เมืองไทยพุพองเนื้อหนองการโกงการทุจริตเน่าเฟะไปทั้งตัว แตะไปตรงไหนก็เจอ เรียกว่าทุจริตไปทุกขุมขน ยิ่งทุจริตในวงการศึกษา ยิ่งน่าอนาถ เด็กไทยอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่เต็มไปด้วยการทุจริตคดโกง แล้วอนาคตของประเทศนี้จะเป็นอย่างไร
ระบบการศึกษาบ้านเรา วัดผลด้วยคะแนนจากการสอบเป็นส่วนใหญ่ ไม่ได้วัดจากความรู้ที่ได้ตลอดกระบวนการเรียนรู้ของผู้เรียน การสอบจำนวนมากเต็มไปด้วยการทุจริต ประเภทแอบดูคำตอบของเพื่อน แอบจดโพยเข้าไปลอก แอบเปิดสมุดหนังสือลอก สมัยนี้ก็แอบเปิดมือถือลอกคำตอบที่เตรียมไว้หรือทุจริตด้วยการส่งคำตอบเข้ามือถือ ทำกันเป็นแก๊งเป็นขบวนการ ยิ่งการสอบสำคัญๆอย่างการสอบเข้าเรียนหรือทำงาน ที่มีการแข่งขันสูง ยิ่งมีการซื้อขายข้อสอบและคำตอบกันด้วยราคาแพง
การทุจริตในการสอบตามโรงเรียน มหาวิทยาลัย เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจนเป็นเรื่องปกติ ผู้คุมสอบเป็นอาจารย์บ้าง เจ้าหน้าที่บ้าง จับทุจริตในการสอบได้บ้างจับไม่ได้บ้าง บทลงโทษไม่หนักหนาพอให้ผู้ทุจริตต้องหลาบจำ
ใบปริญญาปลอมในวงการนักการเมือง ทำกันเหมือนเป็นเรื่องธรรมดา มหาวิทยาลัยจำนวนมากมีโครงการพิเศษทั้งปริญญาตรีโทเอก เป็นโครงการรับนักการเมืองหรือนักธุรกิจในท้องถิ่นรวมทั้งในส่วนกลางมาเรียน เก็บค่าเล่าเรียนแพงๆ มีบริการทุกประเภทเพื่อช่วยให้เรียนจบ ส่งลูกน้องไปเรียนแทนก็มี จ้างกันทำรายงานและวิทยานิพนธ์ก็เยอะ คนพวกนี้เอาปริญญาที่ได้มาด้วยวิธีการทุจริตทุกรูปแบบไปอวดอ้าง สักแต่มีใบกระดาษแต่ไม่มีความรู้ บางโครงการผลิตปริญญาเอกห่วยๆ มีด๊อกเตอร์จากการโกงออกมามากมาย
เมื่อปี 2556 ที่ผ่านมา มีข่าวฉาวโฉ่ในกระทรวงศึกษาธิการ เกิดมหกรรมทุจริต ในการสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลให้ดำรง ตำแหน่งข้าราชการในตำแหน่งครูผู้ช่วย มีข้อสอบรั่ว มีการซื้อขายข้อสอยและเฉลยคำตอบ เป็นปรากฏการณ์โกงทั้งแผ่นดิน จนบัดนี้ยังหาตัวผู้อยู่เบื้องหลังแท้จริงมาลงโทษไม่ได้ ได้แต่ลงโทษปลาซิวปลาสร้อยปลายเหตุ ให้ผู้ที่ทุจริตสอบ 344 ราย ซึ่งบางรายได้รับการบรรจุและแต่งตั้งไปแล้วออกจากราชการ
ล่าสุด ข่าวใหญ่ส่งท้ายปีเก่า 2557 คือข่าวอื้อฉาวทุจริตทางการเงินในสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง เงินของมหาวิทยาลัยหายไปกว่าหนึ่งพันล้านบาท บัญชีเงินฝากที่ปรากฏความผิดปกติ มีจำนวน 4 บัญชี เป็นบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) สาขา บิ๊กซี สุวินทวงศ์ จำนวน 3 บัญชี และธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) สาขา บิ๊กซี ศรีนครินทร์ จำนวน 1 บัญชี ปรากฏมียอดนำฝากเข้าสู่บัญชี ทั้งหมด ไม่รวมดอกเบี้ย ประมาณ 1,475 ล้านบาท ยอดเงินทั้งหมด เป็นเงินสำรองคลังของสถาบัน ไม่เกี่ยวข้องกับการบริหารงานตามแผนการประจำปี เช่น เงินเดือนค่าตอบแทน ค่าจ้าง การจัดซื้อครุภัณฑ์
จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบความผิดปกติบัญชีย้อนหลังถึงเดือน มิ.ย. 55 พบบัญชีมีความผิดปกติที่เป็นช่วงมีทีมบริหารงาน 3 ชุด ทั้งช่วงที่มีการออกนอกระบบในปี 51 โดยแจงขั้นตอนการอนุมัติเบิกจ่ายในซึ่งทีมบริหารปฏิบัติสืบเนืองกันมา ระบุพบผิดปกติ 2 กรณี คือ เบิก - ถอนตามคำสั่ง สจล. จริงแต่เงินเข้าบัญชีปลอม และ เบิก - ถอนตามคำสั่ง แต่ไม่นำเงินเข้าตามคำสั่ง
เรื่องนี้มีผู้เกี่ยวข้องทั้งเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของมหาวิทยาลัย และผู้จัดการธนาคาร มีการจับกุม นายทรงกลด ศรีประสงค์ ผู้จัดการธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาห้างบิ๊กซี ศรีนครินทร์ น.ส.อำพร น้อยสัมฤทธิ์ ผอ.ส่วนการคลัง สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง นายพูลศักดิ์ บุญสวัสดิ์ นักศึกษาปริญญาโท และนายจริวัฒน์ สหพรอุดมการ ส่วนนายกิตติศักดิ์ มัทธุจัด และ นางสมบัติ โสประดิษฐ์ ผู้ต้องหาอีก 2 คน ยังอยู่ระหว่างการหลบหนี
พนักงานสอบสวนสามารถรวบรวมพยานเอกสารเกี่ยวกับการเงินได้จำนวนมาก รวมถึงตรวจพบทรัพย์สินมีค่าหลายรายการโดยเฉพาะทรัพย์สินของนายกิตติศักดิ์ มัทธุจัด ผู้ต้องหาที่หลบหนีออกนอกประเทศ พบว่า มีการเปิดบริษัทสินเชื่อ มีการปล่อยเงินกู้ นอกระบบ และ จัดสร้างหมู่บ้านจัดสรร มีการโอนเข้าบัญชีต่างๆจำนวนมาก เกือบทุกธนาคารที่มีอยู่ในประเทศไทย
เรียกว่ายักยอกเงินมหาวิทยาลัยมาใช้กันเอิกเกริกเป็นมหกรรมทีเดียวละครับ เรื่องนี้จะสาวไปถึงใครระดับไหนบ้าง และจะหาตัวการสำคัญมาลงโทษได้หรือไม่ต้องติดตามกันต่อไปละครับ
ผมว่าการโกงหรือยักยอกเงินในสถาบันการศึกษาของไทย ไม่ว่าระดับประถม มัธยม หรือมหาวิทยาลัย ลองสาวลงไปดูเถอะครับมีอีกมาก ยิ่งมหาวิทยาลัยใหญ่ๆหลังออกนอกระบบนี่ ยิ่งหาเงินกันด้วยโครงการพิเศษ และการก่อสร้างกันด้วยงบมหาศาล น่าจะตรวจสอบกันจริงจัง ผมว่าจะพบคดีทุจริตกันอีกเพียบ
ที่มันน่าเศร้าคือ การทุจริตคดโกงเกิดขึ้นในสถาบันการศึกษา ที่ที่เป็นพิมพ์ เป็นแม่แบบสร้างคน ถ้าพ่อพิมพ์แม่พิมพ์ครูบาอาจารย์ และลูกพิมพ์นักเรียนนักศึกษา อยู่ท่ามกลางการทุจริตคดโกงกันทุกระดับ โกงทั้งเรื่องใหญ่เรื่องเล็ก โกงทั้งในห้องเรียนและในรั้วนอกรั้วมหาวิทยาลัย โกงจนซึมซับเข้าสายเลือด แล้วอนาคตของประเทศนี้จะเป็นอย่างไรเล่าครับ
