หลายปีมานี้ ทุกครั้งที่ผมไปหัวหิน ผ่านอุโมงค์ก่อนถึงหน้าวังไกลกังวล ผมคิดถึงโรงพยาบาลศิริราช สถานที่ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวประทับเพื่อรักษาพระองค์เป็นเวลานาน และคิดว่าพระองค์คงต้องทรงคิดถึงบ้านที่นี่ คิดถึงวังไกลกังวล และชายทะเลหัวหิน อย่างที่สุด
ภาพข่าวพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ได้เสด็จแปรพระราชฐานจากโรงพยาบาลศิริราช ไปยังวังไกลกังวลเมื่อวันที่ 1 สิงหาคมที่ผ่านมา ทำให้ผมคิดถึงพระองค์ท่านคงจะมีความสุขเมื่อได้เสด็จกลับบ้าน
บ้านที่ชื่อไกลกังวล ชื่อที่มีความหมายยิ่ง บ้านที่อยู่ไกลจากความกังวลใดๆ อยู่ห่างจากกรุงเทพฯราวสองร้อยกว่ากิโลเมตร เดินทางด้วยรถยนต์ใช้เวลาสองชั่วโมงเศษๆ
หัวหินมีเสน่ห์ มีความเป็นมาทางประวัติศาสตร์ มีอดีตที่น่าค้นหา เป็นเมืองชายทะเลที่นับว่ายังสะอาด ไม่อึกทึกเท่าหาดพัทยาหรือบางแสน เป็นอำเภอเล็กๆ มีเอกลักษณ์พิเศษ ตั้งอยู่ริมหาดทรายชายทะเลฝั่งอ่าวไทย ยาวเหยียดต่อจากหาดชะอำ ไปถึงหาดปราณบุรี และประจวบคีรีขันธ์
วังไกลกังวล เป็นวังส่วนพระองค์ที่พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.2469 เพื่อพระราชทานแด่สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี โดยพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์จากพระคลังข้างที่ ตั้งอยู่ที่ชายทะเล อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ อยู่ห่างจากหาดหัวหินไปทางทิศเหนือประมาณ 3 กิโลเมตร โดยมีหม่อมเจ้าอิทธิเทพสรรค์ กฤดากร เป็นสถาปนิกผู้ออกแบบและควบคุมการก่อสร้าง ประกอบด้วย พระตำหนักเปี่ยมสุข ปลุกเกษม เอิบเปรม เอมปรีย์
ในรัชกาลที่ 7 ทรงออกพระนามเรียกวังแห่งนี้ว่า สวนไกลกังวล และในตราสัญลักษณ์ของวังเมื่อ พ.ศ. 2472 ได้ออกนามว่า พระราชวังไกลกังวล อย่างไรก็ตาม เนื่องจากไม่ปรากฏหลักฐานว่ามีพระบรมราชโองการประกาศยกเป็นพระราชวัง ดังนั้น จึงยังคงเรียกว่า วังไกลกังวล ในพระราชนิพนธ์เรื่องทองแดง ก็ทรงเรียกว่า วังไกลกังวล
ปัจจุบันเป็นที่ประทับแปรพระราชฐานฤดูร้อนของ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และสมเด็จพระนางเจ้าฯ เป็นที่ทราบกันดีว่าทั้งสองพระองค์โปรดประทับที่นี่เป็นพิเศษ และมักประทับต่อเนื่องเป็นเวลานาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ถ้าขึ้นไปดูวิวหัวหินบนเขาหินเหล็กไฟ จะเห็นภาพมุมกว้าง