ผมคงจะเฉยมากหากไม่รู้จักไซ (Psy)นักร้องเกาหลี ผู้เป็นเจ้าของเพลงฮิตอย่างกังนัมสไตล์ ที่ดังไปทั่วโลก ถึงขั้นขึ้นชาร์ทอันดับหนึ่งบนบิลบอร์ดทุกๆ ที่เล่นเอาดังภายในไม่กี่เดือน วันนี้ขอเขียนถึงชายร่างอวบที่โด่งดังแห่งเกาหลีคนนี้สักหน่อย
ต้องบอกก่อนเลยครับว่า ถึงดนตรีจะมีเสียงจังหวะทำนองอรรถรสเป็นสากล แต่ผมไม่ชอบฟังเพลงเกาหลี อาจจะเพราะฟังไม่รู้เรื่อง แปลไม่ออก เข้าไม่ถึงเนื้อหา ไม่เหมือนเพลงสากลที่เป็นภาษาอังกฤษ ที่พอฟังได้เข้าใจได้
เรามารู้จักชายคนนี้กันก่อนแล้วกันนะครับ ต้องขอขอบคุณข้อมูลจากวิกิพิเดียด้วยนะครับสำหรับประวัติความเป็นมาของไซและเพลงกังนัมสไตล์
ไซ หรือชื่อจริงว่า ปาร์ค แจซัง ( Psy, Park Jae-Sang) เป็นแร็ปเปอร์และนักร้องเค-ป็อปชาวเกาหลี เกิดวันที่ 31 ธันวาคม ค.ศ. 1977 อายุอานามก็ผ่านเลยวัยรุ่นมานานแล้ว การศึกษานับว่าไม่เบา เขาจบการศึกษาด้านดนตรีจากมหาวิทยาลัยบอสตัน และวิทยาลัยดนตรีเบิร์กเลย์ สหรัฐอเมริกา
มีผลงานครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 2001 จากอัลบั้มชุด PSY from the PSYcho World! และชุดที่ 2 Sa2/Adult only แต่ถูกแบนเนื่องจากการโปรโมตที่ไม่เหมาะสมกับกลุ่มเยาวชน
ต่อมาในเดือนกันยายน ค.ศ. 2002 ไซได้มีผลงานทางโซเชียลมีเดีย ชื่อเพลง Champion เพลงนี้ได้ถูกนำไปใช้ในการแข่งขันฟุตบอลโลก ปีเดียวกัน ที่เกาหลีใต้และญี่ปุ่นเป็นเจ้าภาพร่วมกัน
จากนั้นในเดือนตุลาคม ค.ศ. 2010 หลังจากเงียบหายไปนานถึง 8 ปี ไซก็ได้ย้ายสังกัดไปเป็น YG Entertainment ในปี ค.ศ. 2012 ได้มีอัลบั้มชุดที่ 6 คือ PSY's Best 6th Part 1 ออกมา
ในปีเดียวกันนี้ ซิงเกิล Gangnam Style ได้สร้างปรากฏการณ์อย่างมาก ทั้งจังหวะดนตรี เนื้อหาของเพลง ที่หมายถึง วิถีชีวิตผู้คนในย่านกังนัมในกรุงโซล ที่ฟุ้งเฟ้อ รวมถึงท่าเต้นที่แปลก ๆ คล้าย ๆ การควบม้า มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เป็นที่ถูกอกถูกใจผู้คน จนจะได้รับความนิยมอย่างล้นหลามทั้งในสหรัฐอเมริกา และอีกหลาย ๆ ประเทศทั่วโลก
เฉพาะเว็บไซต์ยูทูบมีการคลิกดูเพลงนี้มากถึง 99 ล้านครั้ง และมีจำนวนผู้กดไลค์มากที่สุดถึง 2,234,180 ครั้ง (ในวันที่ 21 กันยายน ค.ศ. 2012) จนถูกบันทึกเป็นสถิติในหนังสือกินเนสส์ ถือเป็นปรากฏการณ์ครั้งสำคัญของวงการเพลงเกาหลี ที่ทำให้หลายคนที่ไม่ได้สนใจเพลงเกาหลี หันมาให้ความสนใจ
