ในข่าวหลายๆ ข่าว ตั้งแต่เรื่องของการเมือง ข่าวทำร้ายร่างกาย หรือข่าวผู้ต้องหา ผู้กระทำความผิด หรือผู้ที่ทำพฤติกรรมไม่สมควร ไม่เหมาะสม ฯลฯ มักใช้ข้ออ้างเดียวกันอยู่เรื่อย คืออ้างคำว่า ”รู้เท่าไม่ถึงการณ์”
ลองมาไล่เรียงเหตุการณ์ไอ้ความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ที่ว่านี้ ในข่าวต่างๆกันสักหน่อย พอเป็นน้ำจิ้ม ให้ได้ย้อนกลับไปมองถึงเรื่องต่างๆเหล่านั้น ว่ามันควรอ้างความรู้เท่าไม่ถึงการณ์งั้นหรือ
กรณีล่าสุดก็คือคุณแจ๊ส ชวนชื่น ทำเพลงที่ชื่อยับแม่ ยกกองไปถ่ายทำกันที่พัทยา แล้วดันไปเต้นบนอนุสรณ์สถานเรือใบ ทั้งตัวคุณแจ๊สและแดนเซอร์ เต้นบนนั้นจนคนที่รู้เห็นรับไม่ได้ สุดท้ายทีมงานกลับไปขอโทษและขอขมา โดยอ้างว่าทำไปโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์
เมื่อวันที่ 21 มกราคม 2559 ช่วงนั้นคนไทยกำลังโศกเศร้าเมื่อพระเอกหนุ่มอย่างคุณ ปอ ทฤษฏี เสียชีวิตลง การเคลื่อนย้ายศพในตอนเช้ามีเหตุการณ์ชุลมุนนักข่าวรุมเข้าไปถ่ายภาพอย่างไม่เหมาะสมเกิดขึ้น พอตกเย็นในงานสวดที่วัด หญิงสาวคนหนึ่งเดินเข้าไปเซลฟี่กับน้องมะลิอย่างไร้มารยาท และโดนสังคมประณามหลังจากรูปนี้ถูกแชร์ออกไป สุดท้ายเธอต้องออกมาขอโทษและบอกว่าตนเองทำไปโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์
อีกกรณีหนึ่งคือภาพหลุดในสปาของดาราสาวอย่างเอม เจษยา เป็นภาพหลุดจากพริ้ตตี้สาวที่เธอรู้จัก พริ้ตตี้สาวให้เหตุผลว่าทำไปโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ สุดท้ายเรื่องนี้ก็จบลงด้วยการออกมาขอโทษขอโพยกันไป
ข่าวดาราสาวเอมมี่ มรกต โชว์บัตรคอนเสิร์ตวงดัง ที่นั่งติดกัน 25 ใบ แบบไม่ทันคิดว่าบัตรนั้นได้มายังไง สุดท้ายเธอก็ต้องออกมาขอโทษ แถมลากเอาดาราหนุ่มช่องเจ็ดต้องออกมาขอโทษเมื่อเจ้าตัวปากไวโพสต์วีดีโอกรณีนี้ลงยูทูบ จนคนด่ากันทั้งบ้านทั้งเมือง งานนี้ก็ยังคงอ้างความรู้เท่าไม่ถึงการณ์เช่นเคย
จากกรณีดารา ไปที่แวดวงอื่นๆกันบ้างครับ เพราะประโยคนี้มันโคตรฮิต ถูกใช้แพร่หลายในหลายๆวงการครับ
หลายท่านคงจำดีเจเก่ง ปากดีที่ถอยรถกระบะชนคู่กรณีสองครั้งซ้อน ก่อนออกมาพูดจาสร้างภาพให้ตัวเองดูดี แต่สุดท้ายครับ ภาพมันฟ้องว่าคุณดีเจเก่งนี้ละครับที่เป็นคนถอยชนคู่กรณีซะเอง เมื่อจนมุม ดีเจเก่งก็ยอมรับผิด และยังคงอ้างว่าที่ทำไปนะรู้เท่าไม่ถึงการณ์นะครับทุกคน
