xs
xsm
sm
md
lg

ครบรอบ 30 ปี Back to the Future (เจาะเวลาหาอดีต) หนึ่งในหนังดีๆเมื่อวันวาน

เผยแพร่:   โดย: ยุรชัฏ ชาติสุทธิชัย

เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม ปี 2015 เป็นวันที่ใครบางคนเดินทางจากอดีตมาสู่อนาคต ด้วยไทม์แมชชีน เหตุการณ์การเดินทางของมาร์ตี้ผ่านมาครบ 30 ปีแล้ว แถมปีนี้เขามีการจัดงานฉลองครบรอบกันขึ้นด้วยครับ หลายคนคงงงว่าผมกำลังจะพูดอะไร หรือพูดถึงใคร มาร์ตี้คือใคร แต่ถ้าผมพูดถึงหนังระดับตำนานเรื่องหนึ่ง ที่มีชื่อว่า Back to the Future หรือมีชื่อไทยว่า เจาะเวลาหาอดีต หลายๆคงเคยได้ดู หรือไม่ก็ต้องเคยได้ยินมาบ้าง

หนังเรื่องนี้นำแสดงโดย ไมเคิล เจ. ฟ็อกซ์ เล่นบทมาร์ตี้ แม็กฟลาย กับนักวิทยาศาสตร์สติเฟื่อง ด็อกเตอร์ บราวน์ รับบทโดยคริสโตเฟอร์ ลอยด์ หนังเรืองนี้ทำให้ไมเคิล เจ. ฟ็อกซ์ ดังเป็นพลุแตกเลยทีเดียว

เจาะเวลาหาอดีต ออกฉายเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม ค.ศ. 1985 ในโรงฉาย 1,200 โรง ทำลายสถิติอยู่ที่อันดับ 1 นาน 11 สัปดาห์ และยังได้รับรางวัลออสการ์สาขาตัดต่อเสียงยอดเยี่ยม

หนังอำนวยการสร้างโดยสตีเวน สปีลเบิร์ก บทหนังเขียนโดยบ็อบ เกล กำกับโดยโรเบิร์ต เซเมกคิส ผู้กำกับที่มีผลงานเจ๋งๆมาแล้วมากมาย อย่างเช่น ฟอร์เรส กัมพ์ คอนแทร็ก ที่อยู่ในความทรงจำของหลายๆคนกล่าวได้ว่า หนังเรื่องนี้ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากในทุกๆภาค หนังภาคแรกดังสุด นับเป็นหนังที่แปลกใหม่มากในยุคนั้น หนังเรื่องนี้ทำมาแล้วสามภาคด้วยกัน

ภาคที่เป็นไฮไลท์คือภาคแรกและภาคที่สอง ในภาคแรกพ่อหนุ่มมาร์ตี้ย้อนอดีตไปเจอพ่อแม่ของเขาตอนหนุ่มสาว แล้วเรื่องวุ่นๆก็ตามมาเพราะต้องหาทางกลับปัจจุบันให้ได้ ภาคนี้ถูกใจผมที่สุด เมื่อหนังหยิบเอาแนวเพลงมาแอบแซวอดีตเล็กๆน้อยๆ ในฉากที่ มาร์ตี้ขึ้นไปร้องเพลงและเล่นกีตาร์เพลง จอห์นนี่ บี กู๊ด ของซัค เบอร์รี่ แล้วในเรื่องมีนักดนตรีคนหนึ่งโทรหา ซัค เบอร์รี่ด้วยว่านี่ไงเพลงแนวใหม่ที่นายกำลังตามหา

ส่วนในภาคสองเป็นการเดินทางไปสู่อนาคต ยุคไฮเทคสุดๆในตอนนั้น ตั้งแต่แฟชั่นเสื้อผ้าและรองเท้าที่ปรับขนาดให้พอดีกับคนใส่ได้ ฮูเวอร์บอร์ดหรือสเก็ตบอร์ดลอยได้ โรงหนังที่ฉายหนังสามมิติ