ทั้งที่ไซมีภาพลักษณ์ที่แตกต่างจากไปนักร้องเกาหลีคนอื่น ๆ คือ ไม่หล่อ ไม่มีเสน่ห์ดึงดูด แต่มีความตลกแทน มีศิลปินชาวตะวันตกหลายคนได้ชมเชย ไซซึ่งเป็นผู้ที่ออกแบบท่าเต้นเพลงนี้เอง ไม่ว่าจะเป็น จัสติน บีเบอร์, ร็อบบี้ วิลเลียมส์, เอ็มมิเน็ม และบริตนีย์ สเปียส์ เป็นต้น รวมถึงการแปลงเพลง หรือเลียนแบบตัดต่อเป็นคลิปต่าง ๆ ไปทั่ว
นอกจากนี้แล้ว Gangnam Style ยังคว้ารางวัลจากรายการ Music Bang และ M Countdown ติดต่อกันหลายสัปดาห์ ทำให้ได้รับเชิญเป็นแขกพิเศษร่วมงาน 2012 MTV Music Video Awards ที่สหรัฐอเมริกา เช่นเดียวกับที่ เรน นักร้องเกาหลีอีกคนที่ก่อนหน้านั้นเคยได้รับเชิญมาแล้ว
กังนัมสไตล์ ( Gangnam Style; คังนัมซือทาอิล) เป็นเพลงซิงเกิลของแรปเปอร์ ชาวเกาหลี PSY ในอัลบัม PSY 6 (Six Rules), Part 1 เริ่มออกอากาศครั้งแรกในเกาหลีใต้ในวันที่ 15 กรกฎาคม 2012 โดยไต่ชาร์ทเพลง Gaon Chart ได้ถึงอันดับ 1 ในการเปิดตัวครั้งแรก
หลังจากออกอากาศมาเป็นเวลากว่าสองเดือน ซิงเกิลขึ้นถึงอันดับ 1 ในหลายประเทศ รวมทั้งชาร์ตซิงเกิลแห่งสหราชอาณาจักร เป็นซิงเกิลแรกของนักร้องเคป็อปที่ขึ้นถึงอันดับนี้ และขึ้นถึงอันดับ 2 บิลบอร์ดฮอต 100 ซึ่งหากซิงเกิลนี้สามารถแซงหน้าซิงเกิล "One More Night" ของมารูนไฟฟ์ขึ้นถึงอันดับหนึ่งได้ เขาจะเป็นนักร้องเอเชียคนแรกในประวัติศาสตร์
ไซให้สัมภาษณ์ไว้ว่า หากซิงเกิลนี้ขึ้นถึงอันดับ 1 บิลบอร์ดฮอต 100 เขาจะออกมิวสิกวิดีโอใหม่ โดยถอดเสื้อเต้นในที่สาธารณะ
เอาละรู้ข้อมูลเกี่ยวกับเพลงและนักร้องคนนี้แล้ว มีประเด็นชวนให้ขบคิดอยู่หลายประเด็น อย่างแรกคือด้วยเทคโนโลยีสมัยนี้ ใครๆ ก็ดังได้โดยเฉพาะในยูทบ จะสังเกตได้ว่านักร้องนักดนตรีศิลปินหลายๆ คนในยุคนี้ ก็ดังมาจากยูทูบ อย่างในบ้านเรา วง room39 ก็ดังจากการเอาคลิปที่ร้องเพลงกันอัพโหลดลงไปในยูทูบ จนเข้าตาโปรดิวเซอร์ใหญ่อย่างบอย โกสิยพงษ์ ต้องจับมาเซ็นสัญญาเข้าค่ายเลิฟอีสเลยทีเดียว หรือจะเป็นวงอย่าง apple girls band ที่มีจุดเด่นที่การเอาไอโฟน ไอแพ็ดมาเป็นเครื่องดนตรีผ่านแอปฯ เครื่องดนตรีต่างๆแล้วอัพขึ้นยูทูบ หรือคู่ดูโอนักเซลโล่ ชาวโครเอเชีย ที่มีชื่อวงว่า ทูเซลโล่ก็ดังมาจากยูทูบ
