หลายวันมานี้กระแสการใช้เฟซบุ๊ก ในการแสดงความคิดเห็นทางการเมือง ทวีความรุนแรงขึ้นมามาก ส่วนหนึ่งคงเป็นเพราะการรณรงค์ให้ชาวเน็ตช่วยกันเปลี่ยนภาพโปรไฟล์ (รูปประจำตัว) ในเฟซบุ๊กให้เป็นรูปหน้ากาก กาย ฟอคส์ (Guy Fawkes) หรือที่เรานิยมเรียกกันว่า “หน้ากากวี”
เอาละครับก่อนจะไปเรื่องอื่นผมขอนำเรื่องราวของ กาย ฟอคส์ และวี หรือ วี ฟอร์ เวนเดทต้า มาเล่าสู่กันฟังก่อนนะครับ
เรื่องนี้มีที่มาที่ไป จากเหตุการณ์ทางการเมืองในอังกฤษเมื่อปีค.ศ.1605 ที่เรียกว่า “กบฏดินปืน” เป็นแผนการลอบสังหารพระเจ้าเจมส์ที่ 1 (King James I) กษัตริย์อังกฤษซึ่งนับถือศาสนาคริสต์นิกายโปรเตสแตนต์ ทรงปกครองบ้านเมืองบริหารราชการตามอำเภอใจ จนเกิดความระส่ำระสาย เกิดกบฏต่อต้าน และมีการจำคุกผู้คนเป็นจำนวนมาก คนวางแผนคือกาย ฟอคส์ (Guy Fawkes) และผู้นับถือนิกายโรมันคาทอลิกจำนวน 13 คน ร่วมกัน เคลื่อนไหวต่อสู้ให้ชาวอังกฤษที่นับถือศาสนาคริสต์นิกายคาทอลิกมีเสรีภาพมาก
แผนการของกาย ฟอคส์คือการวางระเบิดรัฐสภาของอังกฤษพร้อมพระเจ้าเจมส์ที่ 1 ที่จะเสด็จมาประชุมในวันที่ 5 พฤศจิกายน 1605 เพื่อเป็นการโหมโรงให้เกิดความวุ่นวายในมิดแลนด์ กาย ฟอคส์เป็นผู้รับผิดชอบเรื่องดินปืนและมีประสบการณ์ทางการทหาร แต่แผนการล้มล้างรัฐบาลไม่เป็นผล เพราะแผนรั่วไหลเสียก่อน
วันที่ 26 ตุลาคม กาย ฟอคส์ถูกจับตัวในอุโมงค์ที่อยู่ใต้อาคารรัฐสภาพร้อมกับดินปืนถึง 36 ถัง เขาและผู้ร่วมขบวนการถูกจับถูกทรมานฉีกแขนขา บังคับให้บอกชื่อสมาชิกในกลุ่มทั้งหมด กาย ฟอคส์และพวกถูกประหารแขวนคอในวันที่ 30 มกราคม 1606
แม้ว่ากาย ฟอคส์ จะตายไปนานแล้ว แต่ชื่อของเขายังคงอยู่ ในฐานะบุคคลที่ชาวอังกฤษรู้จักกันดี ทุกวันที่ 5 พฤศจิกายนของทุกปี จะมีงานฉลองเกี่ยวกับเขา ด้วยการเผารูปสัญลักษณ์ที่ทำจากฟางหรือเศษวัสดุเป็นรูปกาย ฟอคส์ เพี่อเป็นการระลึกถึงเขาและวางแผนการคบคิดระเบิดรัฐสภาอังกฤษ แต่ไม่สำเร็จ
คนรุ่นหลังได้เห็นหน้าของเขาปรากฏขึ้นอีกครั้งในหนังสือการ์ตูน แนวเสียดสีการเมือง อย่าง วี ฟอร์เวนเดทต้า เขียน โดย อลัน มอร์ (Alan More) และวาดภาพโดย เดวิด ลอยด์ (David Lloyd) ตีพิมพ์ครั้งแรกยังเป็นหนังสือการ์ตูนขาวดำ ระหว่างปี 1982 – 1985
ต่อมาในปี 2005 วี ฟอร์เวนเดทต้าก็ถูกนำมาสร้างมาเป็นภาพยนตร์ แปลชื่อเรื่องเป็นไทยว่า เพชฌฆาตหน้ากากพญายม นำแสดงโดย นาตาลี พอร์ตแมน (Natalie Portman) และ ฮูโก้ แวฟวิ่ง (Hugo Weaving) ผู้รับบทวี ในเรื่องคุณจะไม่เห็นหน้าเขาเลยเพราะเขาใส่หน้ากากทั้งเรื่อง แต่ถ้าคุณอยากเห็นหน้าเขาแล้วละก็ถาม อากู๋ กูเกิ้ลได้ครับ สำหรับคอหนัง ผมว่าชายคนนี้คือกษัตริย์เผ่าเอลฟ์ ในหนังเดอะ ลอร์ด ออฟ เดอะ ริง นั่นเองละครับ
