นคือมีพลเมืองในวัยเจริญพันธุ์หรือวัยทำงานที่ต่ำลงในอนาคตถ้าไม่พึ่งแรงงานต่างด้าวเราจะเอาแรงงานที่ไหนมาขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ
และเมื่อมาดู5ข้อที่เอ็นจีโอด้านแรงงานเรียกร้องให้กับแรงงานพม่าเป็น5ข้อที่มากเกินไปไหม กลับพบว่าเป็น5ข้อที่ไม่ใช่ข้อเรียกร้องที่มากเกินไปเลย แต่เป็นสิ่งที่เขาควรจะต้องได้อยู่แล้ว
ข้อที่ 1.ขอให้เปิดจดทะเบียนแรงงานข้ามชาติ และผู้ติดตามรอบใหม่ เพราะยังมีแรงงานต่างด้าว ที่ผิดกฎหมายและลักลอบทำงานในไทย ประมาณ 1-2 ล้านคน โดยให้รัฐบาลพม่าจัดส่ง ทีมเจ้าหน้าที่และจัดตั้งศูนย์พิสูจน์สัญชาติแรงงานพม่า ร่วมกับทางการไทย เพื่อให้สามารถออกเอกสารรับรอง สถานะและสัญชาติเป็นไปอย่างรวดเร็ว โดยออกเป็นหนังสือแสดงตัวบุคคล ซึ่งไม่ใช่หนังสือเดินทาง (พาสปอร์ต) ก่อน และออกเป็นพาสปอร์ตภายหลัง ทั้งกลุ่มแรงงานพม่า ที่จดทะเบียนใหม่ และกลุ่มที่ขึ้นทะเบียนไว้แล้ว แต่อยู่ระหว่างรอพิสูจน์สัญชาติ
อันนี้นับเป็นเรื่องที่ดีด้วยซ้ำที่จะทำให้เราสามารถเอาแรงงานพม่าในประเทศไทยเข้ามาอยู่ในระบบได้ โดยปัจจุบันมีแรงงานพม่าที่อยู่และเข้ามาในช่องทางที่ถูกกฎหมายประมาณ1ล้านคน และเป็นแรงงานลักลอบ1-2ล้านคน ถ้าเราสามารถทำให้แรงงานต่างด้าวที่ทำงานในประเทศไทยทั้งหมดไม่ใช่เฉพาะแรงงานพม่า ไม่ว่าจะเคยขออนุญาตทำงานหรือไม่ รวมทั้งครอบครัวผู้ติดตาม มาขึ้นทะเบียนรายงานตัวต่อกระทรวงมหาดไทย และขออนุญาตทำงานกับกระทรวงแรงงานเราก็จะสามารถควบคุมป้องกันการจ้างแรงงานที่ไม่ถูกกฎหมายป้องกันการค้ามนุษย์ได้ และสามารถกำหนดนโยบายต่างๆที่สอดคล้องกับจำนวนแรงงานต่างด้าวที่แท้จริงได้
ข้อ 2.ขอให้ไทยบังคับใช้กฎหมาย ให้นายจ้างไทยจ่ายค่าจ้าง ตามข้อกำหนดค่าจ้างขั้นต่ำวันละ 300 บาท เนื่องจากขณะนี้นายจ้างบางส่วน ทั้งในกรุงเทพฯ สมุทรสาคร และจังหวัดต่างๆ ยังจ่ายค่าจ้างต่ำกว่าวันละ 300 บาท
ค่าแรงงาน300บาทเป็นสิ่งที่คนงานพม่าต้องได้รับอยู่แล้ว เพราะนี่เป็นค่าแรงตามกฎหมายไทย มีเหตุผลอะไรครับว่า ถ้าไม่ใช่คนไทยแต่เข้ามาทำงานในประเทศไทยแล้วควรได้ค่าจ้างต่ำกว่าค่าจ้างแรงงานขั้นต่ำที่รัฐกำหนด ค่าจ้างขั้นต่ำยังสอดคล้องกับค่าครองชีพและการดำรงชีพในประเทศไทยที่แรงงานต่างด้าวเข้ามาใช้ชีวิตอยู่ทำมาหากิน การปฏิเสธว่า พวกเขาไม่ควรได้รับตามค่าแรงขั้นต่ำเป็นการมองว่าเขามีคุณค่าความเป็นมนุษย์ที่ต่ำกว่าคนไทยเช่นนั้นหรือ
ข้อ 3. ขอสิทธิแรงงานพม่า ที่มีบัตรสีชมพู สามารถเดินทางไป ยังจังหวัดต่างๆ ได้ โดยไม่ถูกจำกัดการเดินทาง อยู่ในจังหวัดที่ทำงานเท่านั้น