ไซเองแม้จะเคยออกอัลบั้มมาแล้วแต่ก็เพราะโลกออนไลน์ เพลงของเขาถึงได้ดัง เพลงกังนัมสไตล์นั้นเป็นเพลงที่เน้นท่าเต้นมากกว่าเนื้อร้อง ท่าเต้นควบม้าของเขาจึงกลายเป็นท่าฮิตและส่งผลให้เพลงของเขาฮิตตามไปด้วย
เอาละที่เขียนถึงนี่เพราะยากจะบอกว่าเดี๋ยวนี้ใครๆก็ดังได้ ด้วยความดังแบบง่ายๆจนบางครั้งมันดูเป็นอะไรที่ฉาบฉวยมากไปหน่อย ยิ่งเดี๋ยวนี้ความสำเร็จของศิลปินนักร้องนั้น ไม่ได้วัดกันที่ยอดขายเทปหรือยอดขายซีดีอีกแล้ว
การที่จะบอกว่าคุณคือศิลปินตัวจริงขนาดไหน ไม่ใช่แค่จำนวนคลิกหรือจำนวนผู้ชมบนโลกออนไลน์แต่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่หากเป็นการวัดที่ยอดขายบัตรในการแสดงคอนเสิร์ต หรือยอดของผู้ชมในการเข้าไปชมการแสดงของศิลปินคนดังกล่าวด้วย
อีกอย่างที่ต้องรอดูคือ ถ้าเป็นศิลปินตัวจริงแล้วละก็ สิ่งที่คุณจะต้องทำคือ ยืนอยู่บนที่สูงนั้นให้ได้ยาวนานที่สุด แม้ว่าตัวคุณจะจากไปแล้วหรือว่า แม้ว่าคุณจะเลิกทำเพลงไปแล้ว แต่เพลงของคุณจะต้องยังอยู่ ยังถูกเปิดอยู่เรื่อยๆ และยังนิยมร้องกันต่อไป
กรณีนี้ดูได้จากราชาเพลงป็อป ไมเคิล แจ็คสัน หรือเพลงของจอห์น เลนน่อน และเอลวิส เพรสลี่ย์ ที่ได้รับความนิยมยาวนานเป็นอมตะ ถึงตัวจะจากไปแล้ว แต่คนทั้งโลกยังชื่นชม เราก็ยังได้เห็นงานของเขาอยู่เรื่อยๆทั้งทางทีวี ทางวิทยุ เสมือนว่าเขาไม่เคยตายจากไป ยังมีการจัดคอนเสิร์ตเพื่อรำลึกถึงบุคคลเหล่านี้อยู่เรื่อยๆ หรือถ้าเป็นเมืองไทยเราก็คงนึกถึงวงอย่างสุนทราภรณ์ เพลงของสุนทราภรณ์เป็นนิรันดร์ ยังดังและเราก็ยังได้ยินกันมาหลายรุ่น เรื่อยมาจนทุกวันนี้
ตอนนี้ต้องยอมรับเลยว่ากระแสของไซยิ่งดังมากเท่าไร เท่ากับว่าเขาสร้างมาตรฐานตัวเองไว้สูงมากเท่านั้น และนี่แหละจะทำให้เกิดแรงกดดันไปที่ตัวไซแบบเต็มๆ ทำให้เขาต้องคิดดีๆในการออกซิงเกิลที่สอง หรือออกเพลงใหม่ หลังจากเพลงกังนัมสไตล์ออกมาแรงแบบนี้
ก็เหมือนกับศิลปินไทยหลายๆคนที่ออกอัลบั้มมาแล้วมีเพลงดังเพลงหนึ่ง เช่น เมื่อก่อนมีเพลงคุณลำไยของลูกนก สุภาพร ที่ออกมาแล้วดังระเบิด ทุกคนร้องเพลงตามได้หมด ไม่ว่าคุณจะชอบเพลงลูกทุ่งหรือไม่ ผมเชื่อว่าทุกคนร้องตามได้จนจบเพลง แต่เห็นได้เลยครับว่าเมื่อทำมาตรฐานของตัวเองไว้สูงแบบนี้ สุดท้ายก็เป็นตัวคุณลูกนกเองที่ไม่สามารถจะก้าวข้ามมาตรฐานของตัวเองไปได้