เมื่อประเทศไทยยังคงมีการทุจริตในแทบทุกระดับ ตั้งแต่เด็กๆที่โกงข้อสอบ ไปจนถึงผู้ใหญ่ที่มีตำแหน่งหน้าที่เกี่ยวข้อง แล้วแบบนี้เราจะยังจะหวังให้ทุกอย่างมันดีขึ้นได้อย่างไร เมื่อแม่พิมพ์ของชาติ หรือสถาบันการศึกษาที่จะเป็นที่สอนคนให้เป็นคนดียังขาดจริยธรรมในเรื่องแบบนี้ แล้วเด็กๆคนรุ่นใหม่จะหาแบบอย่างและตัวอย่างที่ดีจากไหน
เมื่อมีการคอรัปชั่นในทุกๆหนทุกๆแห่ง ทุกระดับ เมื่อการปราบปรามการทุจริต คอรัปชั่นไม่ได้ทำกันอย่างจริงจัง คนผิดหลายคนยังคงลอยนวล แล้วเมื่อไรเราจะพัฒนาประเทศกันได้อย่างเต็มที่และจริงจังเสียที
ผมคงได้แต่ตั้งความหวังว่าประเทศไทยจะเอาจริงกับการปราบปรามทุจริตคอรัปชั่น ต้องหยุดมันให้ได้ สถาบันการศึกษาต้องปลอดการทุจริตคดโกง ผู้ใหญ่ ครูบาอาจารย์ต้องเป็นแบบอย่าง เป็นตัวอย่างที่ดีให้เด็กคนรุ่นใหม่
รัฐบาล หน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องควรเข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไขบัญหา สถานศึกษาภายใต้การกำกับดูแลของรัฐ การโกงแบบนี้ก็ไม่ต่างอะไรกับการโกงเงินแผ่นดิน ควรจะมีการสืบสาวเอาคนผิดไม่ว่าจะกี่คนก็ตามมารับผิดตามกฏหมายต่อไป
คนในสังคมต้องช่วยกันเป็นหูเป็นตา ต้องประณามโดดเดี่ยวบอยคอต ไม่คบหา ไม่ยกย่องชื่นชมไม่ยกมือไหว้คนโกง ถ้าทำกันอย่างจริงจัง ผมเชื่อว่า คนโกงจะอับอายไม่มีที่ยืนให้ลอยหน้าอีกต่อไป
ระบบการศึกษาบ้านเรา วัดผลด้วยคะแนนจากการสอบเป็นส่วนใหญ่ ไม่ได้วัดจากความรู้ที่ได้ตลอดกระบวนการเรียนรู้ของผู้เรียน การสอบจำนวนมากเต็มไปด้วยการทุจริต ประเภทแอบดูคำตอบของเพื่อน แอบจดโพยเข้าไปลอก แอบเปิดสมุดหนังสือลอก สมัยนี้ก็แอบเปิดมือถือลอกคำตอบที่เตรียมไว้หรือทุจริตด้วยการส่งคำตอบเข้ามือถือ ทำกันเป็นแก๊งเป็นขบวนการ ยิ่งการสอบสำคัญๆอย่างการสอบเข้าเรียนหรือทำงาน ที่มีการแข่งขันสูง ยิ่งมีการซื้อขายข้อสอบและคำตอบกันด้วยราคาแพง
การทุจริตในการสอบตามโรงเรียน มหาวิทยาลัย เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจนเป็นเรื่องปกติ ผู้คุมสอบเป็นอาจารย์บ้าง เจ้าหน้าที่บ้าง จับทุจริตในการสอบได้บ้างจับไม่ได้บ้าง บทลงโทษไม่หนักหนาพอให้ผู้ทุจริตต้องหลาบจำ
ใบปริญญาปลอมในวงการนักการเมือง ทำกันเหมือนเป็นเรื่องธรรมดา มหาวิทยาลัยจำนวนมากมีโครงการพิเศษทั้งปริญญาตรีโทเอก เป็นโครงการรับนักการเมืองหรือนักธุรกิจในท้องถิ่นรวมทั้งในส่วนกลางมาเรียน เก็บค่าเล่าเรียนแพงๆ มีบริการทุกประเภทเพื่อช่วยให้เรียนจบ ส่งลูกน้องไปเรียนแทนก็มี จ้างกันทำรายงานและวิทยานิพนธ์ก็เยอะ คนพวกนี้เอาปริญญาที่ได้มาด้วยวิธีการทุจริตทุกรูปแบบไปอวดอ้าง สักแต่มีใบกระดาษแต่ไม่มีความรู้ บางโครงการผลิตปริญญาเอกห่วยๆ มีด๊อกเตอร์จากการโกงออกมามากมาย