ผมคิดว่าถ้าเราสามารถเอาแรงงานต่างด้าวทั้งหมดมาอยู่ในระบบได้ ข้อห้ามนี้ไม่น่าจะเป็นเรื่องที่น่ากังวลอีกต่อไป การเปิดโอกาสให้พม่าท่องเที่ยวได้นั้นจะเป็นการส่งเสริมด้านเศรษฐกิจด้วยซ้ำไป ลองคิดถึงกรณีที่คนไทยไปค้าแรงงานในต่างประเทศเราเห็นด้วยไหมถ้ามีข้อจำกัดแบบนี้ ไม่ว่าคนไทยที่ไปค้าแรงงานในเกาหลี ญี่ปุ่น ตะวันออกกลาง หรือคนไทยที่ไปขุดทองที่สหรัฐอเมริกาจนวันนี้กลายเป็นพลเมืองอเมริกาไปแล้ว
ข้อ 4.ขอให้ลงนาม MOU ระหว่างทางการไทยกับพม่า ในการนำเข้าแรงงาน มาทำงานในไทย โดยผ่านระบบรัฐต่อรัฐ ไม่มีกระบวนการนายหน้า เข้ามาเกี่ยวข้อง เพื่อไม่ให้เกิดการแสวงหาผลประโยชน์
ข้อดีของข้อนี้ก็คือ ป้องกันค้าแรงงานมนุษย์นั่นเอง ป้องกันนายหน้าแรงงานที่เอาเปรียบเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน ไม่มีอะไรที่ประเทศไทยเสียเปรียบเลย
5.ขอให้ทางการไทยดูแล บุตรหลานแรงงานพม่า ให้ได้รับการศึกษาและสาธารณสุข รวมทั้งสามารถเทียบโอน วุฒิการศึกษาระหว่างไทยกับพม่าได้
การให้โอกาสทางการศึกษานั้นนอกจากเป็นอุดมการณ์ของรัฐในแต่ละรัฐชาติแล้ว มันควรเป็นอุดมการณ์ของโลกด้วย การให้ทุกคนได้มีโอกาสด้านการศึกษามีแต่จะนำประโยชน์มาสู่โลกของเรา บุตรหลานของแรงงานของพม่าก็เช่นเดียวกัน
คนที่มีบรรพบุรุษมาจากประเทศจีนอย่างผมก็คิดว่า ถ้าในอดีตถูกหลานของคนจีนในประเทศไทยถูกปิดกั้นทางการศึกษาแล้ว หลายคนก็คงไม่มีโอกาสในวันนี้ ลองคิดดูว่าประเทศไทยในปัจจุบันจะเป็นอย่างไร ผมไม่คิดนะครับว่าแรงงานต่างด้าวที่เข้ามาอยู่ในเมืองไทยหลายล้านคนวันนี้จะกลายเป็นเหมือนคนจีนที่อพยพมาอยู่ในประเทศไทยในอดีตจนหลอมรวมกลายเป็นคนไทยทุกวันนี้ แต่ผมคิดว่าสถานการณ์ของโลกในวันนั้นกับวันนี้แตกต่างกัน วันนั้นคนจีนต้องการอพยพเข้ามาตั้งรกรากบนแผ่นดินไทย แต่วันนี้แรงงานต่างด้าวเพียงเข้ามาขุดทองในประเทศไทยเหมือนกับคนไทยที่ไปขุดทองในตะวันออกกลางซึ่งไม่มีใครกี่คนหรอกที่จะคิดตั้งรกรากในประเทศนั้น วันหนึ่งเขาก็เดินทางกลับไปสู่แผ่นดินแม่ของตัวเอง
ที่สำคัญผมคิดว่าแรงงานพม่าที่เข้ามาทำงานในประเทศนั้น ก็ไม่แตกต่างกับคนไทยที่เดินทางไปทำงานในต่างประเทศที่เจริญและมีค่าแรงสูงกว่าไทย เราก็อยากให้ได้รับการปฏิบัติในประเทศที่เราทำงานอยู่บนพื้นฐานศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ แรงงานต่างด้าวในเมืองไทยก็เช่นเดียวกัน
ผมคิดว่าถึงวันนี้เราไม่สามารถปฏิเสธแรงงานต่างด้าวได้ครับ แต่เราต้องพึ่งพิงเขาเหมือนเป็นอวัยวะส่วนหนี่งของประเทศ จะทำอย่างไรให้เขาได้รับการปฏิบัติที่ดีเท่าเทียมกันในศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์เพื่อเขาจะไม่ทำตัวเป็นภาระของประเทศเราที่เขาเข้ามาทำงาน และเป็นการตอบแทนผลประโยชน์ระหว่างกันและกันที่เป็นธรรม
ใครที่คิดว่าจะไล่แรงงานพม่าหรือแรงงานต่างด้าวกลับประเทศมั่นใจหรือว่าเราจะอยู่ตามลำพังได้