หลายๆอย่างในหนังเรื่องนี้ได้เกิดขึ้นจริงแล้วในปัจจุบัน เช่น เสื้อผ้าเปียกที่เป่าแห้ง รองเท้าไนค์กี้ที่หน้าตาแบบในหนัง สเก็ตบอร์ดที่ไม่มีล้อแต่เคลือนที่ได้ ใครได้ดูหนังเรื่องนี้ ณ ตอนนั้น หลายคนอาจว่ามันไม่เป็นจริง เป็นแค่จินตนาการ ไม่คิดว่าบางอย่างของพวกนี้จะเกิดขึ้นจริงได้อย่างรวดเร็วในเวลาต่อมา รวมไปถึงเป็ปซี่เพอร์เฟ็กที่ทำออกมาฉลองครบรอบสามสิบปีหนังเรื่องนี้ด้วย จินตนาการเป็นเรื่องสำคัญที่ก้าวนำหน้า ความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี่ของโลกสมัยใหม่

ในภาคสาม ก็มีมุขขำๆการแอบจิกกัดคลินซ์ อีสวู๊ด ดารารุ่นใหญ่ที่ดังจากหนังคาวบอย เมื่อมาร์ตี้ย้อนกลับไปยุคคาวบอยและได้ใช้ชื่อว่า คลินซ์ อีสวู๊ด

สิ่งประดิษฐ์สำคัญที่ไม่พูดถึงเลยคงไม่ได้ นั่นคือไทม์แมชชีน ของด็อกเตอร์ บราวน์ ซึ่งสร้างขึ้นจากรถเดอลอรีน รุ่นDMC-12 ที่ผลิตออกวางขายปี 1981- 1983 ในหนังได้มีการปรับแต่งให้ทั้งบินได้และใช้พลังงานจากขยะ

นอกจากเรื่องความก้าวหน้าของวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีแล้ว หนังยังเสนอประเด็นทางสังคม ชีวิตและครอบครัว สำหรับผม ดูครั้งแรกก็ชอบเลยครับ เพราะคิดดูสิครับอยู่ๆเราก็ได้ย้อนไปดูอดีตว่าพ่อแม่รู้จักกันได้ไง มันน่าสนใจน่ารู้น่าเห็น อีกทั้งยังได้ไปดูไปเห็นชีวิตในอนาคต ที่คนยุคนี้บางคนต้องพึ่งหมอดูพยากรณ์ช่วยทำนายทายทัก

เจาะเวลาหาอดีต ได้รับการคัดเลือกหอสมุดรัฐสภาอเมริกัน ให้เก็บไว้ในหอทะเบียนภาพยนตร์แห่งชาติ ในฐานะเป็นหนังเกี่ยวกับวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ หรือโดดเด่นทางด้านสุนทรียศาสตร์

ในวาระครบรอบ 30 ปีของหนังเรื่องนี้ มีการจดทำดีวีดีบ็อกเซ็ททออกมาวางขายทั่วโลก พร้อมตอนพิเศษ ที่มีชื่อว่า ด็อกเตอร์ บราวน์เซฟเดอะเวิลด์ โดยคริสโตเฟอร์ ลอยด์ หรือด็อกเตอร์ บราวน์จะออกมาพูดถึงว่าทำไมอนาคตในหนังกับในโลกจริงๆ จึงแตกต่างกัน เกิดอะไรขึ้น เป็นการหวนกลับไปสำรวจว่า ภาพยนตร์ในขณะนั้นได้ทำนายอนาคตถึงวันที่ 21 ต.ค. 2015 ไว้อย่างไรบ้าง มีสิ่งประดิษฐ์อะไรบ้างที่เหมือนหรือแตกต่างกับที่กำลังใช้กันอยู่ทุกวันนี้ เท่าที่ได้เห็นจากตัวอย่าง คงเล่าแบบสนุกๆและขำฮาเลยทีเดียวละครับ

ธีมหลักของหนังเป็นเรื่องของอดีต ปัจจุบัน อนาคต ให้ความสำคัญกับจินตนาการกับความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี มีคติสอนใจ ให้เราใช้เวลาอย่างคุ้มค่าที่สุด ชีวิตจริงไม่ใช่ในหนัง เราไม่สามารถกลับไปแก้ไขอดีตที่เกิดขึ้นแล้วได้ อีกทั้งยังสอนให้เรารอบคอบในการกระทำปัจจุบัน เมื่อตัดสินใจทำอะไรลงไปแล้ว ก็ต้องยอมรับผลที่จะเกิดขึ้นตามมา
กำลังโหลดความคิดเห็น