อาจกล่าวได้ว่านี่เป็นยุคเสื่อมสุดๆ แล้ว ของการปกครองผ่านตัวแทนในระบบรัฐสภาในประวัติศาสตร์การเมืองไทย
ไม่มียุคไหนที่พฤติกรรมของสมาชิกรัฐสภาจะเป็นที่น่าอิดหนาระอาใจประชาชนได้มากขนาดนี้อีกแล้ว ที่เคยกล่าวไว้ว่า พฤติกรรมของสมาชิกในสภาฯ เหมือนกับโรงเรียนอนุบาล ก็เห็นจะต้องถอนคำพูดพร้อมกับขออภัย เพราะเด็กอนุบาลถึงจะยุ่งเหยิงวุ่นวายหรือทะเลาะตบตีร้องไห้กัน ก็เป็นไปตามประสาเด็กที่ไม่รู้เดียงสา มีแต่สัญชาตญาณ
แต่ในสภาฯ ก็มีแต่สัญชาตญาณเหมือนกัน แต่เป็นสัญชาตญาณอย่างพวกโตแต่ตัว แต่ไม่มีความยับยั้งชั่งใจ ปล่อยความดิบเถื่อนออกมาเต็มที่
ว่ากันมาตั้งแต่สภาฯ สูง ข่าว ส.ว.คนหนึ่งซึ่งแสดงสัญชาตญาณดิบ ดูรูปโป๊อล่างฉ่างกลางสภาฯ ในวาระพิจารณาถอดถอนอดีต รมต.ไอซีทีและอดีตปลัดกระทรวง ตามที่ ป.ป.ช. ชี้มูลว่ามีความผิดฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ กรณีดำเนินการอนุมัติแก้ไขสัญญาสัมปทาน ดาวเทียมโดยมิชอบ
ส.ว. (เลือกตั้ง) ผู้นั้นอ้างว่า ที่ดูน่ะเป็นรูปหลานสาวตัวเอง และก็ดูแป๊บเดียว
ซึ่งเป็นการแก้ตัวที่ไม่ละอายปาก เพราะรูปที่ข่าวนั้นถ่ายออกมาได้จากกล้องวงจรปิด มันคือรูปผู้หญิงเปลือยยืนอ้าขาโชว์ของสงวน เห็นอย่างชัดเจน เรียกว่าโกหกแบบไม่สงสารญาติพี่น้องหรือหลานสาวที่บ้าน ถ้ามีหลานจริงๆ
ทำงามหน้าในการประชุมเพื่อทำหน้าที่สำคัญที่สุดหน้าที่หนึ่งของ ส.ว.คือการตรวจสอบถอดถอนฝ่ายบริหาร
ช่วงที่ในอีกสภาฯ กำลังถกกันในวาระว่า ส.ว.ควรมาจากการเลือกตั้งทั้งหมดดี หรือจะมี ส.ว.จากการสรรหาผสมอยู่เหมือนเช่นในปัจจุบัน
ราวกับจะแสดงให้เห็นกันชัดถึงคุณภาพของ ส.ว.เลือกตั้ง ที่ว่าแสนจะวิเศษ เพราะเป็นประชาธิปไตยมาจากประชาชนเลือกกันล้วนๆ ถึงดีแน่ๆ ส.ว.ท่านเลยโชว์ว่า นี่ไงละ ส.ว.ประชาธิปไตย เห็นไหม นั่นไง รูเบ้อเร่อเลย เหมือนเพลงคาราบาวสมัยก่อน
ส่วนอีกสภาฯ หนึ่งก็ไม่ได้น้อยหน้ากัน หากกรณีสภาฯ ส.ว.นั้นเป็นเรื่องของ “ราคะ” สภาฯ ล่างก็โชว์ “โทสะ” กันให้เห็น ด้วยการที่ ส.ส.สุราษฎร์ฯ พรรคประชาธิปัตย์ นายเชน เทือกสุบรรณ คว้าเก้าอี้ทุ่มกลางสภาฯ เนื่องจากไม่พอใจที่ถูกฝ่ายรัฐบาลปิดปากไม่ยอมให้อภิปรายเรื่องปัญหาราคายาง
