หนังซูเปอร์ฮีโร่...การแข่งขัน อาวุธ สงคราม เทคโนโลยี

เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 3 เมษายน 2557 ที่ผ่านมามีภาพยนตร์เรื่องหนึ่งเข้าโรงฉาย คือ เรื่องกัปตัน อเมริกา มัจจุราชอหังการ (Captain America : The Winter Soldier) เป็นหนังภาคสองของกัปตันอเมริกาที่หลายๆ คนรอคอย

การ์ตูนประเภทซูเปอร์ฮีโร่ระดับตำนานมีหลายสิบเรื่อง ค่ายการ์ตูนในสหรัฐมีอยู่สองค่ายใหญ่ๆ ที่เรารู้จักกันดีคือมาร์เวล และดีซีคอมมิค สำหรับค่ายมาร์เวลมีหนังที่โด่งดังเป็นที่ชื่นชอบของคนดูทั่วโลก คือ X-men The avengers Spider man เป็นต้น ส่วนค่ายดีซีก็พวก ซุปเปอร์แมน แบทแมน กรีนแลนเทิร์น เป็นต้น

วันนี้ผมอยากหยิบเรื่องราวของซุปเปอร์ ฮีโร่มาเล่าสู่กันฟัง วงการหนัง อเมริกันสร้างฮีโร่ขึ้นมาอย่างมีเหตุมีผลและมีชีวิตชีวาเหมือนชีวิตจริงอย่างมาก เพราะเหล่าบรรดาตัวละครต่างๆ ในหนังสือการ์ตูนแบบอเมริกันมักจะมีคาแรคเตอร์ที่หลากหลายแตกต่างกันไปและมีความเป็นมนุษย์อย่างเห็นได้ชัด

ฮีโร่หรือตัวร้ายแทบทุกตัวมีเหตุผลของตัวเองว่าทำไมต้องเลวหรือทำไมจึงลุกขึ้นมาต่อสู้กับเหล่าร้าย ทุกคนมีแรงผลักดันจากบาดแผลในจิตใจ

อย่างกัปตันอเมริกา หรือ สตีฟ โรเจอร์ที่ผมพูดถึงภาพยนตร์ตอนต้นของบทความนี้ ก็เคยเป็นคนผอมแห้งแรงน้อย แต่กลับมีความกล้าหาญและฉลาดกว่าทหารที่มีร่างกายแข็งแรงกำยำ ทำให้เขาได้รับเลือกเข้าโครงการพัฒนาทหารของกองทัพ เขาอาจจะเป็นคนผอมแห้งแรงน้อยแต่เขาก็เป็นคนที่รักชาติมาก กัปตันอเมริกาถูกเขียนขึ้นเพื่อต่อสู้กับนาซีในยุคสงครามโลกเพื่อปลุกจิตสำนึกความรักชาติของคนอเมริกันในยุคนั้น

หรือตัวละครดังอย่างไอรอนแมน ก็ถูกสร้างมาเพื่อที่จะพูดถึงความโหดร้ายของสงคราม เพราะตัวเอกของเรื่อง โทนี่ สตาร์คเป็นคนฉลาดและเป็นผู้ร่ำรวยจากการค้าขายอาวุธ แต่วันหนึ่งเขากลับถูกผู้ก่อการร้ายจี้ตัวไป ที่เจ็บแสบคืออาวุธของผู้ก่อการร้ายเป็นอาวุธที่ผลิตจากบริษัทของเขาเอง แถม ทำให้เขาต้องมีสะเก็ดกระสุนอยู่บริเวณหน้าอก เป็นแรงผลักดันให้ เขาต้องทำอุปกรณ์เครื่องป้องกันเพื่อไม่ให้สะเก็ดระเบิดนี้เข้าสู่หัวใจของเขา เหมือนตราบาปของชายผู้ผลิตและขายอาวุธคนหนึ่งที่สำนึกได้ เขาพัฒนาการสร้างอาวุธร้ายอย่างเกราะเหล็กที่ทันสมัย เพื่อใช้ทำลายอาวุธที่เขาเคยสร้างขึ้นมา มีประโยคหนึ่งในหนังเรื่องนี้ที่สะท้อนธาตุแท้ความจริงของนายทุนผู้ผลิตอาวุธสำหรับฆ่าทำลายล้างชีวิตมนุษย์ เขาบอกว่าเพื่อทำลายอาวุธร้ายแรงที่สร้างขึ้น จึงต้องสร้างอาวุธที่ร้ายแรงยิ่งกว่า