ตรงหน้าจะเป็นสนามกอล์ฟรถไฟ ซึ่งมีมานานเป็นสนามกอล์ฟแรกๆของเมืองไทย ถัดไปเป็นสถานีรถไฟที่สวยงาม ใครมาไม่ถึงสถานีรถไฟ ก็ถือว่ายังมาไม่ถึงหัวหิน ริมหาดก็เป็นที่ตั้งของโรงแรมรถไฟที่สร้างมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 7 มีสถาปัตยกรรมงดงามที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้ ปัจจุบันคือโรงแรมโซฟิเทลหัวหิน
จากจุดชมวิวเขาหินเหล็กไฟ จะเห็นวังไกลกังวลทางขวามือ ริมหาดตลอดแนวเดิมเป็นที่ประทับตากอากาศของเจ้านายหลายพระองค์ ตัวอย่างเช่น กรมพระยาดำรงราชานุภาพ และขุนนางตระกูลหลายตระกูล เช่น บ้านพิชัยญาติ ซึ่งยังคงรักษาตัวบ้านเดิมเอาไว้ ถ้าใครมีเวลา สามารถเดินริมหาดที่สามารถขับรถมาตามถนนแนบเคหาสน์ แล้วเลี้ยวเข้าซอยซึ่งมีทางลงทะเลได้หลายซอย เพื่อชมบ้านพักของตระกูลต่างๆ
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวโปรดกีฬาเรือใบ คนไทยได้เห็นภาพพระองค์ทรงเรือใบที่นี่ บางครั้งก็ทรงล่องเรือใบไปที่วัดเขาเต่า ซึ่งอยู่ทางใต้ของฝั่งทะลหัวหินต่อจากหาดเขาตะเกียบ ที่นี่เองชาวบ้านยังจดจำเล่าขานการทรงเรือใบของพระองค์ท่านทำให้ได้ทราบถึงความเดือดร้อนของชาวบ้านที่ขาดแคลนน้ำ และก่อให้เกิดโครงการอ่างเก็บน้ำเขาเต่า อันเป็นโครงการเนื่องมาจากพระราชดำริแห่งแรก ในหลวงทรงมอบทรัพย์ส่วนพระองค์ จำนวน 60,000 บาทให้กรมชลประทาน ก่อสร้างอ่างเก็บน้ำเขาเต่า
สมเด็จพระนางเจ้าฯยังโปรดให้ฟื้นฟูการทอผ้าเพื่อให้ชาวบ้านมีอาชีพเสริม ผ้าทอที่เขาเต่าโดยเฉพาะอย่างยิ่งผ้าขาวม้ามีคุณภาพมีชื่อเสียงมาถึงทุกวันนี้ หาดทรายที่วัดเขาเต่าสวยสะอาดแถมมีคุณสมบัติพิเศษในการรักษาโรคด้วย ใครไปหัวหินแล้วยังไม่เคยไปวัดเขาเต่า ลองไปดูสักครั้งซิครับ ยังมีโครงการพระราชดำริอีกมากมายในหัวหิน ประจวบคีรีขันธ์ และเพชรบุรี
สำหรับชาวบ้านที่นี่ หัวหินเป็นเหมือนบ้านอีกหลังหนึ่งของพ่อหลวง เป็นที่ ที่ในหลวงโปรด ได้มาพักผ่อน ผ่อนคลาย จากสิ่งต่างๆ ไกลจากความกังวลใดๆอย่างแท้จริง ห่างจากความวุ่นวายของกรุงเทพ ฯ เมื่อในหลวงเสด็จจากโรงพยาบาลศิริราช มาประทับที่หัวหิน ก็คงไม่ต้องแปลกใจแล้วละครับว่าทำไมคนหัวหินถึงดีใจและรักในหลวงมากๆ
หัวหินยังเป็นถิ่นของอร่อยระดับตำนานอีกมาก เจ้าถิ่นที่หัวหินจะบอกเล่าว่า ถ้ายังไม่ได้เดินเล่นซื้อของกินของอร่อยอย่าง กะหล่อจี๊ หรือไอศครีมเจ๊นิ โรตี ขนมน้ำแข็งใส ก็ถือว่า ยังไปไม่ถึงหัวหิน ถ้ายังไม่ได้ชิมอาหารร้านเก่าแก่อย่างร้านโกธิ ที่แสนอร่อยทุกเมนู ก็ยังไม่ถึงหัวหิน ถ้ายังไม่ได้กินลอดช่องสิงคโปร์ลุงดำ ซึ่งตอนนี้แก่มากแล้ว ภรรยาและลูกมาขายแทน ก็ถือว่ายังไปไม่ถึงหัวหิน
