ถึงเวลาตื่นได้แล้ววันนี้ขอเขียนถึงวงการกีฬากันสักหน่อย เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา มีข่าวดีสำหรับทีมหงส์แดง ลิเวอร์พูล ที่เพิ่งจะมีการแถลงข่าว การแต่งตั้งผู้จัดการทีมคนใหม่ เจอร์เก้น คล็อปป์ อดีตผู้จัดการทีม โบรุสเซีย ดอร์ทมุนต์ แห่งศึกบุนเดสลิก้า เยอรมัน เข้ามารับงานแทนที่กุนซือหนุ่ม เบรนดัน ร็อดเจอส์
เจอร์เก้น คล็อปป์ เกิดเมื่อ 16 มิถุนายน ค.ศ. 1967 เป็นผู้จัดการทีมชาวเยอรมัน อายุ 48 ปี เคยเล่นให้กับไมนซ์ 05 เป็นระยะเวลายาวนานถึง 12 ปี ลงเล่น 338 เกม ก่อนที่จะมารับหน้าที่เป็นผู้จัดการทีมตั้งแต่ปี ค.ศ. 2001 จนถึง ค.ศ. 2008 ต่อด้วยโบรุสเซียดอร์ทมุนด์ ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2008 จนถึง ค.ศ. 2015 ก่อนมารับตำแหน่งในลิเวอร์พูล
ต้องออกตัวก่อนเลยครับว่า ผมไม่ใช่สาวกทีมหงส์แดง แต่อยากหยิบเรื่องนี้มาเขียนเพราะจากการตามข่าวเรื่องนี้ ผมว่าชายคนนี้น่าสนใจมากเลยทีเดียว แค่เริ่มต้นก็ตื่นเต้นแล้วครับ การเซ็นสัญญาของเขาเป็นที่จับตามองมาก ถึงขนาดมีการรายงานข่าวตั้งแต่เขาขึ้นเครื่องบิน ลงมามีรถมารับไปที่พัก จนถึงตอนนั่งโต๊ะเพื่อเซ็นสัญญา เท่านั้นยังไม่พอครับ ยังมีการถ่ายวีดีโอคลิปและทำภาพสโลโมชั่นตอนกำลังเซ็นชื่อ เอากันให้เห็นชัดๆ ว่าเซ็นแล้วนะ เรียกว่าใช้โซเชียลมีเดียกันเต็มๆ บรรยากาศแบบนี้นี่พอๆ กับการซื้อขายนักบอลค่าตัวแพงๆ กันเลยทีเดียว
ลิเวอร์พูลเป็นทีมยักษ์หลับ หลับมานานกว่ายี่สิบปี ตั้งแต่มีฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษมา พวกเขาไม่เคยได้แชมป์ลีกเลย อาจจะไปได้ถ้วยอื่นๆบ้าง แต่ลีกสูงสุดนี่ได้แต่มองตาปริบๆ ให้คู่แข่งอย่างแมน ยู รับถ้วยไปหลายสมัย รวมถึงปล่อยให้ทีมใหม่ๆ ที่ขึ้นมาเป็นคู่แข่งแซงหน้าด้วยทั้ง เซลซี แมน ซิตี้ รวมถึงอาร์เซนอล ทีมต่างๆเหล่านี้เคยได้แชมป์ลีกสูงสุดมาแล้ว เหลือทีมใหญ่และเก่าแก่อย่างลิเวอร์พูลที่ยังไม่ได้สักที
ในยุคเบรนดัน ร็อดเจอส์ ทีมลิเวอร์พูล เคยขึ้นไปถึงอันดับสอง และตอนแรกก็เหมือนกับว่าจะมีลุ้นแชมป์มากขึ้นเรื่อยๆ การเสริมทีมนั้นทำได้อย่างต่อเนื่อง นักเตะเก่งๆมากมายเข้าสู่ทีม ทั้งคูตินโญ่ มาโควิช ลอฟเรน และอีกหลายคน แต่ในขณะเดียวกันทีมกลับปล่อยตัวนักเตะบางคนออกจากทีม อย่างแอกเกอร์ เจอร์ราดกัปตันทีม หลุยส์ ซัวเรส ซึ่งนักเตะเหล่านี้คือตัวหลักของทีมมาตลอด แต่กลับถูกขายออกไป นี่ยังไม่นับที่ดึงตัวมาแต่ไม่ประสบความสำเร็จก็อีกหลายคน
