xs
xsm
sm
md
lg

ดูหนังฮ่องกง Cold War คิดถึงตำรวจไทยซะงั้น...

เผยแพร่:   โดย: ยุรชัฏ ชาติสุทธิชัย


สัปดาห์นี้ขอกลับมาเขียนเกี่ยวกับภาพยนตร์ฮ่องกงเรื่องหนึ่งซึ่งได้รับคำวิจารณ์จากหลายๆคนในแง่ดีถึงดีมาก จนทำให้ผมต้องหามาดู ทั้งที่ต้องยอมรับเลยว่าตัวเองไม่ใช่คอหนังฮ่องกงเลยแม้แต่น้อย

แต่อย่างที่บอกว่าเสียงวิจารณ์จากหลายๆคนมันเข้าหูมาไม่ขาดสาย ซึ่งต้องขอบคุณไปยังพี่ชายของผมสองคนแห่งช่องซุปเปอร์บันเทิง ทั้งพี่จีนและพี่ต่อ ที่วิจารณ์หนังเรื่องนี้ลงเฟซบุ๊กซะจนผมอยากดู

นึกขึ้นได้ว่าดูเหมือนคุณพ่อจะซื้อหนังเรื่องนี้มาวางไว้แล้ว แต่ยังไม่มีโอกาสได้ดู ผมขอหยิบมาดูเสียก่อน แต่เนื่องจากมันเป็นวีซีดีทำให้อดฟังซาวด์จากหนัง ผมต้องพบปัญหาที่ทำให้เสียอรรถรสการรับชมเล็กน้อย เวลาตัวละคร แต่ละตัวปรากฏตัวขึ้นม าการบอกตำแหน่งและหน้าที่ซึ่งเป็นภาษาจีนนั้นทีมพากย์ไม่ได้บอกให้เรารู้เลย หรือการที่กล้องโคลสอัพไปที่ตัวหนังสือภาษาจีน ถ้าคนไม่มีความรู้ด้านภาษาจีนแบบผม ดูแล้วจะไม่ทราบเลยว่าข้อความดังกล่าวจะสื่อหรือบอกอะไร

หนังเรื่องที่กำลังพูดถึงมีชื่อว่า Cold War แปลตามตัวว่าสงครามเย็น แต่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับสงครามเย็นที่เกิดขึ้นหลังสงครามโลกครั้งที่สอง แล้วโลกแบ่งเป็นสองค่ายภายใต้สองอภิมหาอำนาจ คือสหรัฐอเมริกา ยักษ์ใหญ่ค่ายโลกเสรี กับสหภาพโซเวียตผู้นำค่ายคอมมิวนิสต์หรอกครับ

หนังเรื่องCold War นี้ ใช้ชื่อเรื่องภาษาไทยว่า “2 คมล่าถล่มเมือง” ซึ่งหมายถึงการหักเหลี่ยมกันของสองนายตำรวจใหญ่ ก่อนจะไปเรื่องอื่นๆ เกี่ยวกับหนัง ผมก็ขอหยิบเรื่องย่อมาให้อ่านกันเสียก่อน

ฮ่องกง เมืองที่ปลอดภัยที่สุดในเอเชีย เมืองการค้าระดับโลกที่ตำรวจเป็นใหญ่และไม่มีใครกล้าแตะต้อง แต่แล้วในกลางดึกคืนหนึ่ง มีโทรศัพท์ลึกลับโทรเข้ามายังสำนักงานตำรวจฮ่องกง แจ้งเบาะแสว่ารถตู้ขนอาวุธที่นำสมัยที่สุดของกรมตำรวจและเจ้าหน้าที่ระดับสูง 5 นาย ได้หายไปจากระบบติดตาม

โจรที่ปฏิบัติการในครั้งนี้ ล่วงรู้ระบบการทำงานของตำรวจเป็นอย่างดี และยังรู้เท่าทันการทำงานของตำรวจ แถมล้ำหน้าไปหนึ่งขั้นตลอดเวลา ตำรวจจะต้องทำตามข้อเรียกร้องที่พวกมันกำหนดขึ้น รวมทั้งเงินค่าไถ่จำนวนมหาศาล เพื่อแลกกับการปล่อยตัวประกัน ทุกๆ เสี้ยววินาทีหมายถึงชีวิตของตัวประกัน เวลาเริ่มนับถอยหลังแล้ว หนังเริ่มเปิดเรื่องได้ชวนติดตามทีเดียวครับ

รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติฝ่ายบริหาร หลิว ฉีฮวย และรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติฝ่ายปฏิบัติการ หลี่ เหวินปิง ต่างแย่งชิงกันทำคดี คดีนี้ถูกตั้งรหัสภารกิจว่า Cold War "โคลด์ วอร์" ที่แปลว่า สงครามเย็นนั่นแหละครับ

หลิวต้องการต่อรองกับโจร ในขณะเดียวกันก็พยายามที่จะตามแกะรอยไปให้ถึงแหล่งที่ซ่อนของพวกมัน แต่ในขณะที่ หลี่พร้อมจู่โจมอย่างบ้าระห่ำไม่สนว่าจะต้องสูญเสียอะไรบ้าง สำหรับพวกเขาแล้วมันไม่ใช่แค่การเดิมพันชีวิตของตัวประกันหรือภาพลักษณ์ของกรมตำรวจ แต่มันหมายถึงอำนาจ เนื่องจากตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติกำลังจะว่างลงในไม่ช้านี้