ถ้ายังไม่ได้กินโจ๊กหรือกาแฟโบราณแกล้มปาท่องโก๋ร้านเจ๊กเปี๊ยะ ซึ่งคนแน่นทั้งวัน และยืนยันจะรักษาบรรยากาศเดิมๆของหัวหินโดยไม่ปรับปรุงร้านใหม่ ก็ถือว่ายังไม่ถึงหัวหิน ถ้ายังไม่ได้ทานไก่ทอด ขนมจีนนน้ำยาไก และเมนูไก่อีกสารพัดที่ร้านกรรณิการ์ ก็ถือว่ายังไม่ถึงหัวหิน ถ้ายังไม่ซื้อขนมร้านแม่เก็บ หรือข้าวเหนียวมะม่วงแม่เจือ ก็ยังไม่ถึงหัวหิน ฯลฯ มีอีกเยอะแยะ ที่ว่ามานี้ล้วนเป็นร้านเก่าแก่ ยังมีอีกหลายร้าน จะชิมให้หมดต้องอยู่หัวหินหลายวัน หรือไม่ก็ไปหลายครั้งจึงจะชิมได้ทั่ว
ส่วนสถานที่ใหม่ๆที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวมีอีกมาก คนที่มาหัวหินส่วนใหญ่รู้จัก ตั้งแต่ เพลินวาน ตลาดน้ำหัวหิน วัดห้วยมงคล ตลาดนัดซิเคด้า ซานโตรินี่ ซึ่งแต่ละที่ก็จะมีลักษณะเด่นแตกต่างกันไป บางที่ไปครั้งเดียวไม่ไปซ้ำสอง แต่บางที่ไปแล้วอยากไปอีกไม่เบื่ออย่างซิเคด้า
สำหรับผม หัวหินมีเสน่ห์ คิดถึงและอยากไป ที่สำคัญกว่านั้น หัวหินพิเศษ เพราะหัวหินมีวังไกลกังวล มีบ้านของพระเจ้าอยู่หัว มีบ้านของพ่อของคนไทย เป็นบ้านที่พระองค์ท่านทรงมีความสุข ไกลจากความกังวลทั้งมวล
ภาพข่าวพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ได้เสด็จแปรพระราชฐานจากโรงพยาบาลศิริราช ไปยังวังไกลกังวลเมื่อวันที่ 1 สิงหาคมที่ผ่านมา ทำให้ผมคิดถึงพระองค์ท่านคงจะมีความสุขเมื่อได้เสด็จกลับบ้าน
บ้านที่ชื่อไกลกังวล ชื่อที่มีความหมายยิ่ง บ้านที่อยู่ไกลจากความกังวลใดๆ อยู่ห่างจากกรุงเทพฯราวสองร้อยกว่ากิโลเมตร เดินทางด้วยรถยนต์ใช้เวลาสองชั่วโมงเศษๆ
หัวหินมีเสน่ห์ มีความเป็นมาทางประวัติศาสตร์ มีอดีตที่น่าค้นหา เป็นเมืองชายทะเลที่นับว่ายังสะอาด ไม่อึกทึกเท่าหาดพัทยาหรือบางแสน เป็นอำเภอเล็กๆ มีเอกลักษณ์พิเศษ ตั้งอยู่ริมหาดทรายชายทะเลฝั่งอ่าวไทย ยาวเหยียดต่อจากหาดชะอำ ไปถึงหาดปราณบุรี และประจวบคีรีขันธ์
