ก่อนรู้ผลเลือกตั้งมีการเตรียมพร้อมการเลือกตั้งโดยผู้บริหารการเลือกตั้งได้ลงพื้นที่เตรียมการเลือกตั้ง พร้อมมอบนโยบายให้กับกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งเพื่อเตรียมความพร้อม และชี้ว่าภาพรวมมีความพร้อมเป็นอย่างมากเชื่อว่าการเลือกตั้งจะเป็นไปด้วยความเรียบร้อยไม่มีปัญหาอะไร ขอให้เจ้าหน้าที่ยึดหลักกฎหมายและอำนาจหน้าที่ของตัวเองให้มากต้องจัดการเลือกตั้งให้มีความเป็นกลาง สุจริตโปร่งใสและสามารถตรวจสอบได้
นายประพันธ์ นัยโกวิท กกต.ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง กล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ถือว่ามีการแข่งขันสูงมากดูได้จากการหาเสียงผ่านสื่อต่างๆ ซึ่งเรื่องนี้ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีจะทำให้ประชาชนตื่นตัวและออกมาใช้สิทธิกันมากขึ้นเชื่อว่าจะลงคะแนนเสียงเกินกว่าร้อยละ 60 อย่างแน่นอน อยากให้ประชาชนออกมาลงคะแนนเสียงเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ให้มากที่สุด
นายประพันธ์ยังให้สัมภาษณ์กรณีที่พบรายชื่อตำรวจในภาคอีสานจำนวนมากมีรายชื่อเป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ว่ากรณีนี้ต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าเกิดจากอะไร อาจจะเป็นความผิดพลาดของงานทะเบียนก็ได้ ต้องมอบหมายให้กรมการปกครองไปตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป อย่างไรก็ตาม หากเจ้าบ้านพบว่ามีรายชื่อแปลกปลอมเข้ามาอยู่ในทะเบียนบ้านสามารถแจ้งกรรมการประจำหน่วยให้ตรวจสอบถอนชื่อพร้อมบันทึกเป็นหลักฐานไว้ได้ สำหรับเรื่องร้องเรียนมีทั้งหมด 13 เรื่องที่ร้องมายัง กกต.กทม.แต่รับไว้เป็นคำร้องเพียง 1 เรื่อง คือ คำร้องเกี่ยวกับการทำโพลชี้นำของสวนดุสิตโพล
ที่กองบังคับการตำรวจสันติบาล ถนนเศรษฐศิริ พล.ต.ต.อัตชัย ดวงอัมพร รองผบช.ส.เป็นผู้ทำพิธีปล่อยแถวตำรวจสันติบาลที่มีความรับผิดชอบในเขต กทม.จำนวน 200 นายเพื่อกวดขันป้องปรามการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง พล.ต.ต.อัตชัย กล่าวว่ากทม.ทั้งหมดมี 50 เขต แต่มี 18 เขตที่มีการแข่งขันสูงแบ่งเป็นเป้าหมายหลัก 7 เขตเป้าหมายรอง 11 เขต ส่วนใหญ่เป็นเขตชานเมือง เช่น เขตบางเขนมีข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลที่มีพฤติกรรมกระทำผิดเลือกตั้งในรูปแบบสัญญาว่าจะให้สิ่งตอบแทนหลังได้รับเลือกตั้ง ส่วนมูลเหตุที่ทำให้มีการแข่งขันสูงเพราะการเลือกตั้งครั้งนี้จะมีผลกับการเมืองในอนาคต
นายสิงห์ สิงห์ขจร ประธานคณะกรรมการศูนย์สำรวจความคิดเห็นบ้านสมเด็จโพลเปิดเผยว่า โทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจฯ ร่วมกับมหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา และมหาวิทยาลัยเนชั่นจะสำรวจความคิดเห็นประชาชนหลังใช้สิทธิเลือกตั้งหรือเอ็กซิทโพลใช้อาสาสมัคร 500 คนกระจายไปทั้งหมด 50 เขตๆ ละ 10 คน และกระจายไปยังหน่วยเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งนั้นๆ อาสาสมัคร 1 คนจะเก็บข้อมูลจากผู้ใช้สิทธิเลือกตั้ง 40 คนทำให้ใน 1 เขตจะได้ข้อมูล 400 ตัวอย่าง เมื่อรวม 50 เขตจะได้ข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่าง 20,000 ตัวอย่างประมาณ 0.5 เปอร์เซ็นต์ของผู้มีสิทธิเลือกตั้งเพื่อให้เกิดความแม่นยำมากที่สุด ทั้งนี้จะเก็บข้อมูลจากผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งแล้วเท่านั้นและจะเผยแพร่ผลหลังปิดหีบเลือกตั้งเวลา 15.00 น. ผ่านทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจฯ 3, 5, 7, 9, 11 ไทยพีบีเอส, เนชั่น,ทีเอ็นเอ็น