ไอ้เรื่องรัฐบาลปิดปากนั่นก็เรื่องนึง แต่การแสดงพฤติกรรมดิบเถื่อนในสภาฯ ก็เป็นเรื่องที่วิญญูชนรับไม่ได้อยู่ดี แม้ประชาธิปัตย์จะบอกว่า เกิดจากความกดดันที่ไม่ได้เป็นปากเป็นเสียงให้พ่อแม่พี่น้องฐานเสียงในเรื่องราคายาง ขอให้ประชาชนเข้าใจ แต่มันก็เหมือนกับนักเลงสองแก๊ง กวนบาทากันไปกวนกันมาเลยฟาดปากกัน อันนั้นไม่ว่าใครจะเริ่มก่อนใครจะเดือดทนไม่ไหว แต่ประชาชนที่เห็น มันก็ภาพเดียว คือ อันธพาลตีกัน
ส่วน ส.ส.ฝั่งรัฐบาลเองก็กลัวจะตกขบวน “จุดอ่อนโชว์” ของระบอบรัฐสภา ก็แสดงภาพของความเหลวไหลออกมาให้ดู เมื่อโดดประชุมกันจนสภาฯ ล่มในวันเสาร์ ไอ้ที่หายไปนั่นก็ฝ่ายรัฐบาลล้วนๆ เล่นเอาเจ๊แดง ผู้จัดการพรรคตัวจริง ปรี๊ดแตก ที่ทำให้เสียหน้า และเสียกระบวนเกมการเมือง
นับว่าสมัยประชุมนี้ สภาฯ เละยิ่งกว่าเละ ล้มละลายยิ่งกว่าล้มละลาย ขายขี้หน้าที่สุดในสามโลก เมื่อนับรวมไปตั้งแต่ต้นเรื่องเปิดสภาฯ นับรวมเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ตั้งแต่ยกเกือกขึ้นมาดม เกาขี้กลาก ชะนีกรีดร้อง ด่าว่ากันเป็นตุ๊ดเป็นแต๋ว ไปถึงชุลมุนบีบคอตำรวจสภาฯ
น่าเศร้าใจว่า คนพวกนี้กลับเรียกร้องเอาแต่สิ่งที่พึงมีพึงได้ เรียกร้องแต่จะเอาสิทธิประโยชน์ แถมเป็นสิทธิประโยชน์ชั้นพรีเมียมเสียด้วย ตั้งแต่ไอแพดราคาแพงกว่าท้องตลาด หรือเบี้ยยังชีพสำหรับอดีตนักการเมืองเดือนละหมื่นห้า เรียกว่าต่อจากนี้ ใครเป็นสมาชิกรัฐสภาแล้ว ก็จะมีเบี้ยยังชีพกินเปล่าไปตลอดชีวิต ต่อให้เคยถูกตัดสิทธิการเมืองมาก่อนหน้าปีก็ไม่เป็นไร รับทันทีเดือนละหมื่นห้า
จำนวนเงินเท่ากับพวกคุณ หรือลูกหลานของคุณที่จบปริญญาตรี ทำงานงกๆ ตลอดเดือน และก็ถูกหักภาษีไปหล่อเลี้ยงนักการเมืองและอดีตนักการเมืองพวกนี้นั่นแหละ
น่าสังเกตว่า ผู้แถลงข่าวเรื่องนี้ คือ นายบุญยอด ประชาธิปัตย์ ซึ่งออกมาแถลงหน้าชื่น เรียกว่า อะไรที่เป็นผลประโยชน์ร่วมกัน ยิ้มรับกันได้ ไม่ต้องสนใจว่าฝ่ายไหนใครชง
เมื่อสภาฯ ที่มาจากการเลือกตั้งมีสภาพแบบนี้ แล้วเราจะไปหวังผลตรวจสอบถ่วงดุลอะไร? ประโยชน์ไม่ตรงกันก็พะบู๊กัน ประโยชน์ตรงกันก็ทำยิ้มหน้าชื่น สภาฯ ตรวจสอบก็นั่งดูรูปโป๊ ประชาชนมีหน้าที่เสียภาษีก็เสียกันไป