วังไกลกังวล เป็นวังส่วนพระองค์ที่พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.2469 เพื่อพระราชทานแด่สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี โดยพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์จากพระคลังข้างที่ ตั้งอยู่ที่ชายทะเล อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ อยู่ห่างจากหาดหัวหินไปทางทิศเหนือประมาณ 3 กิโลเมตร โดยมีหม่อมเจ้าอิทธิเทพสรรค์ กฤดากร เป็นสถาปนิกผู้ออกแบบและควบคุมการก่อสร้าง ประกอบด้วย พระตำหนักเปี่ยมสุข ปลุกเกษม เอิบเปรม เอมปรีย์
ในรัชกาลที่ 7 ทรงออกพระนามเรียกวังแห่งนี้ว่า สวนไกลกังวล และในตราสัญลักษณ์ของวังเมื่อ พ.ศ. 2472 ได้ออกนามว่า พระราชวังไกลกังวล อย่างไรก็ตาม เนื่องจากไม่ปรากฏหลักฐานว่ามีพระบรมราชโองการประกาศยกเป็นพระราชวัง ดังนั้น จึงยังคงเรียกว่า วังไกลกังวล ในพระราชนิพนธ์เรื่องทองแดง ก็ทรงเรียกว่า วังไกลกังวล
ปัจจุบันเป็นที่ประทับแปรพระราชฐานฤดูร้อนของ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และสมเด็จพระนางเจ้าฯ เป็นที่ทราบกันดีว่าทั้งสองพระองค์โปรดประทับที่นี่เป็นพิเศษ และมักประทับต่อเนื่องเป็นเวลานาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ถ้าขึ้นไปดูวิวหัวหินบนเขาหินเหล็กไฟ จะเห็นภาพมุมกว้าง ตรงหน้าจะเป็นสนามกอล์ฟรถไฟ ซึ่งมีมานานเป็นสนามกอล์ฟแรกๆของเมืองไทย ถัดไปเป็นสถานีรถไฟที่สวยงาม ใครมาไม่ถึงสถานีรถไฟ ก็ถือว่ายังมาไม่ถึงหัวหิน ริมหาดก็เป็นที่ตั้งของโรงแรมรถไฟที่สร้างมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 7 มีสถาปัตยกรรมงดงามที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้ ปัจจุบันคือโรงแรมโซฟิเทลหัวหิน
จากจุดชมวิวเขาหินเหล็กไฟ จะเห็นวังไกลกังวลทางขวามือ ริมหาดตลอดแนวเดิมเป็นที่ประทับตากอากาศของเจ้านายหลายพระองค์ ตัวอย่างเช่น กรมพระยาดำรงราชานุภาพ และขุนนางตระกูลหลายตระกูล เช่น บ้านพิชัยญาติ ซึ่งยังคงรักษาตัวบ้านเดิมเอาไว้ ถ้าใครมีเวลา สามารถเดินริมหาดที่สามารถขับรถมาตามถนนแนบเคหาสน์ แล้วเลี้ยวเข้าซอยซึ่งมีทางลงทะเลได้หลายซอย เพื่อชมบ้านพักของตระกูลต่างๆ
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวโปรดกีฬาเรือใบ คนไทยได้เห็นภาพพระองค์ทรงเรือใบที่นี่ บางครั้งก็ทรงล่องเรือใบไปที่วัดเขาเต่า ซึ่งอยู่ทางใต้ของฝั่งทะลหัวหินต่อจากหาดเขาตะเกียบ ที่นี่เองชาวบ้านยังจดจำเล่าขานการทรงเรือใบของพระองค์ท่านทำให้ได้ทราบถึงความเดือดร้อนของชาวบ้านที่ขาดแคลนน้ำ และก่อให้เกิดโครงการอ่างเก็บน้ำเขาเต่า อันเป็นโครงการเนื่องมาจากพระราชดำริแห่งแรก ในหลวงทรงมอบทรัพย์ส่วนพระองค์ จำนวน 60,000 บาทให้กรมชลประทาน ก่อสร้างอ่างเก็บน้ำเขาเต่า
