xs
xsm
sm
md
lg

ยุโรปฉบับมโน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: พระบาท นามเมือง

คงเกรงว่าจะหายไปจากพื้นที่ข่าวเสียนาน เพราะมีข่าวการเมืองอื่นๆ รวมถึงความนิยมของนายกฯ คนปัจจุบันแย่งซีนไปหมด

ยิ่งลักษณ์และแก๊งเสื้อแดงก็เลยต้องหาปี๊บมาตีเข้าสักใบ ไม่งั้นเงียบเกินไปจะไม่เป็นการ ทั้งเสียพื้นที่สื่อทางการเมืองกลายเป็นจำเลยรอขึ้นศาลเงียบๆ แบบผู้แพ้ทางการเมืองที่ตกเวทีและต้องรับโทษทัณฑ์ของตนเองไป

ก็เลยมีการปล่อยข่าวว่า ทางสภายุโรป เชิญอดีตนายกฯ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ไปแถลงในสภากับเขาบ้าง ชะรอยว่าจะเห็นนายกฯ ตู่ได้รับเชิญไปต่างประเทศบ่อยๆ ไปผ่านไปพูดบนเวทีโลกมาหลายรายการ เลยต้องพยายามสร้างราคาในระดับที่ใกล้เคียงกัน

มีการเผยแพร่ภาพ “จดหมายเชิญ” ที่ต่อมาถูกสับเละเป็นชิ้นๆ จากคนที่เผยมีประสบการณ์ผ่านหนังสือราชการทั้งต่างประเทศและของไทย

นั่นคือความไม่เนียนในหลายจุด ตั้งแต่คำนำหน้าชื่อที่ดันใช้เป็น Thinglish ว่า Khun หรือคนส่งลงนามในจดหมาย ที่เป็นเพียงแค่ ส.ส.หรือกรรมาธิการคนหนึ่งในสภายุโรปเท่านั้น

แม้แต่นักวิชาการขวัญใจฝ่าย “แดงตาสว่าง” อย่าง ดร.สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล ยังออกมาติติงในหลายๆ จุด

สรุปรวม แม้แต่สมศักดิ์ เจียม เองยังเห็นว่า จดหมายนี้ต่อให้เป็นจดหมายจริง แต่ก็ไม่ได้มีนัยสำคัญอะไร เพราะไม่ใช่จดหมายเชิญระดับองค์กรของที่ประชุมใหญ่สภายุโรป ไม่ได้สำคัญแบบที่คนปล่อย คือทีมยิ่งลักษณ์และเพื่อไทยโปรโมตกันใหญ่โต และบรรดาแดงสาวกก็รับลูกกันไปประโคมโห่ฮิ้ว

เป็นจดหมายกึ่งส่วนตัวของ ส.ส.คนหนึ่งหรือสองคน ที่มีตำแหน่งเป็นกรรมาธิการ

ที่มันจะฮือฮาหน่อยก็ด้วยว่า จดหมายมีหัวตราสภายุโรปนั่นแหละ

ใครไม่เคยเห็นจดหมายก็คงตื่นเต้นดีใจ ว่า เชิญไปพูด ไปให้ถ้อยแถลง แต่สำหรับคนทำงานในแวดวง ทั้งทางการเมืองและทางกฎหมาย ก็คงรู้ว่าเรื่องธรรมดา วันหนึ่งมีคนเข้าพบหรือให้ถ้อยคำกับคณะกรรมาธิการต่างๆ เป็นร้อยๆ สถานะของจดหมายเชิญนี้ก็เหมือนจดหมายเชิญจาก ส.ส.หรือกรรมาธิการไปให้ข้อมูลในคณะกรรมาธิการต่างๆ ที่มีเป็นสิบเป็นร้อยคณะนั่นแหละ

ส่วนหัวจดหมายมีตราสภายุโรปก็ไม่แปลกอะไร ก็มันเหมือนกับพนักงานคนหนึ่งในบริษัทของท่าน ออกจดหมายเชิญเพื่อนมากินเลี้ยงปีใหม่หรือลอยกระทง แล้วไปหยิบกระดาษตราหัวบริษัทมาใช้ออกจดหมายส่งไปนั่นแหละ ไม่ผิดกันเลย

เมื่อจดหมายมันเป็น “เรื่องเล็ก” เสียขนาดนี้ ก็ไม่น่าแปลกอะไรที่จะเป็นไปตามอย่างที่รัฐบาลตั้งข้อสังเกตว่า หากจดหมายนี้เป็นของจริงในความหมายว่าเป็นจดหมายเชิญเป็นทางการโดยมติที่ประชุมจริง ทำไมทางการสภายุโรปจึงไม่ประสานงานผ่านกระทรวงการต่างประเทศตามระเบียบวิธีทางการระหว่างประเทศ ทำไมถึงส่งให้เป็นการส่วนตัวที่บ้านหรือที่พรรคเพื่อไทย

คำตอบก็เพราะว่า มันคือจดหมายส่วนตัวนั่นแหละ เพียงแต่คนส่งอาจจะถืออำนาจว่าเป็น ส.ส.หรือกรรมาธิการก็เท่านั้น เลยเอาหัวจดหมายของ มาส่งให้โก้ๆ ให้คนรับเอาไปปลื้มเว่อร์เห่อเหิม