ส่วน ส.ว.สรรหา ก็จะถูกขบวนการพวกมากลากไปนี้ล้มล้างทิ้ง ต่อไปให้มีแต่ ส.ว.เลือกตั้ง บทห้ามเรื่องสภาผัวสภาเมีย กระโดดสภาฯ ล่าง ลาออกไปสมัครสภาฯ สูง ก็จะมีการแก้ไขปลดล็อกกัน เรียกว่า จะนำวุฒิสภาเข้าสู่ระบบ “การเมือง” ของแท้เต็มรูปแบบ รูปแบบอย่างไรหรือ ก็อย่างที่ทุกกคนได้เห็นได้เล่าไปทั้งหมดข้างต้น
เรียกว่า ระบอบการเมืองจะล้มละลายล่มสลายกันไปให้เห็นต่อหน้าในไม่นาน ถ้ารัฐธรรมนูญถูกแก้ไข จากเรื่องนี้ก่อนเรื่องแรก ซึ่งเหมือนเป็นวาระเร่งด่วน เรื่องสำคัญที่สุดของฝ่ายรัฐบาล ที่จะต้องรีบหักเอาให้ได้
มาก่อนปัญหาปากท้องเรื่องสินค้าแพง ก่อนเรื่องปัญหาราคายาง มาก่อนเรื่องโครงการรับจำนำข้าวที่ล้มเหลว แทบเล็ตแจกเด็กประถมที่แจกไปแล้ว อันดับการศึกษาไทยก็ยังรูดติดโหล่ที่สุดในอาเซียน
นี่ยังไม่ต้องพูดถึง การล่มสลายทางการเงินการคลัง ทั้งเรื่องหาทางลดรายได้แบบอยู่ดีไม่ว่าดี เช่น ลดภาษีนำเข้าสินค้าแบรนเนม หรือการไปกู้เงินมาจำนวนมหาศาล โดยไม่ได้คิดเพิ่มรายได้อีก
อาจต้องกล่าวอีกครั้งว่า นรก (ของคนชั้นกลาง และชาวไทยที่มีรายได้ถึงเกณฑ์เสียภาษี) กำลังจะมาเยือนจริงๆ
ไม่มียุคไหนที่พฤติกรรมของสมาชิกรัฐสภาจะเป็นที่น่าอิดหนาระอาใจประชาชนได้มากขนาดนี้อีกแล้ว ที่เคยกล่าวไว้ว่า พฤติกรรมของสมาชิกในสภาฯ เหมือนกับโรงเรียนอนุบาล ก็เห็นจะต้องถอนคำพูดพร้อมกับขออภัย เพราะเด็กอนุบาลถึงจะยุ่งเหยิงวุ่นวายหรือทะเลาะตบตีร้องไห้กัน ก็เป็นไปตามประสาเด็กที่ไม่รู้เดียงสา มีแต่สัญชาตญาณ
แต่ในสภาฯ ก็มีแต่สัญชาตญาณเหมือนกัน แต่เป็นสัญชาตญาณอย่างพวกโตแต่ตัว แต่ไม่มีความยับยั้งชั่งใจ ปล่อยความดิบเถื่อนออกมาเต็มที่
ว่ากันมาตั้งแต่สภาฯ สูง ข่าว ส.ว.คนหนึ่งซึ่งแสดงสัญชาตญาณดิบ ดูรูปโป๊อล่างฉ่างกลางสภาฯ ในวาระพิจารณาถอดถอนอดีต รมต.ไอซีทีและอดีตปลัดกระทรวง ตามที่ ป.ป.ช. ชี้มูลว่ามีความผิดฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ กรณีดำเนินการอนุมัติแก้ไขสัญญาสัมปทาน ดาวเทียมโดยมิชอบ
ส.ว. (เลือกตั้ง) ผู้นั้นอ้างว่า ที่ดูน่ะเป็นรูปหลานสาวตัวเอง และก็ดูแป๊บเดียว