ภารกิจโคลด์ วอร์ จึงเปรียบเสมือนบันไดที่พวกเขาต้องแย่งชิงเพื่อชัยชนะและให้ได้มาซึ่ง ก่อนที่ทั้งหมดจะถูกตั้งข้อสงสัยจากสำนักงานปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ว่าเป็นการคอร์รัปชั่นหรือไม่ ทั้งหมดเป็นแผนการของตำรวจในกรมด้วยกันเองนั่นแหละ

จากการดูหนังเรื่องนี้ ช่วงแรกๆ นั้นอาจจะดูงงๆนิดหน่อยเพราะการตัดต่อแบบปุ๊บปั๊บ ทั้งคนและสถานที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ถ้าเผลอลุกจากเก้าอี้ไปหาป๊อปคอร์นกินแกล้มหนัง มีสิทธิ์ที่คุณจะดูแล้วงง หรือปะติดปะต่อเรื่องไม่ได้

การหักเหลี่ยมกันของสองตัวรวจใหญ่ ที่พยามจะเอาดึงคดีนี้มาอยู่ในมือ มันทำให้เรานึกถึงการแย่งชิงอำนาจของนักการเมือง ที่ทำทุกวิถีทางเพื่อให้ตัวเองมีอำนาจอยู่ในมือ พูดง่ายๆก็คือมีการเมืองอยู่ในทุกวงการ รวมถึงวงการตำรวจ และมีการแก่งแย่งกันทุกที่ ไม่ใช่แค่ที่เมืองไทยที่เป็นแบบนี้

เมื่อดูหนังเรื่องนี้คุณจะเห็นวิธีการล็อบบี้หักเหลี่ยมกันเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจ รวมทั้งการอ้างเหตุผลในการปฎิบัติงาน เช่น การอ้างอำนาจจากตำแหน่ง การอ้างกฎหมายกฎระเบียบ และ การอ้างความมั่นคงและความปลอดภัยของประชาชน

เรายังได้เห็นตัวรวจที่กร่างไปทั่ว อันนี้เมืองไทยเราหนักข้อมานานแล้ว ยิ่งในช่วงสำแดงความเป็นรัฐตำรวจ ใช้อำนาจเหนือประชาชน ดูไปแล้วนิสัยสันดานด้านมืดของตำรวจเลวๆทั้งโลกจะเหมือนๆกัน ความกร่าง ความผยอง และลุแก่อำนาจเกิดขึ้นได้เสมอ หากคุณเป็นผู้มีอำนาจ มีกฎหมาย มีปืนอยู่ในมือ และใช้อำนาจอย่างเหิมเกริมไม่ระมัดระวัง

อีกสิ่งหนึ่งที่ผมดูแล้วชอบมากในเรื่องนี้ คือการทำงานของ ป.ป.ช. ในรื่อง ที่ทำงานกันไวมาก ไวกว่าบ้านเราเรียกได้ว่าทิ้งขาดเลยละครับถ้าเป็นการวิ่งแข่ง เพราะ ป.ป.ช. ในเรื่องแค่มีเรื่องร้องเรียนเข้ามาก็เริ่มการสอบสวน มีการบุกเข้าไปสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และเชิญ รอง ผบ.ตร. มาให้ปากคำทันที

ความจริงจังของเจ้าหน้าที่หนุ่มไฟแรงฉลาดอย่างในหนังเรื่องนี้อาจเห็นได้ในบางประเทศ แต่คงจะยากในประเทศไทย ไม่งั้นเราคงเห็นข้าราชการที่ทุจริตนักการเมืองคอรัปชั่นได้เข้าไปนอนคุกกันไปหลายคนแล้ว

หนังเรื่องนี้จะค่อยๆคลายปมออกมาเองรับรองครับดูแล้วไม่งง และเนื่องจากหนังออกจากโรงมาเป็นแผ่นแล้ว ถ้าอยากดูให้เข้าใจ ต้องตั้งใจดูพอสมควรเลยละครับ

ดูแล้วคิดถึงตำรวจไทยพิลึก ข่าวเกี่ยวกับนายตำรวจตำแหน่งสูงๆที่เราได้เห็นได้ฟังจากสื่อมวลชน ผมว่าเบื้องหน้าเบื้องหลังการเมือง การหักเหลี่ยมหักมุมวิ่งเต้นล็อบบี้ใช้เงินก้อนโตซื้อขายตำแหน่งกัน เพื่อให้ได้อำนาจ คงจะดุเดือดเฉือนคมกันไม่แพ้ในหนังเรื่องนี้ ดูหนังเรื่องนี้แล้วไม่เสียหลาย ทำให้ผมรู้สึกดีกับหนังฮ่องกงมากเลยทีเดียว อีกหน่อยคงตามดูหนังฮ่องกงมากขึ้น

กำลังโหลดความคิดเห็น