xs
xsm
sm
md
lg

Pray for Paris หรือ Pray for the World?

เผยแพร่:   โดย: ยุรชัฏ ชาติสุทธิชัย


เหตุการณ์ยิงกราดและระเบิดกลางกรุงปารีสถึง 6 จุดเมื่อคืนวันศุกร์ที่ 13 พ.ย. 2558 เป็นฝีมือการก่อการร้ายของกลุ่มไอเอส จุดสำคัญจุดแรก เกิดที่ศูนย์ศิลปะบัตตากล็อง ในเขต 11 ผู้ก่อเหตุใช้ปืนออโตเมติกกราดยิงผู้มาชมการแสดงดนตรีของศิลปินอเมริกัน และจับประชาชนเป็นตัวประกันในโรงละคร จุดที่สอง ที่ร้านอาหารกัมพูชา และจุดที่สาม ใกล้กับสนามกีฬาสตาด เดอ ฟรองส์ ทางเหนือของกรุงปารีส ที่กำลังจัดแมตช์ฟุตบอลกระชับมิตรระหว่างฝรั่งเศสและเยอรมนี

ปฏิบัติการการก่อร้ายระหว่างประเทศครั้งนี้เป็นการคุกคามด้วยการใช้ความรุนแรงต่อสาธารณชนเพื่อหวังผลทางการเมือง เป้าหมายเป็นพลเรือนในพื้นที่สาธารณะขณะมีคอนเสิร์ต การแข่งขันฟุตบอล ร้านอาหาร ฯลฯ เป็นปฏิบัติการรุนแรงที่มีมูลเหตุจูงใจทางการเมือง การเตรียมการวางแผน กระทำรุนแรงเข่นฆ่าทำร้ายด้วยอาวุธ คร่าชีวิตผู้คนในกรุงปารีสไปถึง 129 คน บาดเจ็บอีกหลายร้อยคน

น่าสนใจว่าผู้ก่อเหตุร้าย เป็นคนหนุ่มในครอบครัวผู้อพยพลี้ภัยเข้าไปอยู่ในฝรั่งเศสและประเทศอื่นๆ ในยุโรป ฝรั่งเศสเป็นประเทศหนึ่งที่มีผู้อพยพลี้ภัยสงครามจากประเทศกลุ่มมุสลิมในตะวันออกกลางเข้าไปอาศัยอยู่จำนวนมาก

มีรายงานจากการสอบสวนของทางการฝรั่งเศสพบว่า ผู้บงการการก่อการร้ายครั้งนี้ คือ อับเดลฮามิด อาบาอูด สมาชิกกลุ่มหัวรุนแรงของกลุ่มไอเอส เกิดในครอบครัวผู้อพยพชาวโมร็อกโก ที่เข้ามาตั้งรกรากอยู่ในเบลเยียม เติบโตในแถบโมลองบีค-แซงต์-ฌอง ย่านที่อยู่ของคนหลายเชื้อชาติ และเป็นแหล่งซ่องสุมของพวกมุสลิมที่มีแนวคิดสุดโต่งในเมืองหลวงเบลเยียม ล่าสุดอัยการฝรั่งเศสยืนยันว่าอับเดลฮามิด อาบาอูด เสียชีวิตในการจู่โจมของตำรวจที่แซ็ง-เดอนีส์

คนร้าย 2 ใน 3 คนที่กดระเบิดฆ่าตัวตายภายในโรงละครบาตากล็อง เป็นผู้ที่เติบโตในแผ่นดินฝรั่งเศส คือ ซามี อามีมูร์ วัย 28 ปี เขาเคยอาศัยอยู่ในย่านดร็องซี เป็นย่านที่อยู่ของผู้อพยพทางตะวันออกเฉียงเหนือของกรุงปารีส เคยถูกจับฐานวางแผนก่อการร้ายในฝรั่งเศสเมื่อเดือนตุลาคม ปี 2012 และละเมิดเงื่อนไขประกันตัว หลบหนีไปยังซีเรียเพื่อเข้าร่วมกลุ่มไอเอสในเวลาต่อมา

ส่วนอีกรายหนึ่ง คือ โอมาร์ อิสมาอีล มอสเตไฟ วัย 29 ปี เกิดที่ย่านกูร์กูรอนน์สของกรุงปารีส เป็นผู้ลงมือก่อเหตุระเบิดฆ่าตัวตายบริเวณด้านนอกของสนามกีฬาสต๊าด เดอ ฟรองซ์ในย่านแซงต์-เดอนีส์ นอกจากนี้ยังมีอาหมัด อัล-โมฮัมหมัด วัย 25 ปี ซึ่งเดินทางมาจากจังหวัดอิบลิบ ในประเทศซีเรียและบิลัล ฮัดฟี วัย 20 ปี ซึ่งยังไม่ทราบประวัติที่แน่ชัด