สมเด็จพระนางเจ้าฯยังโปรดให้ฟื้นฟูการทอผ้าเพื่อให้ชาวบ้านมีอาชีพเสริม ผ้าทอที่เขาเต่าโดยเฉพาะอย่างยิ่งผ้าขาวม้ามีคุณภาพมีชื่อเสียงมาถึงทุกวันนี้ หาดทรายที่วัดเขาเต่าสวยสะอาดแถมมีคุณสมบัติพิเศษในการรักษาโรคด้วย ใครไปหัวหินแล้วยังไม่เคยไปวัดเขาเต่า ลองไปดูสักครั้งซิครับ ยังมีโครงการพระราชดำริอีกมากมายในหัวหิน ประจวบคีรีขันธ์ และเพชรบุรี
สำหรับชาวบ้านที่นี่ หัวหินเป็นเหมือนบ้านอีกหลังหนึ่งของพ่อหลวง เป็นที่ ที่ในหลวงโปรด ได้มาพักผ่อน ผ่อนคลาย จากสิ่งต่างๆ ไกลจากความกังวลใดๆอย่างแท้จริง ห่างจากความวุ่นวายของกรุงเทพ ฯ เมื่อในหลวงเสด็จจากโรงพยาบาลศิริราช มาประทับที่หัวหิน ก็คงไม่ต้องแปลกใจแล้วละครับว่าทำไมคนหัวหินถึงดีใจและรักในหลวงมากๆ
หัวหินยังเป็นถิ่นของอร่อยระดับตำนานอีกมาก เจ้าถิ่นที่หัวหินจะบอกเล่าว่า ถ้ายังไม่ได้เดินเล่นซื้อของกินของอร่อยอย่าง กะหล่อจี๊ หรือไอศครีมเจ๊นิ โรตี ขนมน้ำแข็งใส ก็ถือว่า ยังไปไม่ถึงหัวหิน ถ้ายังไม่ได้ชิมอาหารร้านเก่าแก่อย่างร้านโกธิ ที่แสนอร่อยทุกเมนู ก็ยังไม่ถึงหัวหิน ถ้ายังไม่ได้กินลอดช่องสิงคโปร์ลุงดำ ซึ่งตอนนี้แก่มากแล้ว ภรรยาและลูกมาขายแทน ก็ถือว่ายังไปไม่ถึงหัวหิน
ถ้ายังไม่ได้กินโจ๊กหรือกาแฟโบราณแกล้มปาท่องโก๋ร้านเจ๊กเปี๊ยะ ซึ่งคนแน่นทั้งวัน และยืนยันจะรักษาบรรยากาศเดิมๆของหัวหินโดยไม่ปรับปรุงร้านใหม่ ก็ถือว่ายังไม่ถึงหัวหิน ถ้ายังไม่ได้ทานไก่ทอด ขนมจีนนน้ำยาไก และเมนูไก่อีกสารพัดที่ร้านกรรณิการ์ ก็ถือว่ายังไม่ถึงหัวหิน ถ้ายังไม่ซื้อขนมร้านแม่เก็บ หรือข้าวเหนียวมะม่วงแม่เจือ ก็ยังไม่ถึงหัวหิน ฯลฯ มีอีกเยอะแยะ ที่ว่ามานี้ล้วนเป็นร้านเก่าแก่ ยังมีอีกหลายร้าน จะชิมให้หมดต้องอยู่หัวหินหลายวัน หรือไม่ก็ไปหลายครั้งจึงจะชิมได้ทั่ว
ส่วนสถานที่ใหม่ๆที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวมีอีกมาก คนที่มาหัวหินส่วนใหญ่รู้จัก ตั้งแต่ เพลินวาน ตลาดน้ำหัวหิน วัดห้วยมงคล ตลาดนัดซิเคด้า ซานโตรินี่ ซึ่งแต่ละที่ก็จะมีลักษณะเด่นแตกต่างกันไป บางที่ไปครั้งเดียวไม่ไปซ้ำสอง แต่บางที่ไปแล้วอยากไปอีกไม่เบื่ออย่างซิเคด้า
สำหรับผม หัวหินมีเสน่ห์ คิดถึงและอยากไป ที่สำคัญกว่านั้น หัวหินพิเศษ เพราะหัวหินมีวังไกลกังวล มีบ้านของพระเจ้าอยู่หัว มีบ้านของพ่อของคนไทย เป็นบ้านที่พระองค์ท่านทรงมีความสุข ไกลจากความกังวลทั้งมวล