xs
xsm
sm
md
lg

เมื่อ "ลุงตู่" มอง "เกม" ไม่ใช่ "ยาพิษ" แล้วคนอื่นล่ะ?

เผยแพร่:   โดย: ดรงค์ ฤทธิปัญญา

ผมเห็นข่าวเล็กๆ ชิ้นหนึ่ง อยู่ในหน้าการเมือง เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (๑๖ ต.ค.) ในชื่อข่าวที่ว่า "“ประยุทธ์” สอนเกมเมอร์ ชนะในเกมอย่าลืมชนะชีวิตจริง ใช้ความสุขสร้างนวัตกรรมใหม่" เป็นข่าวที่ “ลุงตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรี ส่งคลิปมาให้โอวาทเปิดงานเกม หลายคนดูผิวเผิน ก็อาจจะเป็นเรื่องธรรมดา แต่สำหรับผมแล้วกลับมองว่า นี่อาจมีนัยยะ
ภาพจากเว็บไซต์เฟซบุ๊ก Thailand Game Show
งานดังกล่าวมีชื่อว่า “ไทยแลนด์ เกมโชว์ บิ๊ก เฟสติวัล 2015” จัดขึ้นที่ รอยัล พารากอน ฮอลล์ ศูนย์การค้าสยามพารากอน จัดโดยบริษัท โชว์ โน ลีมิต จำกัด และ บริษัท ทรู ไอคอนเทนท์ จำกัด ในเครือทรูคอร์ปอเรชั่น ภายในงานก็จะมีเกมจากบริษัทต่างๆ ส่วนมากจะเป็นเกมออนไลน์ มาให้ผู้สนใจ ซึ่งแน่นอนก็ต้องเป็นเด็กๆ เที่ยวชม และทดลองเล่น มีทั้งเกมที่จะออกใหม่ และที่ยังเปิดให้เล่นอยู่ ,การแข่งขันเล่นเกม ,การประกวดแต่งกายเลียนแบบตัวละครในเกม หรือที่เรียกว่า คอสเพลย์ ,โชว์จากค่ายเกม รวมทั้งจำหน่ายสินค้าอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการเล่น และอื่นๆ โดยมีค่าบัตรผ่านประตู ๖๐ บาท เห็นว่า วันเสาร์ - อาทิตย์ ที่ผ่านมามีทั้งเด็กและผู้ใหญ่ต่างเข้าไปชมกันเยอะพอสมควร

กลับมาดูที่โอวาทของลุงตู่ แกบอกว่า อยากให้ข้อคิดว่า เมื่อชนะในเกมแล้ว อย่าลืมชนะในชีวิตจริงด้วย เยาวชนมีหน้าที่หลักคือการเรียนหนังสือ เรียนรู้ในการดำรงชีพต่อไป พ่อแม่ของเราทุ่มเททำงานหนัก เพื่อส่งเสียการศึกษาให้มีความรู้ เพราะฉะนั้นทุกคนต้องตั้งใจเล่าเรียน ให้คุ้มค่ากับความเหนื่อยยากของพ่อแม่ ผมอยากให้เยาวชนของชาติได้ใช้จินตนาการในทางสร้างสรรค์ ใช้เกมและเทคโนโลยีให้ถูกทาง รู้จักแบ่งเวลา และมีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ของตนเอง คิดอยู่เสมอว่าการเติบโตและการมีพัฒนาการที่สมวัยของทุกคนนั้น จะส่งผลต่ออนาคตของตัวเองและประเทศชาติ

"ขอให้ทุกคนมีความสุข สนุกกันเต็มที่ กับความฝันและจินตนาการ แล้วก็อย่าลืมว่าความฝันกับความเป็นจริงเป็นคนละเรื่องกัน ก็อยากให้เก็บเอาความสุขตรงนี้ไปเป็นแรงผลักดันให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ นำไปสู่นวัตกรรมใหม่ๆ ที่เป็นประโยชน์แก่ตนเอง สังคม และการพัฒนาทางเศรษฐกิจดิจิตอลของชาติต่อไป" หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เขาว่ามาอย่างนี้

ถ้าจำไม่ผิด พล.อ.ประยุทธ์ น่าจะเป็นนายกรัฐมนตรีคนแรกของประเทศที่ให้ความสำคัญกับงานประเภทนี้ แม้จะไม่ได้มาด้วยตัวเองก็ตาม ถ้ามองในแง่ร้ายหน่อย ก็คงเพื่อกลบกระแสแนวต้านซิงเกิ้ลเกตเวย์ ที่เพิ่งโดนถล่มไปล่าสุด แต่ถ้ามองในแง่ดีก็คงอยากจะสื่อสารกับเยาวชน ยิ่งถ้ามองจากถ้อยคำแล้ว มีทั้งปราม ก็คืออยากให้ตั้งใจเล่าเรียนให้คุ้มค่าความเหนื่อยยากของพ่อแม่ และสนับสนุน ก็คือให้ใช้จินตนาการในทางสร้างสรรค์ เอาความสุขเป็นแรงผลักดันไปสู่นวัตกรรมใหม่ๆ งานนี้คนในอุตสาหกรรมเกมเองก็คงจะยิ้มไม่น้อย เพราะในโอวาท เท่าที่ตีความได้ แกไม่ได้มอง "เกม" ว่าเป็น "ยาพิษ" หรือสิ่งที่ก่อให้เกิดอาชญากรรม แต่มันคือ "บ่อเกิด" แห่งการสร้างอนาคต

ปัญหาคือ ผู้ใหญ่ในรัฐบาลของท่าน จะเข้าใจอย่างที่ท่านสื่อสารกับเยาวชนหรือเปล่า?