จะเข้าใจสัญลักษณ์หน้ากากวี ที่ถูกนำมาใช้เสียดสีทางการเมือง V หมายถึงชัยชนะ มาจากคำว่า Victory ลองหาเวลาดูภาพยนตร์เรื่องนี้ แม้จะเป็นหนังเก่า แต่สามารถหาแผ่นได้ไม่ยากครับ อ่านเรื่องย่อก่อนไปหาหนังมาดูกันนะครับ
ภาพยนตร์เรื่อง V for Vendetta เดินเรื่องท่ามกลางภูมิทัศน์แห่งอนาคตของอังกฤษที่ปกครองด้วยระบบเผด็จการ บอกเล่าถึงเรื่องราวของหญิงสาวชนชั้นกรรมาชีพที่มีนามว่าอีวี่ย์ ซึ่งได้รับการช่วยชีวิตจากสถานการณ์ความเป็นความตายโดยชายในหน้ากาก ที่รู้จักกันเพียงในนาม “วี”
วีเป็นบุรุษที่มีความซับซ้อน และเต็มไปด้วยเสน่ห์ เป็นผู้รู้ มีความร่าเริงหรูหราอ่อนโยนและฉลาดเป็นกรด เป็นผู้ชายที่มอบชีวิตไว้กับการปลดปล่อยประชาชนร่วมชาติจากพวกที่กดขี่โหดร้ายและคอรัปชั่นโกงกิน เขาเคลื่อนไหวเชิญชวนผู้คนให้ร่วมมือกับเขาภายใต้เงาของอาคารรัฐสภาในวันที่ 5 พฤศจิกายน ซึ่งเป็นวันกาย ฟอกส์เดย์ เขาเป็นคนที่ขมขื่น แสวงหาการแก้แค้น เดียวดายและรุนแรงซึ่งมาจากแรงผลักดันของความอาฆาตส่วนตัว
เพื่อเป็นการระลึกถึงการกบฏของพวกเขาและเหตุการณ์ในวันนั้น วีได้สาบานที่จะสานต่อแผนการที่ฟอคส์ถูกประหาร นั่นคือการระเบิดอาคารรัฐสภา
เมื่ออีวี่ย์ได้ค้นพบความจริงเกี่ยวกับภูมิหลังที่ลึกลับของวี เธอยังได้พบความจริงเกี่ยวกับตนเอง และกลายมาเป็นสหายที่ดูไม่น่าจะเป็นไปได้ของเขา ด้วยการร่วมมือในแผนการดังกล่าว เพื่อนำอิสรภาพและความยุติธรรม มาสู่สังคมที่ถูกครอบงำไปด้วยความโหดเหี้ยมและคอรัปชั่น
รู้จักกาย ฟอคส์ รู้จักวีกันมาแล้ว ผมก็ขอแสดงความคิดเห็นเรื่องนี้สักหน่อยนะครับ ผมเองชอบภาพยนตร์เรื่องนี้มาก เชื่อว่าหลายคนคงชอบเหมือนกัน สัญลักษณ์หน้ากากวี มีความหมายถึง การต่อสู้เพื่ออิสรภาพ เสรีภาพของประชาชน การต่อสู้กับการปกครองเผด็จการ ทรราชย์ที่กดขี่ประชาชน การคอรัปชั่นโกงกิน การนำสัญลักษณ์ทางการเมืองนี้มาใช้ในโลกไซเบอร์เพื่อเสียดสีการเมือง ต่อต้านระบบทักษิณ ก็คงทำได้อย่างมาก แค่ทำให้เกิดอาการแสบๆคันๆ เท่านั้น สำหรับนักการเมืองหน้าด้านบ้านเรา
แต่ยังไงก็ขอให้กำลังใจทุกคนที่ช่วยกันพยายามทำให้นักการเมืองเลวๆรู้ว่า ประชาชนที่มีสำนึกรักชาติบ้านเมือง ตื่นรู้ ไม่ยอมสยบนิ่งมีอยู่จำนวนมาก และจะเพิ่มมากขึ้นทุกวัน อย่าได้ดูถูกดูเบาประชาชนเป็นอันขาด