ลิเวอร์พูลยุคใหม่ แฟนๆหลายคนของทีมคาดหวังว่าชายใส่แว่นสวมหมวกแก็ปคนนี้จะเข้ามาเปลี่ยนแปลงทีมไปในทางที่ดีขึ้นกว่าเก่า และจะได้รับความสำเร็จในการคว้าถ้วยแชมป์พรีเมียลีกเสียที
ลิเวอร์พูล เป็นทีมที่มีคนเชียร์เยอะมากทั่วโลกไม่ต่างกัน แมนยู และเรอัล แมดริด แฟนบอลในไทยก็ถือว่าเยอะมาก ต้องขอแอบเมาท์ว่าในออฟฟิศที่ทำงานของผม ก็มีเด็กหงษ์เพียบ ตั้งแต่ ผอ.ช่องซุปเปอร์บันเทิง ไปจนถึง บ.ก.ข่าวบันเทิง เขาเข้าขากันมากเรื่องบอล
ฟุตบอลสร้างบรรยากาศในที่ทำงานและรวม ก๊วนคนคอเดียวกันได้ครึกครื้นครับ ฟุตบอลสมัยนี้เป็นทั้งกีฬา เป็นเอนเตอร์เทน และเป็นธุรกิจขนาดใหญ่ครอบคลุมไปทั่วโลก แถมยังเป็นการพนัน ช่องทางการฟอกเงินกันสารพัด ในวงการฟุตบอล นอกจากจะโฟกัสกันที่นักเตะแล้ว โค้ชก็มีส่วนสำคัญเช่นเดียวกัน เพราะเกมฟุตบอลเดี๋ยวนี้ มีเทคนิคการวางแผนที่ดูจะซับซ้อนขึ้นกว่าแต่ก่อน ที่ไม่ใช่แค่เลี้ยงๆ โยนๆ ยิงๆกันเท่านั้น ยิ่งการวางแผนของลูกตั้งเตะ ยิ่งมีสูตรเยอะมากทั้งฟรีคิกและลูกเตะมุม
ด้วยรสนิยมทางดนตรี ผู้จัดการทีมหงส์แดงคนนี้ชอบเพลงร็อค และประกาศตัวชัดเจนว่าจะเข้ามาปรับทีมให้เล่นฟุตบอลแบบเร้าอารมณ์คนดู จะต้องเล่นกันอย่างดุดันแต่มีจังหวะ และจบสกอร์ได้เฉียบคมยิ่งขึ้น ออกแนวร็อคน่าสนุกกันเลยทีเดียวครับ
หวังว่าคล็อปป์จะเข้ามาดึงศักยภาพในตัวผู้เล่นของลิเวอร์พูลออกมาใช้ได้อย่างเต็มที่ เพราะจริงๆ แล้วดูจากตัวผู้เล่นเนี่ย ต้องบอกเลยว่ามีผู้เล่นดีๆอยู่แล้ว แทบไม่ต้องซื้อใครเพิ่ม ขอแค่ทีมเวิร์คดีขึ้น วางแผนได้เจ๋งขึ้น รับรองไปไกลแน่ๆ
งานนี้ก็ต้องรอติดตามผลงานของทีมลิเวอร์พูลยุคใหม่ดูว่าจะเป็นอย่างไร จะได้สักถ้วยไหมในปีนี้ หรือจะมีแต่ถ้วยน้ำจิ้มอีกเหมือนที่เป็นมาหลายๆปี
พูดถึงบอลต่างประเทศ อดไม่ได้ต้องหันกลับมาดูบอลไทยบ้าง เมื่อไรทางสมาคมจะมีการเปลี่ยนแปลงบ้าง บอลไทยมีดีแทบทุกอย่าง ยกเว้นบังยีเท่านั้น ในฐานะคนดูผมละเบื่อ และเชื่อว่าแฟนบอลไทยหลายคนก็อยากเห็นการเปลี่ยนแปลงเหมือนกับผม