จะว่าไปคนรุ่นก่อนต่างก็มองกันว่า "เกม" คือสิ่งที่ก่อให้เกิดปัญหาจริงๆ นะ เขามองเห็นเพียงว่า ทำให้ลูกไม่อยู่ติดบ้าน เพราะตื่นมาก็ออกไปร้านเกม บ้างก็ไม่อ่านหนังสือ ไม่ช่วยงาน คลุกอยู่แต่หน้าจอ กลายเป็นเรื่องวุ่นๆ ภายในครอบครัว โดยเฉพาะเด็กวัยประถมตอนปลาย ถึง ระดับมัธยมศึกษา แต่นั่นมันก็เป็นปัญหาแค่ชั่วระยะหนึ่งของชีวิต เมื่อถึงเวลาหนึ่งเด็กก็จะละจากมันไปสู่สิ่งอื่นตามวัย พอเขาเจอสังคมใหม่ก็เริ่มเปลี่ยนผ่าน แต่ไปสู่ทางที่ดี หรือเลว ก็ขึ้นอยู่กับเพื่อนที่พบและความแข็งแกร่งทางจิตใจของเขา

พ่อแม่ในยุคเก่า อาจจะมองว่า การเล่นเกมเป็นเรื่องไร้สาระ เพื่อนสนุกไปวันๆ แต่สำหรับเด็กแล้ว บางคนใช้มันเป็นที่ระบายอารมณ์ บ้างก็ได้พบเพื่อนใหม่ (ที่ดีและไม่ดี) เพื่อพูดคุย ปรับทุกข์ ในบางเรื่องที่ไม่สามารถเล่าให้ผู้ปกครองฟังได้ อันนี้เพื่อนของผมหลายคนก็ได้มีเพื่อนจากในเกมจนคบหากันสนิทใจในสังคมออฟไลน์ บ้างก็เป็นแฟนกันก็มี บางคนเก่งภาษาอังกฤษได้ก็เพราะเล่นเกมเนี่ยล่ะ บางเกมก็สามารถทำให้รู้จักคิดและใช้ปัญญาแก้ปมแต่ละด่านให้ได้

และที่เราๆ ท่านๆ ไม่ค่อยทราบกันก็คือ มันสามารถสร้างรายได้ให้กับเราด้วย เด็กบางคนเล่นเกมออนไลน์ เพื่อเก็บไอเทม หรือตัวละคร ไว้ขาย (ขายได้จริงบ้าง ถูกหลอกบ้างก็มี) หลายๆ คนก็เห็นลู่ทางแห่งอาชีพในฝัน อยากโตขึ้นเป็นนักแข่งขันเกม บ้านเรานี่มีเยอะนะ ค่ายเกมส่งไปไปแข่งขันจนได้รางวัลต่างประเทศมากมาย โดยที่เราไม่ค่อยรู้กันหรอก บ้างก็อยากเป็นนักพัฒนาเกม ผู้ผลิตเกม นักเขียนบทสรุปเกม ดีเจชวนคนมาเล่นเกม รวมทั้ง นักแคสเกม (Cast gamer) ก็คือคนที่เล่นเกมให้ดูเป็นตัวอย่างผ่านทางยูทิวบ์ หลายๆ ยูสเซอร์นี่มีผู้ติดตามเป็นแสนๆ รายเลยทีเดียว

เมื่อมองถึงผลการสำรวจมูลค่าตลาดดิจิทัลคอนเทนต์ของประเทศไทยประจำปีที่แล้ว ของสำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) (ซิป้า) ร่วมกับสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) พบว่า อุตสาหกรรมเกมมีมูลค่าตลาดรวมมากถึง ๗,๘๓๕ ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโตร้อยละ ๑๔.๗ โดยในปีนี้คาดว่าจะเติบโตถึงเติบโตร้อยละ ๑๕ เมื่อแยกไปถึงการส่งออกมีมูลค่ารวม ๑,๐๖๐ ล้านบาท โดยจำแนกเป็นงานที่มีทรัพย์สินทางปัญญาของตนเองร้อยละ ๔๓ งานรับจ้างผลิตเกมมีสัดส่วนร้อยละ ๖ ที่เหลือร้อยละ ๕๑ คือการนำเข้าเกมมาให้บริการต่อในต่างประเทศ เช่น สิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์