ความดังของเพลงกังนัมสไตล์นี้ ส่วนหนึ่งก็ทำให้เกิดความเป็นชาตินิยม เป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้ชาวเกาหลีใต้ได้ภาคภูมิใจ ที่เพลงและการเต้นแบบเกาหลีดังติดอันดับไปทั่วโลก
แต่มองในมุมที่ว่ากังนัมสไตล์เอง ก็ยังไม่เคยฉีกแนวจากเพลงเกาหลีอื่นๆ มากนัก เพราะยังคงเป็นเพลงที่เน้นท่าเต้นเป็นหลักมากกว่าองค์ประกอบอื่น จะสังเกตได้เลยครับว่าเพลงเกาหลีส่วนใหญ่เน้นท่าเต้นของศิลปิน ให้ออกมาดูแล้วสนุกติดตาจังหวะเร้าใจให้ เต้นตามได้ ร้องตามได้หรือไม่นั้น อีกเรื่องหนึ่ง เต้นสนุกคึกคักให้เหมือนไว้ก่อน เป็นเรื่องสำคัญ
ก่อนหน้านี้นักร้องหลายคนจากฝั่งเกาหลีพยายามเจาะตลาดอเมริกา และยุโรป แต่ไม่ได้ผลมากนัก มาจนถึงตาไซนี่แหละครับ ที่ฝ่าด่านเข้าไปได้อย่างชัดเจนด้วยท่าเต้นควบม้า ผมเคยเห็นข่าวตานี่ไปออกรายการที่อเมริกา และได้สอน บริทนีย์ สเปียร์ เต้นกังนัมสไตล์ จะสังเกตได้เลยครับว่าเขาสอนเต้นไม่ได้สอนร้องนะครับ
ก็หวังว่าเพลงกังนัมสไตล์และไซจะเป็นของจริงและเป็นศิลปินเอเชียคนแรกๆที่ไม่ใช่แค่โกอินเตอร์ แต่เป็นศิลปินที่ก้าวสู่วงการเต้นวงการเพลงโลก และยืนหยัดอยู่ตรงนั้นได้นานๆ จะได้เป็นแบบอย่างให้นักร้องนักดนตรีชาวเอเชียหลายๆคนได้เดินก้าวตามเขาไปให้ทั่วโลกรู้จัก
กระแสวัฒนธรรมเกาหลี เป็นหนึ่งในกระแสวัฒนธรรมเอเชีย เป็นกระแสโลกตะวันออกที่มาแรงขึ้นเรื่อยๆ ในโลกยุคโลกาภิวัตน์ ผมว่า กระแสวัฒนธรรมเปิดช่องทางผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจได้อีกมากมาย ในฐานะคนเอเชีย ก็ขอเอาใจช่วยครับ
ต้องบอกก่อนเลยครับว่า ถึงดนตรีจะมีเสียงจังหวะทำนองอรรถรสเป็นสากล แต่ผมไม่ชอบฟังเพลงเกาหลี อาจจะเพราะฟังไม่รู้เรื่อง แปลไม่ออก เข้าไม่ถึงเนื้อหา ไม่เหมือนเพลงสากลที่เป็นภาษาอังกฤษ ที่พอฟังได้เข้าใจได้
เรามารู้จักชายคนนี้กันก่อนแล้วกันนะครับ ต้องขอขอบคุณข้อมูลจากวิกิพิเดียด้วยนะครับสำหรับประวัติความเป็นมาของไซและเพลงกังนัมสไตล์
ไซ หรือชื่อจริงว่า ปาร์ค แจซัง ( Psy, Park Jae-Sang) เป็นแร็ปเปอร์และนักร้องเค-ป็อปชาวเกาหลี เกิดวันที่ 31 ธันวาคม ค.ศ. 1977 อายุอานามก็ผ่านเลยวัยรุ่นมานานแล้ว การศึกษานับว่าไม่เบา เขาจบการศึกษาด้านดนตรีจากมหาวิทยาลัยบอสตัน และวิทยาลัยดนตรีเบิร์กเลย์ สหรัฐอเมริกา
มีผลงานครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 2001 จากอัลบั้มชุด PSY from the PSYcho World! และชุดที่ 2 Sa2/Adult only แต่ถูกแบนเนื่องจากการโปรโมตที่ไม่เหมาะสมกับกลุ่มเยาวชน
ต่อมาในเดือนกันยายน ค.ศ. 2002 ไซได้มีผลงานทางโซเชียลมีเดีย ชื่อเพลง Champion เพลงนี้ได้ถูกนำไปใช้ในการแข่งขันฟุตบอลโลก ปีเดียวกัน ที่เกาหลีใต้และญี่ปุ่นเป็นเจ้าภาพร่วมกัน
จากนั้นในเดือนตุลาคม ค.ศ. 2010 หลังจากเงียบหายไปนานถึง 8 ปี ไซก็ได้ย้ายสังกัดไปเป็น YG Entertainment ในปี ค.ศ. 2012 ได้มีอัลบั้มชุดที่ 6 คือ PSY's Best 6th Part 1 ออกมา
ในปีเดียวกันนี้ ซิงเกิล Gangnam Style ได้สร้างปรากฏการณ์อย่างมาก ทั้งจังหวะดนตรี เนื้อหาของเพลง ที่หมายถึง วิถีชีวิตผู้คนในย่านกังนัมในกรุงโซล ที่ฟุ้งเฟ้อ รวมถึงท่าเต้นที่แปลก ๆ คล้าย ๆ การควบม้า มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เป็นที่ถูกอกถูกใจผู้คน จนจะได้รับความนิยมอย่างล้นหลามทั้งในสหรัฐอเมริกา และอีกหลาย ๆ ประเทศทั่วโลก
เฉพาะเว็บไซต์ยูทูบมีการคลิกดูเพลงนี้มากถึง 99 ล้านครั้ง และมีจำนวนผู้กดไลค์มากที่สุดถึง 2,234,180 ครั้ง (ในวันที่ 21 กันยายน ค.ศ. 2012) จนถูกบันทึกเป็นสถิติในหนังสือกินเนสส์ ถือเป็นปรากฏการณ์ครั้งสำคัญของวงการเพลงเกาหลี ที่ทำให้หลายคนที่ไม่ได้สนใจเพลงเกาหลี หันมาให้ความสนใจ
ทั้งที่ไซมีภาพลักษณ์ที่แตกต่างจากไปนักร้องเกาหลีคนอื่น ๆ คือ ไม่หล่อ ไม่มีเสน่ห์ดึงดูด แต่มีความตลกแทน มีศิลปินชาวตะวันตกหลายคนได้ชมเชย ไซซึ่งเป็นผู้ที่ออกแบบท่าเต้นเพลงนี้เอง ไม่ว่าจะเป็น จัสติน บีเบอร์, ร็อบบี้ วิลเลียมส์, เอ็มมิเน็ม และบริตนีย์ สเปียส์ เป็นต้น รวมถึงการแปลงเพลง หรือเลียนแบบตัดต่อเป็นคลิปต่าง ๆ ไปทั่ว
นอกจากนี้แล้ว Gangnam Style ยังคว้ารางวัลจากรายการ Music Bang และ M Countdown ติดต่อกันหลายสัปดาห์ ทำให้ได้รับเชิญเป็นแขกพิเศษร่วมงาน 2012 MTV Music Video Awards ที่สหรัฐอเมริกา เช่นเดียวกับที่ เรน นักร้องเกาหลีอีกคนที่ก่อนหน้านั้นเคยได้รับเชิญมาแล้ว
กังนัมสไตล์ ( Gangnam Style; คังนัมซือทาอิล) เป็นเพลงซิงเกิลของแรปเปอร์ ชาวเกาหลี PSY ในอัลบัม PSY 6 (Six Rules), Part 1 เริ่มออกอากาศครั้งแรกในเกาหลีใต้ในวันที่ 15 กรกฎาคม 2012 โดยไต่ชาร์ทเพลง Gaon Chart ได้ถึงอันดับ 1 ในการเปิดตัวครั้งแรก