เมื่อวันที่ 23 มกราคม มีคลิปว่าชายคนหนึ่งจอดรถขวางถนนแถวรัชดา ตำรวจที่เข้ามาระงับเหตุดันโดนต่อยซะงั้น สุดท้ายชายคนนี้เมาแล้วขับครับ บทสรุปก็เหมือนหลายๆข่าวที่ผมยกตัวอย่างมา ครับประโยคเดิม รู้เท่าไม่ถึงการณ์กลับมาอีกแล้วครับท่านผู้ชม
ข่าว นักศึกษาสัตววิทยา มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์คนหนึ่งที่ฆ่าแมวแล้วนำเอากระดูกมาต่อเรียงประมาณว่ากระดูกไดโนเสาร์ที่เราเห็นตามพิพิธภัณฑ์ แล้วโพสต์ลงเฟซบุ๊คหน้าตาเฉย ทำนองว่าฆ่าแมวแล้วเอามาทำ ผู้คนรับไม่ได้ครับ สุดท้ายน้องก็ออกมาพูดว่าทำไปโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์
สมเด็จช่วงและรถหรูของท่าน ที่ท่านออกมายอมรับและขอปลงอาบัติ การที่ญาติโยมมาถวายของแบบนี้ท่านเองมีสิทธิที่จะไม่รับก็ได้ การทำผิดแล้วปลงอาบัติ มันไม่ต่างอะไรกับการทำผิดแล้วอ้างว่าทำไปโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ทำผิดเรื่องใหญ่แล้วขอปลงอาบัติ ศาสนาเจริญสิครับแบบนี้ พระที่ทำผิดวินัย แล้วยังมีที่ยืนลอยหน้าอยู่ต่อไป
คำว่ารู้เท่าไม่ถึงการณ์ ถ้าเป็นเด็ก ก็พอรับได้ แต่คนโตแล้ว คนเป็นใหญ่เป็นโต ผมว่า มันฟังไม่ขึ้น ผมอยากให้มีการกำหนดอายุผู้ใช้คำนี้จัง เอาเป็น อายุไม่เกิน 10 ขวบแล้วกันครับที่จะใช้คำนี้ได้ นอกนั้นก็ไม่ควรจะใช้ มันเป็นเพียงคำแก้ตัว
เรื่องที่ยกมาเป็นตัวอย่างข้างต้น จะเห็นว่าคนทำตั้งใจทำทั้งนั้นครับ จะบอกว่ารู้เท่าไม่ถึงการณ์ตรงไหนครับ ตั้งใจถอยรถชนรถคนอื่นสองหน หรือขึ้นไปยืนเต้นบนอนุสรณ์สถานเรือใบ ถามว่าไม่รู้ได้ไงคำจารึกข้างหน้าก็มี
ผมเดาว่าประโยคที่ว่า ”รู้เท่าไม่ถึงการณ์” นั้นน่าจะมีที่มาจากนักกฏหมาย ที่ใช้เลี่ยงบาลี เพื่อเป็นการทำให้การกระทำผิดนั้นได้ลดหย่อนและผ่อนผันจากการกระทำความผิด
ขอทีเถอะครับ เลิกใช้คำว่ารู้เท่าไม่ถึงการณ์สักทีเถอะครับ ผมว่าถ้าควบคุมสติอารมณ์ได้ สติมาปัญญาเกิดก็จะคิดเหตุผลได้ มีความคิดใช้ปัญญา รู้จักเคารพผู้อื่น ไม่ละเมิดสิทธิผู้อื่น การรู้จักมารยาททางสังคม รู้กาลเทศะ รู้อะไรควรไม่ควร ผมว่า เป็นเรื่องที่ต้องปลูกฝังกันทั้งในครอบครัว และโรงเรียนนั่นแหละครับ
โซเชียลเน็ตเวิร์กในโลกปัจจุบัน การสื่อสารมันกระพือแรงมาก ถ้าไม่คิดให้ดีก่อนทำ ผลมันเร็วมาก กว้างไกลมาก กระจายไปทั่วทั้งในประเทศและในโลก ถ้าไม่อยากขายขี้หน้าไปทั่วโลก ก็ช่วยกันสร้างสติปัญญาให้คนไทยกันเถิดครับ