การเปิดเกมเรื่องจดหมายจากสภายุโรปนี้ก็แค่เกมการเมืองเรียกราคา แต่ก็อาจจะเป็นกับดักหรือเกมที่จะเล่นต่อได้อยู่เช่นเดียวกัน

เพราะอย่างไรก็ดี สถานะอันแท้จริงของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ คือ “จำเลย” ของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ที่ได้รับการประกันตัวออกมาต่อสู้คดี และมีเงื่อนไขในการให้ประกันตัวอย่างหนึ่งคือ ห้ามเดินทางไปต่างประเทศเว้นแต่ศาลจะอนุญาต

การเผยภาพประโคมเรื่องจดหมายเชิญจากสภายุโรปมานี้ ก็เพื่อจะได้เป็นข้ออ้างต่อศาลเพื่อขอออกไปนอกประเทศ และพยายามทำให้มันเหมือนเป็นเรื่องใหญ่โตระดับกิจการระหว่างประเทศเข้าไว้ เผื่อศาลอาจจะเห็นใจ

แต่เมื่อความแตกออกมาแล้วว่า จดหมายนี้ที่แท้เป็นแค่จดหมายเชิญไปพูดคุยกับ ส.ส.คนสองคนในกรรมาธิการเท่านั้น เช่นนี้ดุลพินิจที่ศาลจะอนุญาตหรือไม่อนุญาตจะเป็นอย่างไร เพราะไม่ต่างจากว่ามีคนที่รู้จักสักคนในต่างประเทศเขียนจดหมายมาชวนไปเที่ยว ไปเยี่ยมไปเยือน “ที่ทำงาน” เท่านั้น

หากศาลไม่อนุญาตด้วยเห็นว่าเป็น “เรื่องเล็ก” จริงๆ ไม้ต่อไปของฝ่ายเสื้อแดงและเพื่อไทย ก็คงจะประโคมเรื่องฟูมฟายสร้างภาพ ประดุจว่ายิ่งลักษณ์เป็นอย่างวีรสตรีประชาธิปไตยที่ถูกรัฐบาลเผด็จการสั่งห้ามออกนอกประเทศ ทั้งๆ ที่ได้รับเกียรติยศอย่างสูงปรี๊ดจากสภายุโรป

ถ้าบ้าจี้หรือหน้าด้านพอ พวกอาจจะเอาไปเทียบกับนางอองซาน ซูจี ที่เคยถูกรัฐบาลทหารพม่ากักบริเวณเลยก็ยังได้! อย่าประมาทความโอเวอร์ฝันเฟ้อเรอเป็นมโนของชาวเสื้อแดงเข้าเชียว ซึ่งจะว่าไปตอนนี้ หาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้ออกนอกประเทศในเรื่องอันไม่มีเหตุจำเป็นได้ ก็ค่อนข้างจะน่าเป็นห่วงอยู่

เพราะเหมือนตอนที่ทักษิณหนีคำพิพากษาออกไปจากประเทศไทย ในครั้งนั้นก็ทำให้ผู้คนชะล่าใจอยู่เหมือนกัน เพราะแกไปๆ กลับๆ โดยดีหลายครั้ง จนกระทั่งขอไปดูโอลิมปิกที่เมืองจีน แล้วก็ไม่กลับมารับโทษกลายเป็นนักโทษหนีคดีจนถึงทุกวันนี้

จริงอยู่ว่า แม้ยิ่งลักษณ์จะมีทรัพย์สินเป็นประกัน หรือในคดีการดำเนินการทางแพ่งเพื่อให้รับผิดทางละเมิดในคดีจำนำข้าวนั้น อาจจะบังคับเอาแก่ทรัพย์สินของเธอที่อยู่ในประเทศไทยได้ ตามกระบวนการของกฎหมาย

แต่สาระสำคัญของการดำเนินคดีต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองนั้น ไม่ใช่ว่าจะมีเจตนารมณ์เพียงแค่จะบังคับคดีเอาแก่ทรัพย์สินเพื่อทดแทนเยียวยาความเสียหายของประเทศเท่านั้น

หากแท้จริงแล้วเป็นไปเพื่อการลงโทษผู้กระทำการทุจริตโกงบ้านโกงเมือง หรือกระทำการเอื้อประโยชน์ให้พวกพ้องอย่างหละหลวมไม่รัดกุมจนเป็นเหตุให้เกิดการเบียดบังเสียหายต่อประเทศชาติ การลงโทษทางอาญาเช่นการจำคุกจึงเป็นไปเพื่อใช้ราคาต่อเจตนาชั่วร้ายเช่นนั้น และเพื่อแสดงต่อประชาชนทั้งหลายว่า ไม่มีใครใหญ่เกินกฎหมาย ใครกระทำการทุจริตคิดไม่ชอบต้องรับผิดรับโทษตามกบิลบ้านกบิลเมือง

เช่นนี้ หากจะปล่อยปูลงน้ำ ลงไปในทะเลกว้างใหญ่ที่อาศัยจดหมายจาก ส.ส.ของอียูมาเป็นในเบิกทาง จึงต้องคิดกันให้รอบคอบ.
กำลังโหลดความคิดเห็น