เมื่อปี 2556 ที่ผ่านมา มีข่าวฉาวโฉ่ในกระทรวงศึกษาธิการ เกิดมหกรรมทุจริต ในการสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลให้ดำรง ตำแหน่งข้าราชการในตำแหน่งครูผู้ช่วย มีข้อสอบรั่ว มีการซื้อขายข้อสอยและเฉลยคำตอบ เป็นปรากฏการณ์โกงทั้งแผ่นดิน จนบัดนี้ยังหาตัวผู้อยู่เบื้องหลังแท้จริงมาลงโทษไม่ได้ ได้แต่ลงโทษปลาซิวปลาสร้อยปลายเหตุ ให้ผู้ที่ทุจริตสอบ 344 ราย ซึ่งบางรายได้รับการบรรจุและแต่งตั้งไปแล้วออกจากราชการ
ล่าสุด ข่าวใหญ่ส่งท้ายปีเก่า 2557 คือข่าวอื้อฉาวทุจริตทางการเงินในสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง เงินของมหาวิทยาลัยหายไปกว่าหนึ่งพันล้านบาท บัญชีเงินฝากที่ปรากฏความผิดปกติ มีจำนวน 4 บัญชี เป็นบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) สาขา บิ๊กซี สุวินทวงศ์ จำนวน 3 บัญชี และธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) สาขา บิ๊กซี ศรีนครินทร์ จำนวน 1 บัญชี ปรากฏมียอดนำฝากเข้าสู่บัญชี ทั้งหมด ไม่รวมดอกเบี้ย ประมาณ 1,475 ล้านบาท ยอดเงินทั้งหมด เป็นเงินสำรองคลังของสถาบัน ไม่เกี่ยวข้องกับการบริหารงานตามแผนการประจำปี เช่น เงินเดือนค่าตอบแทน ค่าจ้าง การจัดซื้อครุภัณฑ์
จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบความผิดปกติบัญชีย้อนหลังถึงเดือน มิ.ย. 55 พบบัญชีมีความผิดปกติที่เป็นช่วงมีทีมบริหารงาน 3 ชุด ทั้งช่วงที่มีการออกนอกระบบในปี 51 โดยแจงขั้นตอนการอนุมัติเบิกจ่ายในซึ่งทีมบริหารปฏิบัติสืบเนืองกันมา ระบุพบผิดปกติ 2 กรณี คือ เบิก - ถอนตามคำสั่ง สจล. จริงแต่เงินเข้าบัญชีปลอม และ เบิก - ถอนตามคำสั่ง แต่ไม่นำเงินเข้าตามคำสั่ง
เรื่องนี้มีผู้เกี่ยวข้องทั้งเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของมหาวิทยาลัย และผู้จัดการธนาคาร มีการจับกุม นายทรงกลด ศรีประสงค์ ผู้จัดการธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาห้างบิ๊กซี ศรีนครินทร์ น.ส.อำพร น้อยสัมฤทธิ์ ผอ.ส่วนการคลัง สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง นายพูลศักดิ์ บุญสวัสดิ์ นักศึกษาปริญญาโท และนายจริวัฒน์ สหพรอุดมการ ส่วนนายกิตติศักดิ์ มัทธุจัด และ นางสมบัติ โสประดิษฐ์ ผู้ต้องหาอีก 2 คน ยังอยู่ระหว่างการหลบหนี