ซึ่งเป็นการแก้ตัวที่ไม่ละอายปาก เพราะรูปที่ข่าวนั้นถ่ายออกมาได้จากกล้องวงจรปิด มันคือรูปผู้หญิงเปลือยยืนอ้าขาโชว์ของสงวน เห็นอย่างชัดเจน เรียกว่าโกหกแบบไม่สงสารญาติพี่น้องหรือหลานสาวที่บ้าน ถ้ามีหลานจริงๆ
ทำงามหน้าในการประชุมเพื่อทำหน้าที่สำคัญที่สุดหน้าที่หนึ่งของ ส.ว.คือการตรวจสอบถอดถอนฝ่ายบริหาร
ช่วงที่ในอีกสภาฯ กำลังถกกันในวาระว่า ส.ว.ควรมาจากการเลือกตั้งทั้งหมดดี หรือจะมี ส.ว.จากการสรรหาผสมอยู่เหมือนเช่นในปัจจุบัน
ราวกับจะแสดงให้เห็นกันชัดถึงคุณภาพของ ส.ว.เลือกตั้ง ที่ว่าแสนจะวิเศษ เพราะเป็นประชาธิปไตยมาจากประชาชนเลือกกันล้วนๆ ถึงดีแน่ๆ ส.ว.ท่านเลยโชว์ว่า นี่ไงละ ส.ว.ประชาธิปไตย เห็นไหม นั่นไง รูเบ้อเร่อเลย เหมือนเพลงคาราบาวสมัยก่อน
ส่วนอีกสภาฯ หนึ่งก็ไม่ได้น้อยหน้ากัน หากกรณีสภาฯ ส.ว.นั้นเป็นเรื่องของ “ราคะ” สภาฯ ล่างก็โชว์ “โทสะ” กันให้เห็น ด้วยการที่ ส.ส.สุราษฎร์ฯ พรรคประชาธิปัตย์ นายเชน เทือกสุบรรณ คว้าเก้าอี้ทุ่มกลางสภาฯ เนื่องจากไม่พอใจที่ถูกฝ่ายรัฐบาลปิดปากไม่ยอมให้อภิปรายเรื่องปัญหาราคายาง
ไอ้เรื่องรัฐบาลปิดปากนั่นก็เรื่องนึง แต่การแสดงพฤติกรรมดิบเถื่อนในสภาฯ ก็เป็นเรื่องที่วิญญูชนรับไม่ได้อยู่ดี แม้ประชาธิปัตย์จะบอกว่า เกิดจากความกดดันที่ไม่ได้เป็นปากเป็นเสียงให้พ่อแม่พี่น้องฐานเสียงในเรื่องราคายาง ขอให้ประชาชนเข้าใจ แต่มันก็เหมือนกับนักเลงสองแก๊ง กวนบาทากันไปกวนกันมาเลยฟาดปากกัน อันนั้นไม่ว่าใครจะเริ่มก่อนใครจะเดือดทนไม่ไหว แต่ประชาชนที่เห็น มันก็ภาพเดียว คือ อันธพาลตีกัน
ส่วน ส.ส.ฝั่งรัฐบาลเองก็กลัวจะตกขบวน “จุดอ่อนโชว์” ของระบอบรัฐสภา ก็แสดงภาพของความเหลวไหลออกมาให้ดู เมื่อโดดประชุมกันจนสภาฯ ล่มในวันเสาร์ ไอ้ที่หายไปนั่นก็ฝ่ายรัฐบาลล้วนๆ เล่นเอาเจ๊แดง ผู้จัดการพรรคตัวจริง ปรี๊ดแตก ที่ทำให้เสียหน้า และเสียกระบวนเกมการเมือง
นับว่าสมัยประชุมนี้ สภาฯ เละยิ่งกว่าเละ ล้มละลายยิ่งกว่าล้มละลาย ขายขี้หน้าที่สุดในสามโลก เมื่อนับรวมไปตั้งแต่ต้นเรื่องเปิดสภาฯ นับรวมเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ตั้งแต่ยกเกือกขึ้นมาดม เกาขี้กลาก ชะนีกรีดร้อง ด่าว่ากันเป็นตุ๊ดเป็นแต๋ว ไปถึงชุลมุนบีบคอตำรวจสภาฯ