สำหรับอาสาสมัครจะสวมเสื้อยืดสีขาวมีเครื่องหมายโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจฯ และป้ายแสดงตนคล้องคอ จึงขอความร่วมมือจากประชาชนในการทำแบบสำรวจครั้งนี้ด้วย ส่วนผลการนับคะแนนหลังการปิดหีบในช่วงแรก เมื่อมีการนับคะแนนไปได้ร้อยละ 30 ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ได้คะแนน 384,495 คะแนนพล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญได้ 336,383 คะแนนพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวสได้ 50,350 คะแนน ปัจจัยที่เป็นตัวแปรคือฝนที่ตกลงมาหลังเปิดหีบในช่วงก่อนเที่ยง เป็นต้นมา
ส่วนเอ็กซิทโพลนั้นปรากฏว่าสองเอ็กซิทโพลของเอแบคและสวนดุสิตต่างให้ผู้ชนะเป็นพงศพัศ พงษ์เจริญ ขณะที่การนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร กลับนำมาตลอด และขยับขึ้นมาเป็น 4 แสนกว่า ขณะที่พล.ต.อ.พงศพัศยังคงได้ไม่ถึง 4 แสนชนะกันถึง 3-4 หมื่นคะแนนหลังจากนับไปได้ร้อยละ 41 จากทุกหน่วย
หลังจากเวลา 18.20 น. มร.ว.สุขุมพันธุ์ แถลงขอบคุณพี่น้องชาว กทม.ที่ให้คะแนนเสียงท่วมท้นเกิน 1 ล้านคะแนน และขอบคุณนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และคณะผู้บริหารพรรคที่ร่วมกันหาเสียงและขอบคุณนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมตรีที่สัญญาว่าพร้อมจะทำงานร่วมกับตนอย่างไร้รอยต่อ ตนสัญญาจะทุ่มเทการทำงานให้มากกว่าเดิมเพราะคนกรุงเทพฯ ให้พรรคประชาธิปัตย์ดูแลมา 12 ปีเป็นสิ่งที่ไม่เคยให้ใครมาก่อนตนจะไม่ลังเลจะเดินหน้าต่อทันทีเพื่อให้ 12 ปีเป็น 16ปี หลังกล่าวจบม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ได้จับมือนายอภิสิทธิ์และนายองอาจชูขึ้นเพื่อแสดงชัยชนะ
น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ในนามพรรคเพื่อไทยขอแสดงความยินดีกับม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ที่ได้รับความไว้วางใจจากประชาชน ขอขอบคุณทุกคะแนนเสียง 48 วันที่ลงพื้นที่ทำให้ได้รับทราบปัญหาประชาชนและได้รับกำลังใจ ตนและพรรคเพื่อไทยพร้อมทำงานให้คน กทม.ต่อไป และพร้อมทำงานกับผู้ว่าฯ กทม.อย่างไร้รอยต่ออย่างเต็มที่
ระหว่างอยู่ในพรรคเพื่อไทยเพื่อลุ้นคะแนนช่วงพล.ต.อ.พงศพัศได้คะแนนทะลุ 1 ล้านคะแนนจากที่ตั้งเป้าไว้ 9 แสนคะแนน นายกฯ รีบหันมาพูดกับพล.ต.อ.พงศพัศว่าแม้จะไม่ชนะเลือกตั้ง แต่ก็ชนะใจคนพรรคเพื่อไทยเพราะทำหน้าที่อย่างเต็มที่แล้ว
สำหรับผลการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์มีคะแนนมาเป็นอันดับ 1 ได้ 1,256,231 คะแนนพล.ต.อ.พงศพัศมาเป็นอันดับ 2 ได้ 1,077,899 คะแนนและพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์มาเป็นอันดับ 3 ได้ 166,582 คะแนนซึ่งถือว่าทั้งม.ร.ว.สุขุมพันธุ์และพล.ต.อ.พงศพัศทำลายสถิติคะแนนการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.เมื่อปี 2543 สมัยนายสมัคร สุนทรเวชที่ได้ 1,016,096 คะแนน
นายประพันธ์ นัยโกวิท กกต.ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง กล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ถือว่ามีการแข่งขันสูงมากดูได้จากการหาเสียงผ่านสื่อต่างๆ ซึ่งเรื่องนี้ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีจะทำให้ประชาชนตื่นตัวและออกมาใช้สิทธิกันมากขึ้นเชื่อว่าจะลงคะแนนเสียงเกินกว่าร้อยละ 60 อย่างแน่นอน อยากให้ประชาชนออกมาลงคะแนนเสียงเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ให้มากที่สุด
นายประพันธ์ยังให้สัมภาษณ์กรณีที่พบรายชื่อตำรวจในภาคอีสานจำนวนมากมีรายชื่อเป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ว่ากรณีนี้ต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าเกิดจากอะไร อาจจะเป็นความผิดพลาดของงานทะเบียนก็ได้ ต้องมอบหมายให้กรมการปกครองไปตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป อย่างไรก็ตาม หากเจ้าบ้านพบว่ามีรายชื่อแปลกปลอมเข้ามาอยู่ในทะเบียนบ้านสามารถแจ้งกรรมการประจำหน่วยให้ตรวจสอบถอนชื่อพร้อมบันทึกเป็นหลักฐานไว้ได้ สำหรับเรื่องร้องเรียนมีทั้งหมด 13 เรื่องที่ร้องมายัง กกต.กทม.แต่รับไว้เป็นคำร้องเพียง 1 เรื่อง คือ คำร้องเกี่ยวกับการทำโพลชี้นำของสวนดุสิตโพล
ที่กองบังคับการตำรวจสันติบาล ถนนเศรษฐศิริ พล.ต.ต.อัตชัย ดวงอัมพร รองผบช.ส.เป็นผู้ทำพิธีปล่อยแถวตำรวจสันติบาลที่มีความรับผิดชอบในเขต กทม.จำนวน 200 นายเพื่อกวดขันป้องปรามการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง พล.ต.ต.อัตชัย กล่าวว่ากทม.ทั้งหมดมี 50 เขต แต่มี 18 เขตที่มีการแข่งขันสูงแบ่งเป็นเป้าหมายหลัก 7 เขตเป้าหมายรอง 11 เขต ส่วนใหญ่เป็นเขตชานเมือง เช่น เขตบางเขนมีข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลที่มีพฤติกรรมกระทำผิดเลือกตั้งในรูปแบบสัญญาว่าจะให้สิ่งตอบแทนหลังได้รับเลือกตั้ง ส่วนมูลเหตุที่ทำให้มีการแข่งขันสูงเพราะการเลือกตั้งครั้งนี้จะมีผลกับการเมืองในอนาคต
นายสิงห์ สิงห์ขจร ประธานคณะกรรมการศูนย์สำรวจความคิดเห็นบ้านสมเด็จโพลเปิดเผยว่า โทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจฯ ร่วมกับมหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา และมหาวิทยาลัยเนชั่นจะสำรวจความคิดเห็นประชาชนหลังใช้สิทธิเลือกตั้งหรือเอ็กซิทโพลใช้อาสาสมัคร 500 คนกระจายไปทั้งหมด 50 เขตๆ ละ 10 คน และกระจายไปยังหน่วยเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งนั้นๆ อาสาสมัคร 1 คนจะเก็บข้อมูลจากผู้ใช้สิทธิเลือกตั้ง 40 คนทำให้ใน 1 เขตจะได้ข้อมูล 400 ตัวอย่าง เมื่อรวม 50 เขตจะได้ข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่าง 20,000 ตัวอย่างประมาณ 0.5 เปอร์เซ็นต์ของผู้มีสิทธิเลือกตั้งเพื่อให้เกิดความแม่นยำมากที่สุด ทั้งนี้จะเก็บข้อมูลจากผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งแล้วเท่านั้นและจะเผยแพร่ผลหลังปิดหีบเลือกตั้งเวลา 15.00 น. ผ่านทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจฯ 3, 5, 7, 9, 11 ไทยพีบีเอส, เนชั่น,ทีเอ็นเอ็น