แต่เอาเข้าจริงก็เป็นเพียงแค่เด็กจำนวนไม่มาก ที่ทะยานอยากก้าวไปสู่การพัฒนา ส่วนใหญ่ก็ยังคงเล่น เพียงแค่ฆ่าเวลา บางคนก็เล่นมากไปจนติดเกมและเพื่อนในสังคมเกม กลายเป็นปัญหาภายในครอบครัวอย่างที่ผมว่าไป หนักหน่อยก็ไปสร้างปัญหาให้กับสังคม ตั้งแต่ไถเงิน ชิงทรัพย์ เพื่อมาเล่นมาซื้อของภายในเกม แต่สิ่งเหล่านั้น ไม่ได้เกิดขึ้นจากตัวเกม แม้บางเกมจะมีบทบาทสมมุติในฉากการต่อสู้อันดุเดือด มีการใช้อาวุธฆ่าฟันศัตรู ก็ตาม ผมว่าสภาพจิตใจเด็กบ้านเราไม่แย่ขนาดนำไปลอกเลียนแบบนะ

สิ่งที่น่ากลัวจริงๆ ก็คือการรู้ไม่เท่าทันอาชญากรของเด็กๆ บางคนอยากได้ไอเทม ตัวละครดีๆ แต่ไม่มุมานะเก็บเกี่ยวประสบการณ์ในเกม หวังได้ตัวเก่งเพื่อให้เล่นได้เร็วขึ้น จนต้องเสียเงินไปซื้อ ถ้าเจอคนขายที่ดีก็ดีไป แต่พวกที่ถูกหลอกลวงเอาเงินไปบ้างก็มี พวกนี้จะแก้ได้อย่างไร

เพื่อนผมคนหนึ่งซึ่งเคยเป็นเด็กติดเกมมาก่อน ก็แนะนำว่า ต้องสอนเด็กให้อย่าโลภแล้วคิดให้มากๆ ก่อนจะซื้อ แต่ทั้งนี้พ่อแม่ยุคใหม่ อันดับแรกต้องทำความเข้าใจลูกก่อน ว่าเขากำลังเล่นเกมอะไร แล้วค่อยๆ เข้าไปในโลกที่เค้ามีความสุข พยายามพูดคุยกับเค้าในเรื่องเกมนั้น แล้วค่อยๆ จัดสรรเวลา หากิจกรรมอื่นๆ ให้ทำบ้าง อย่าหักดิบ ดุด่า จะถูกต่อต้าน พอยิ่งลูกชอบเล่นเกมเยอะๆ ก็ให้ลองถามลูกเลย ว่าถ้ามีโอกาสจะสร้างเกมเองได้จะทำมั้ย ถ้าเขาดูสนใจก็พยายามหาข้อมูลเกี่ยวกับการศึกษาทางด้านนี้โดยตรง เพื่อให้เขาได้ใช้พัฒนาการได้อย่างเต็มที่

สำหรับผมมองปัญหาใหญ่ก็คือ พ่อแม่ที่ไม่มีเวลาเลย และไม่คิดจะใฝ่รู้ว่าลูกกำลังทำ ต้องการอะไร และสิ่งที่ทำนั้นคืออะไร ตรงนี้ผมเองก็จนปัญญา ต้องอาจวอนให้ผู้ผลิต และร้านเกม ช่วยกันตักเตือนพวกเขาให้รู้จักเวลา และหน้าที่ รวมทั้งการเคารพสิทธิ์ของผู้เล่นคนอื่น ไม่ใช่ไปเกรียนเขียนด่าผู้เล่นคนอื่น หรือไปแสดงพฤติกรรมอวดฉลาด อวดรู้แก่ผู้เล่นฝีมือด้อยกว่าที่เล่นอยู่ในร้าน

ใจผมเนี่ย พยายามคิดว่า เอ๊ะ จะทำยังไงน้า ให้เด็กเหล่านี้มันก้าวเข้ามาสู่การเป็นนักพัฒนาเกม และนวัตกรรมอื่นๆ ที่มาจากเกมได้ สงสัยคงต้องฝากทางกระทรวงศึกษาธิการ และ กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศ ช่วยพิจารณาหาลู่ทางให้พวกเขาหน่อย ผมไม่อยากปล่อยให้เด็กมีโอกาสที่เก่งต้องสาบสูญไปตามกาลเวลา

ที่สำคัญ พี่ๆ น้องๆ ในวงการสื่อมวลชนบางฉบับก็ควรปรับทัศนคติ คิดก่อนพาดหัวด้วยว่า บางคดีนั้นมันมีความเป็นไปได้ว่าจะมาจากเกม ไปเสียทั้งหมดตามคำบอกเล่าของเจ้าหน้าที่จริงหรือไม่ หากไม่ใช่แล้วสุดท้ายก็จะกลายเป็นดราม่าในโซเชี่ยลเน็ตเวิร์กวนไปวนมา ให้ "เกม" กลายเป็น "แพะ" จนกลบเกลื่อนข้อเท็จจริง
กำลังโหลดความคิดเห็น