น่าเศร้าใจว่า คนพวกนี้กลับเรียกร้องเอาแต่สิ่งที่พึงมีพึงได้ เรียกร้องแต่จะเอาสิทธิประโยชน์ แถมเป็นสิทธิประโยชน์ชั้นพรีเมียมเสียด้วย ตั้งแต่ไอแพดราคาแพงกว่าท้องตลาด หรือเบี้ยยังชีพสำหรับอดีตนักการเมืองเดือนละหมื่นห้า เรียกว่าต่อจากนี้ ใครเป็นสมาชิกรัฐสภาแล้ว ก็จะมีเบี้ยยังชีพกินเปล่าไปตลอดชีวิต ต่อให้เคยถูกตัดสิทธิการเมืองมาก่อนหน้าปีก็ไม่เป็นไร รับทันทีเดือนละหมื่นห้า
จำนวนเงินเท่ากับพวกคุณ หรือลูกหลานของคุณที่จบปริญญาตรี ทำงานงกๆ ตลอดเดือน และก็ถูกหักภาษีไปหล่อเลี้ยงนักการเมืองและอดีตนักการเมืองพวกนี้นั่นแหละ
น่าสังเกตว่า ผู้แถลงข่าวเรื่องนี้ คือ นายบุญยอด ประชาธิปัตย์ ซึ่งออกมาแถลงหน้าชื่น เรียกว่า อะไรที่เป็นผลประโยชน์ร่วมกัน ยิ้มรับกันได้ ไม่ต้องสนใจว่าฝ่ายไหนใครชง
เมื่อสภาฯ ที่มาจากการเลือกตั้งมีสภาพแบบนี้ แล้วเราจะไปหวังผลตรวจสอบถ่วงดุลอะไร? ประโยชน์ไม่ตรงกันก็พะบู๊กัน ประโยชน์ตรงกันก็ทำยิ้มหน้าชื่น สภาฯ ตรวจสอบก็นั่งดูรูปโป๊ ประชาชนมีหน้าที่เสียภาษีก็เสียกันไป
ส่วน ส.ว.สรรหา ก็จะถูกขบวนการพวกมากลากไปนี้ล้มล้างทิ้ง ต่อไปให้มีแต่ ส.ว.เลือกตั้ง บทห้ามเรื่องสภาผัวสภาเมีย กระโดดสภาฯ ล่าง ลาออกไปสมัครสภาฯ สูง ก็จะมีการแก้ไขปลดล็อกกัน เรียกว่า จะนำวุฒิสภาเข้าสู่ระบบ “การเมือง” ของแท้เต็มรูปแบบ รูปแบบอย่างไรหรือ ก็อย่างที่ทุกกคนได้เห็นได้เล่าไปทั้งหมดข้างต้น
เรียกว่า ระบอบการเมืองจะล้มละลายล่มสลายกันไปให้เห็นต่อหน้าในไม่นาน ถ้ารัฐธรรมนูญถูกแก้ไข จากเรื่องนี้ก่อนเรื่องแรก ซึ่งเหมือนเป็นวาระเร่งด่วน เรื่องสำคัญที่สุดของฝ่ายรัฐบาล ที่จะต้องรีบหักเอาให้ได้
มาก่อนปัญหาปากท้องเรื่องสินค้าแพง ก่อนเรื่องปัญหาราคายาง มาก่อนเรื่องโครงการรับจำนำข้าวที่ล้มเหลว แทบเล็ตแจกเด็กประถมที่แจกไปแล้ว อันดับการศึกษาไทยก็ยังรูดติดโหล่ที่สุดในอาเซียน
นี่ยังไม่ต้องพูดถึง การล่มสลายทางการเงินการคลัง ทั้งเรื่องหาทางลดรายได้แบบอยู่ดีไม่ว่าดี เช่น ลดภาษีนำเข้าสินค้าแบรนเนม หรือการไปกู้เงินมาจำนวนมหาศาล โดยไม่ได้คิดเพิ่มรายได้อีก
อาจต้องกล่าวอีกครั้งว่า นรก (ของคนชั้นกลาง และชาวไทยที่มีรายได้ถึงเกณฑ์เสียภาษี) กำลังจะมาเยือนจริงๆ