ลองมาไล่เรียงเหตุการณ์ไอ้ความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ที่ว่านี้ ในข่าวต่างๆกันสักหน่อย พอเป็นน้ำจิ้ม ให้ได้ย้อนกลับไปมองถึงเรื่องต่างๆเหล่านั้น ว่ามันควรอ้างความรู้เท่าไม่ถึงการณ์งั้นหรือ
กรณีล่าสุดก็คือคุณแจ๊ส ชวนชื่น ทำเพลงที่ชื่อยับแม่ ยกกองไปถ่ายทำกันที่พัทยา แล้วดันไปเต้นบนอนุสรณ์สถานเรือใบ ทั้งตัวคุณแจ๊สและแดนเซอร์ เต้นบนนั้นจนคนที่รู้เห็นรับไม่ได้ สุดท้ายทีมงานกลับไปขอโทษและขอขมา โดยอ้างว่าทำไปโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์
เมื่อวันที่ 21 มกราคม 2559 ช่วงนั้นคนไทยกำลังโศกเศร้าเมื่อพระเอกหนุ่มอย่างคุณ ปอ ทฤษฏี เสียชีวิตลง การเคลื่อนย้ายศพในตอนเช้ามีเหตุการณ์ชุลมุนนักข่าวรุมเข้าไปถ่ายภาพอย่างไม่เหมาะสมเกิดขึ้น พอตกเย็นในงานสวดที่วัด หญิงสาวคนหนึ่งเดินเข้าไปเซลฟี่กับน้องมะลิอย่างไร้มารยาท และโดนสังคมประณามหลังจากรูปนี้ถูกแชร์ออกไป สุดท้ายเธอต้องออกมาขอโทษและบอกว่าตนเองทำไปโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์
อีกกรณีหนึ่งคือภาพหลุดในสปาของดาราสาวอย่างเอม เจษยา เป็นภาพหลุดจากพริ้ตตี้สาวที่เธอรู้จัก พริ้ตตี้สาวให้เหตุผลว่าทำไปโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ สุดท้ายเรื่องนี้ก็จบลงด้วยการออกมาขอโทษขอโพยกันไป
ข่าวดาราสาวเอมมี่ มรกต โชว์บัตรคอนเสิร์ตวงดัง ที่นั่งติดกัน 25 ใบ แบบไม่ทันคิดว่าบัตรนั้นได้มายังไง สุดท้ายเธอก็ต้องออกมาขอโทษ แถมลากเอาดาราหนุ่มช่องเจ็ดต้องออกมาขอโทษเมื่อเจ้าตัวปากไวโพสต์วีดีโอกรณีนี้ลงยูทูบ จนคนด่ากันทั้งบ้านทั้งเมือง งานนี้ก็ยังคงอ้างความรู้เท่าไม่ถึงการณ์เช่นเคย
จากกรณีดารา ไปที่แวดวงอื่นๆกันบ้างครับ เพราะประโยคนี้มันโคตรฮิต ถูกใช้แพร่หลายในหลายๆวงการครับ
หลายท่านคงจำดีเจเก่ง ปากดีที่ถอยรถกระบะชนคู่กรณีสองครั้งซ้อน ก่อนออกมาพูดจาสร้างภาพให้ตัวเองดูดี แต่สุดท้ายครับ ภาพมันฟ้องว่าคุณดีเจเก่งนี้ละครับที่เป็นคนถอยชนคู่กรณีซะเอง เมื่อจนมุม ดีเจเก่งก็ยอมรับผิด และยังคงอ้างว่าที่ทำไปนะรู้เท่าไม่ถึงการณ์นะครับทุกคน