สำหรับอาสาสมัครจะสวมเสื้อยืดสีขาวมีเครื่องหมายโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจฯ และป้ายแสดงตนคล้องคอ จึงขอความร่วมมือจากประชาชนในการทำแบบสำรวจครั้งนี้ด้วย ส่วนผลการนับคะแนนหลังการปิดหีบในช่วงแรก เมื่อมีการนับคะแนนไปได้ร้อยละ 30 ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ได้คะแนน 384,495 คะแนนพล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญได้ 336,383 คะแนนพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวสได้ 50,350 คะแนน ปัจจัยที่เป็นตัวแปรคือฝนที่ตกลงมาหลังเปิดหีบในช่วงก่อนเที่ยง เป็นต้นมา
ส่วนเอ็กซิทโพลนั้นปรากฏว่าสองเอ็กซิทโพลของเอแบคและสวนดุสิตต่างให้ผู้ชนะเป็นพงศพัศ พงษ์เจริญ ขณะที่การนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร กลับนำมาตลอด และขยับขึ้นมาเป็น 4 แสนกว่า ขณะที่พล.ต.อ.พงศพัศยังคงได้ไม่ถึง 4 แสนชนะกันถึง 3-4 หมื่นคะแนนหลังจากนับไปได้ร้อยละ 41 จากทุกหน่วย
หลังจากเวลา 18.20 น. มร.ว.สุขุมพันธุ์ แถลงขอบคุณพี่น้องชาว กทม.ที่ให้คะแนนเสียงท่วมท้นเกิน 1 ล้านคะแนน และขอบคุณนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และคณะผู้บริหารพรรคที่ร่วมกันหาเสียงและขอบคุณนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมตรีที่สัญญาว่าพร้อมจะทำงานร่วมกับตนอย่างไร้รอยต่อ ตนสัญญาจะทุ่มเทการทำงานให้มากกว่าเดิมเพราะคนกรุงเทพฯ ให้พรรคประชาธิปัตย์ดูแลมา 12 ปีเป็นสิ่งที่ไม่เคยให้ใครมาก่อนตนจะไม่ลังเลจะเดินหน้าต่อทันทีเพื่อให้ 12 ปีเป็น 16ปี หลังกล่าวจบม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ได้จับมือนายอภิสิทธิ์และนายองอาจชูขึ้นเพื่อแสดงชัยชนะ
น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ในนามพรรคเพื่อไทยขอแสดงความยินดีกับม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ที่ได้รับความไว้วางใจจากประชาชน ขอขอบคุณทุกคะแนนเสียง 48 วันที่ลงพื้นที่ทำให้ได้รับทราบปัญหาประชาชนและได้รับกำลังใจ ตนและพรรคเพื่อไทยพร้อมทำงานให้คน กทม.ต่อไป และพร้อมทำงานกับผู้ว่าฯ กทม.อย่างไร้รอยต่ออย่างเต็มที่
ระหว่างอยู่ในพรรคเพื่อไทยเพื่อลุ้นคะแนนช่วงพล.ต.อ.พงศพัศได้คะแนนทะลุ 1 ล้านคะแนนจากที่ตั้งเป้าไว้ 9 แสนคะแนน นายกฯ รีบหันมาพูดกับพล.ต.อ.พงศพัศว่าแม้จะไม่ชนะเลือกตั้ง แต่ก็ชนะใจคนพรรคเพื่อไทยเพราะทำหน้าที่อย่างเต็มที่แล้ว
สำหรับผลการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์มีคะแนนมาเป็นอันดับ 1 ได้ 1,256,231 คะแนนพล.ต.อ.พงศพัศมาเป็นอันดับ 2 ได้ 1,077,899 คะแนนและพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์มาเป็นอันดับ 3 ได้ 166,582 คะแนนซึ่งถือว่าทั้งม.ร.ว.สุขุมพันธุ์และพล.ต.อ.พงศพัศทำลายสถิติคะแนนการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.เมื่อปี 2543 สมัยนายสมัคร สุนทรเวชที่ได้ 1,016,096 คะแนน