พนักงานสอบสวนสามารถรวบรวมพยานเอกสารเกี่ยวกับการเงินได้จำนวนมาก รวมถึงตรวจพบทรัพย์สินมีค่าหลายรายการโดยเฉพาะทรัพย์สินของนายกิตติศักดิ์ มัทธุจัด ผู้ต้องหาที่หลบหนีออกนอกประเทศ พบว่า มีการเปิดบริษัทสินเชื่อ มีการปล่อยเงินกู้ นอกระบบ และ จัดสร้างหมู่บ้านจัดสรร มีการโอนเข้าบัญชีต่างๆจำนวนมาก เกือบทุกธนาคารที่มีอยู่ในประเทศไทย
เรียกว่ายักยอกเงินมหาวิทยาลัยมาใช้กันเอิกเกริกเป็นมหกรรมทีเดียวละครับ เรื่องนี้จะสาวไปถึงใครระดับไหนบ้าง และจะหาตัวการสำคัญมาลงโทษได้หรือไม่ต้องติดตามกันต่อไปละครับ
ผมว่าการโกงหรือยักยอกเงินในสถาบันการศึกษาของไทย ไม่ว่าระดับประถม มัธยม หรือมหาวิทยาลัย ลองสาวลงไปดูเถอะครับมีอีกมาก ยิ่งมหาวิทยาลัยใหญ่ๆหลังออกนอกระบบนี่ ยิ่งหาเงินกันด้วยโครงการพิเศษ และการก่อสร้างกันด้วยงบมหาศาล น่าจะตรวจสอบกันจริงจัง ผมว่าจะพบคดีทุจริตกันอีกเพียบ
ที่มันน่าเศร้าคือ การทุจริตคดโกงเกิดขึ้นในสถาบันการศึกษา ที่ที่เป็นพิมพ์ เป็นแม่แบบสร้างคน ถ้าพ่อพิมพ์แม่พิมพ์ครูบาอาจารย์ และลูกพิมพ์นักเรียนนักศึกษา อยู่ท่ามกลางการทุจริตคดโกงกันทุกระดับ โกงทั้งเรื่องใหญ่เรื่องเล็ก โกงทั้งในห้องเรียนและในรั้วนอกรั้วมหาวิทยาลัย โกงจนซึมซับเข้าสายเลือด แล้วอนาคตของประเทศนี้จะเป็นอย่างไรเล่าครับ
เมื่อประเทศไทยยังคงมีการทุจริตในแทบทุกระดับ ตั้งแต่เด็กๆที่โกงข้อสอบ ไปจนถึงผู้ใหญ่ที่มีตำแหน่งหน้าที่เกี่ยวข้อง แล้วแบบนี้เราจะยังจะหวังให้ทุกอย่างมันดีขึ้นได้อย่างไร เมื่อแม่พิมพ์ของชาติ หรือสถาบันการศึกษาที่จะเป็นที่สอนคนให้เป็นคนดียังขาดจริยธรรมในเรื่องแบบนี้ แล้วเด็กๆคนรุ่นใหม่จะหาแบบอย่างและตัวอย่างที่ดีจากไหน
เมื่อมีการคอรัปชั่นในทุกๆหนทุกๆแห่ง ทุกระดับ เมื่อการปราบปรามการทุจริต คอรัปชั่นไม่ได้ทำกันอย่างจริงจัง คนผิดหลายคนยังคงลอยนวล แล้วเมื่อไรเราจะพัฒนาประเทศกันได้อย่างเต็มที่และจริงจังเสียที
ผมคงได้แต่ตั้งความหวังว่าประเทศไทยจะเอาจริงกับการปราบปรามทุจริตคอรัปชั่น ต้องหยุดมันให้ได้ สถาบันการศึกษาต้องปลอดการทุจริตคดโกง ผู้ใหญ่ ครูบาอาจารย์ต้องเป็นแบบอย่าง เป็นตัวอย่างที่ดีให้เด็กคนรุ่นใหม่
รัฐบาล หน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องควรเข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไขบัญหา สถานศึกษาภายใต้การกำกับดูแลของรัฐ การโกงแบบนี้ก็ไม่ต่างอะไรกับการโกงเงินแผ่นดิน ควรจะมีการสืบสาวเอาคนผิดไม่ว่าจะกี่คนก็ตามมารับผิดตามกฏหมายต่อไป
คนในสังคมต้องช่วยกันเป็นหูเป็นตา ต้องประณามโดดเดี่ยวบอยคอต ไม่คบหา ไม่ยกย่องชื่นชมไม่ยกมือไหว้คนโกง ถ้าทำกันอย่างจริงจัง ผมเชื่อว่า คนโกงจะอับอายไม่มีที่ยืนให้ลอยหน้าอีกต่อไป