เมื่อวันที่ 23 มกราคม มีคลิปว่าชายคนหนึ่งจอดรถขวางถนนแถวรัชดา ตำรวจที่เข้ามาระงับเหตุดันโดนต่อยซะงั้น สุดท้ายชายคนนี้เมาแล้วขับครับ บทสรุปก็เหมือนหลายๆข่าวที่ผมยกตัวอย่างมา ครับประโยคเดิม รู้เท่าไม่ถึงการณ์กลับมาอีกแล้วครับท่านผู้ชม
ข่าว นักศึกษาสัตววิทยา มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์คนหนึ่งที่ฆ่าแมวแล้วนำเอากระดูกมาต่อเรียงประมาณว่ากระดูกไดโนเสาร์ที่เราเห็นตามพิพิธภัณฑ์ แล้วโพสต์ลงเฟซบุ๊คหน้าตาเฉย ทำนองว่าฆ่าแมวแล้วเอามาทำ ผู้คนรับไม่ได้ครับ สุดท้ายน้องก็ออกมาพูดว่าทำไปโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์
สมเด็จช่วงและรถหรูของท่าน ที่ท่านออกมายอมรับและขอปลงอาบัติ การที่ญาติโยมมาถวายของแบบนี้ท่านเองมีสิทธิที่จะไม่รับก็ได้ การทำผิดแล้วปลงอาบัติ มันไม่ต่างอะไรกับการทำผิดแล้วอ้างว่าทำไปโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ทำผิดเรื่องใหญ่แล้วขอปลงอาบัติ ศาสนาเจริญสิครับแบบนี้ พระที่ทำผิดวินัย แล้วยังมีที่ยืนลอยหน้าอยู่ต่อไป
คำว่ารู้เท่าไม่ถึงการณ์ ถ้าเป็นเด็ก ก็พอรับได้ แต่คนโตแล้ว คนเป็นใหญ่เป็นโต ผมว่า มันฟังไม่ขึ้น ผมอยากให้มีการกำหนดอายุผู้ใช้คำนี้จัง เอาเป็น อายุไม่เกิน 10 ขวบแล้วกันครับที่จะใช้คำนี้ได้ นอกนั้นก็ไม่ควรจะใช้ มันเป็นเพียงคำแก้ตัว
เรื่องที่ยกมาเป็นตัวอย่างข้างต้น จะเห็นว่าคนทำตั้งใจทำทั้งนั้นครับ จะบอกว่ารู้เท่าไม่ถึงการณ์ตรงไหนครับ ตั้งใจถอยรถชนรถคนอื่นสองหน หรือขึ้นไปยืนเต้นบนอนุสรณ์สถานเรือใบ ถามว่าไม่รู้ได้ไงคำจารึกข้างหน้าก็มี
ผมเดาว่าประโยคที่ว่า ”รู้เท่าไม่ถึงการณ์” นั้นน่าจะมีที่มาจากนักกฏหมาย ที่ใช้เลี่ยงบาลี เพื่อเป็นการทำให้การกระทำผิดนั้นได้ลดหย่อนและผ่อนผันจากการกระทำความผิด
ขอทีเถอะครับ เลิกใช้คำว่ารู้เท่าไม่ถึงการณ์สักทีเถอะครับ ผมว่าถ้าควบคุมสติอารมณ์ได้ สติมาปัญญาเกิดก็จะคิดเหตุผลได้ มีความคิดใช้ปัญญา รู้จักเคารพผู้อื่น ไม่ละเมิดสิทธิผู้อื่น การรู้จักมารยาททางสังคม รู้กาลเทศะ รู้อะไรควรไม่ควร ผมว่า เป็นเรื่องที่ต้องปลูกฝังกันทั้งในครอบครัว และโรงเรียนนั่นแหละครับ
โซเชียลเน็ตเวิร์กในโลกปัจจุบัน การสื่อสารมันกระพือแรงมาก ถ้าไม่คิดให้ดีก่อนทำ ผลมันเร็วมาก กว้างไกลมาก กระจายไปทั่วทั้งในประเทศและในโลก ถ้าไม่อยากขายขี้หน้าไปทั่วโลก ก็ช่วยกันสร้างสติปัญญาให้คนไทยกันเถิดครับ