หลังเหตุการณ์รุนแรงในปารีส ประธานาธิบดีฟรังซัวส์ของฝรั่งเศสประกาศภาวะฉุกเฉินทันที พร้อมสั่งปิดชายแดนทั่วประเทศ ตามล่าผู้ก่อการร้าย พร้อมกับเตรียมหารือประธานาธิบดีวลาดีมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย และประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ เพื่อจับมือกันจัดตั้งกองกำลังล้างบาง ไอเอส อย่างจริงจัง

การโต้กลับของฝรั่งเศสที่มีรัสเซียร่วมด้วย รวมไปถึงอเมริกาที่ไม่พลาดงานนี้ ทำให้เกิดการปูพรมถล่มซีเรีย ซึ่งเป็นฐานที่มั่นของกลุ่มไอเอส การโจมตีทางอากาศด้วยการทิ้งระเบิดกยิงขีปนาวุธ ถล่มด้วยอาวุธหนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเขตฐานที่มั่นในเมืองและบ่อน้ำมันของไอเอส ประชาชนผู้บริสุทธิ์อีกจำนวนมากบาดเจ็บล้มตาย รวมทั้งผู้หญิงและเด็ก

นอกจากการตายที่จะเพิ่มขึ้นตามความรุนแรง ชาวซีเรียก็ยิ่งจำเป็นต้องอพยพหนีภัยสงครามออกนอกประเทศมากยิ่งขึ้น หลายประเทศต้องช่วยเหลือผู้อพยพลี้ภัย และเกิดปัญหาตามมาอย่างต่อเนื่อง

หลังเหตุการณ์รุนแรงในปารีส ผู้คนทั่วโลกแสดงความเศร้าเสียใจต่อประชาชนที่บาดเจ็บล้มตายด้วยสัญลักษณ์สีธงชาติฝรั่งเศส มีการแสดงความไว้อาลัยในประเทศต่างๆประณามการใช้ความรุนแรงของผู้ก่อการร้าย

การใช้กำลังความรุนแรงตอบโต้ถล่มไอเอสในซีเรียด้วยอาวุธสงครามของมหาอำนาจตะวันตก มีผลให้ประชาชนจำนวนมากตกเป็นเหยื่อ ก็เป็นเรื่องน่าเศร้าสำหรับชาวโลก ที่สมควรต้องคัดค้านสงคราม และการแก้ปัญหาด้วยความรุนแรง ประณามการใช้ความรุนแรงของทุกฝ่ายที่กระทำต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์ นอกจากเพรย์ฟอร์ปารีส (Pray for Paris) ชาวโลกยังสมควรเพรย์ฟอร์เดอะเวิลด์ (Pray for the World1)

หลังเหตุการณ์ 9/11 กลุ่มอัลกออิดะฮ์ ปฏิบัติการโจมตีตึกเวิร์ลเทรดเซ็นเตอร์ สหรัฐฯ สร้างความสะพรึงกลัวให้กับโลกทุนนิยม จนสหรัฐอเมริกาไล่ล่าทำลายอย่างถึงที่สุด ปฏิบัติการถล่มปารีสของกลุ่มไอเอส และการโจมตีตอบโต้จากมหาอำนาจและหลายประเทศที่เกี่ยวข้อง อาจขยายตัวเป็นสงครามยืดเยื้อขยายตัว จนหลายคนวิตกจะเป็นสงครามโลกครั้งใหม่

ในขณะที่กลุ่มก่อการร้ายไม่ได้สูญสลายไป เพียงแต่เกิดการกลายพันธุ์ หรือเพาะเชื้อร้ายสร้างกลุ่มใหม่ขึ้นมาอีก อย่างกรณีกลุ่มอัลกออิดะฮ์ และต่อมามีกลุ่มไอเอส

สำหรับประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ล่าสุดเมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2558 มีรายงานข่าวว่า ขณะนี้กลุ่มติดอาวุธที่ทางการมาเลเซียต้องการตัว ได้หลบหนีอยู่ทางตอนใต้ของฟิลิปปินส์ มีการเตรียมจัดตั้งสาขาย่อยไอเอสในพื้นที่แถวนี้อย่างเป็นทางการ โดยจะมีการรวมตัวของกลุ่มติดอาวุธในมาเลเซีย กลุ่มญะมาอะห์ อิสลามียะห์ ในอินโดนีเซีย และกลุ่มอาบู ไซยาฟ ในฟิลิปปินส์

สถานการณ์การก่อการร้ายที่ขยายไปเกือบทั่วโลก และการตอบโต้ด้วยอาวุธหรือสงครามในเวลานี้ ไม่ใช่เป็นเรื่องการไว้อาลัย Pray for Paris เท่านั้นครับ แต่ชาวโลกควรจะต้องประณามการใช้ความรุนแรงของทุกฝ่ายและต้อง Pray for the World กันละครับ.
กำลังโหลดความคิดเห็น