หนังของค่ายดีซี เราจะนึกถึงแบทแมนที่พ่อแม่ถูกโจรปล้นและฆาตกรรมต่อหน้าต่อตาเด็กหนุ่มอย่าง บรูซ เวย์น และหนีไปได้ จนทำให้เขารู้สึกว่าโลกนี้มันไร้ความยุติธรรม เขาเติบโตมาเป็นแบทแมน ทำตัวเหมือนศาลเตี้ยคอยไล่ล่าผู้ร้าย แถมมักจะทำแบบระห่ำสุดๆ

ฝั่งคนร้ายบางคนไม่ได้เกิดมาร้าย แต่เขาถูกสถานการณ์บีบจนตัวเองกลายเป็นคนร้ายไ ป อย่างมิสเตอร์ฟรีซ ที่มาพร้อมกับความเยือกเย็น เบื้องหลังที่มาของความร้ายกาจของเขา คือการที่ภรรยาของเขาป่วยหนัก จนเขาตัดสินใจแช่แข็งร่างกายของเธอไว้ เพื่อหาเงินหรือหาทุนทำวิจัยหาหนทางรักษาเธอให้ได้ ทำให้เขากลายเป็นคนร้ายไป และการเป็นมิสเตอร์ฟรีซเป็นคนกระด้างเย็นชาไปโดยปริยาย

ตัวร้ายอีกตัวที่ผมชอบ คือ แม็กนีโต้ จากเรื่องเอ็กซ์เมน คนนี้ตอนแรกไม่ได้ร้ายกาจ เขาเคยเป็นเพื่อนกับศาสตราจารย์ ชาร์ล เอ็กเซเวียร์ แต่ด้วยความคิดที่แตกต่างว่ามนุษย์กลายพันธุ์เป็นพวกที่เหนือกว่ามนุษย์ธรรมดา เพราะเป็นวิวัฒนาการที่ก้าวไปอีกขั้น ดังนั้นมนุษย์ธรรมดาต้องก้มหัวให้มนุษย์กลายพันธุ์ ขณะที่ศาสตราจารย์ชาร์ล เอ็กเซเวียร์กลับมองตรงข้ามกับแม็กนีโต้ว่า มนุษย์เราเท่ากันเสมอภาคกัน เราควรอยู่ร่วมกับมนุษย์ปรกติได้อย่างสันติ ทำให้สองคนนี้แตกแยกจากกันและยืนกันคนละฝั่ง

พูดถึงซูเปอร์ฮีโร่และยอดมนุษย์ฝั่งอเมริกาแล้วเรา จะเห็นได้ชัดว่ามันสะท้อนให้เห็นประวัติศาสตร์และปัญหาที่ต้องเผชิญของประเทศสหรัฐอเมริกาและโลกในแต่ละยุคแต่ละสมัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสหรัฐอเมริกาในฐานะอภิมหาอำนาจของโลก นับตั้งแต่สงครามโลก สงครามเวียดนาม สงครามในตะวันออกกลาง ฯลฯ

สำหรับมหาอำนาจสหรัฐอเมริกา ต้องหาฮีโร่มาเป็นตัวแทนของคนอเมริกันในการแก้ปัญหา เพื่อเป็นสัญลักษณ์ว่าประเทศนี้ยิ่งใหญ่ สู้ไม่ถอย เดินหน้าลุยตลอด และมุ่งไปข้างหน้า ที่สำคัญต้องแข็งแรง แข็งแกร่งกว่าใคร ต้องฉลาดล้ำ ต้องเหนือกว่า และไฮเทคตลอดเวลา

ดูหนังประเภทนี้แล้ว บางคนอาจจะบอกว่าดูเอามันส์ก็พอ แต่หากลองคิดตามเนื้อหาในหนัง หรือลองเอาคำพูดในหนังไปคิดตามดู เราจะได้เห็นเนื้อหาสาระข้อคิด ความเป็นจริง ที่ไม่ใช่เพียงแค่ความบันเทิง

การ์ตูนที่ภาพสวยอ่านสนุก หลายคนติดงอม ไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ ถ้าอ่านเพื่อเอาสาระ บางทีมันก็มีอะไรแฝงอยู่ข้างในไม่น้อย น้องๆเด็กหนูๆที่อาจจะไม่ชอบอ่านหนังสือ ลองหันมาอ่านการ์ตูนดีๆ ดูบ้างทั้งของฝรั่งหรือญี่ปุ่น รวมไปถึงการ์ตูนไทยบางเรื่อง เดี๋ยวนี้พัฒนาทำได้ดีไม่แพ้ชาติอื่นเหมือนกัน