หลังจากออกอากาศมาเป็นเวลากว่าสองเดือน ซิงเกิลขึ้นถึงอันดับ 1 ในหลายประเทศ รวมทั้งชาร์ตซิงเกิลแห่งสหราชอาณาจักร เป็นซิงเกิลแรกของนักร้องเคป็อปที่ขึ้นถึงอันดับนี้ และขึ้นถึงอันดับ 2 บิลบอร์ดฮอต 100 ซึ่งหากซิงเกิลนี้สามารถแซงหน้าซิงเกิล "One More Night" ของมารูนไฟฟ์ขึ้นถึงอันดับหนึ่งได้ เขาจะเป็นนักร้องเอเชียคนแรกในประวัติศาสตร์
ไซให้สัมภาษณ์ไว้ว่า หากซิงเกิลนี้ขึ้นถึงอันดับ 1 บิลบอร์ดฮอต 100 เขาจะออกมิวสิกวิดีโอใหม่ โดยถอดเสื้อเต้นในที่สาธารณะ
เอาละรู้ข้อมูลเกี่ยวกับเพลงและนักร้องคนนี้แล้ว มีประเด็นชวนให้ขบคิดอยู่หลายประเด็น อย่างแรกคือด้วยเทคโนโลยีสมัยนี้ ใครๆ ก็ดังได้โดยเฉพาะในยูทบ จะสังเกตได้ว่านักร้องนักดนตรีศิลปินหลายๆ คนในยุคนี้ ก็ดังมาจากยูทูบ อย่างในบ้านเรา วง room39 ก็ดังจากการเอาคลิปที่ร้องเพลงกันอัพโหลดลงไปในยูทูบ จนเข้าตาโปรดิวเซอร์ใหญ่อย่างบอย โกสิยพงษ์ ต้องจับมาเซ็นสัญญาเข้าค่ายเลิฟอีสเลยทีเดียว หรือจะเป็นวงอย่าง apple girls band ที่มีจุดเด่นที่การเอาไอโฟน ไอแพ็ดมาเป็นเครื่องดนตรีผ่านแอปฯ เครื่องดนตรีต่างๆแล้วอัพขึ้นยูทูบ หรือคู่ดูโอนักเซลโล่ ชาวโครเอเชีย ที่มีชื่อวงว่า ทูเซลโล่ก็ดังมาจากยูทูบ
ไซเองแม้จะเคยออกอัลบั้มมาแล้วแต่ก็เพราะโลกออนไลน์ เพลงของเขาถึงได้ดัง เพลงกังนัมสไตล์นั้นเป็นเพลงที่เน้นท่าเต้นมากกว่าเนื้อร้อง ท่าเต้นควบม้าของเขาจึงกลายเป็นท่าฮิตและส่งผลให้เพลงของเขาฮิตตามไปด้วย
เอาละที่เขียนถึงนี่เพราะยากจะบอกว่าเดี๋ยวนี้ใครๆก็ดังได้ ด้วยความดังแบบง่ายๆจนบางครั้งมันดูเป็นอะไรที่ฉาบฉวยมากไปหน่อย ยิ่งเดี๋ยวนี้ความสำเร็จของศิลปินนักร้องนั้น ไม่ได้วัดกันที่ยอดขายเทปหรือยอดขายซีดีอีกแล้ว
การที่จะบอกว่าคุณคือศิลปินตัวจริงขนาดไหน ไม่ใช่แค่จำนวนคลิกหรือจำนวนผู้ชมบนโลกออนไลน์แต่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่หากเป็นการวัดที่ยอดขายบัตรในการแสดงคอนเสิร์ต หรือยอดของผู้ชมในการเข้าไปชมการแสดงของศิลปินคนดังกล่าวด้วย
อีกอย่างที่ต้องรอดูคือ ถ้าเป็นศิลปินตัวจริงแล้วละก็ สิ่งที่คุณจะต้องทำคือ ยืนอยู่บนที่สูงนั้นให้ได้ยาวนานที่สุด แม้ว่าตัวคุณจะจากไปแล้วหรือว่า แม้ว่าคุณจะเลิกทำเพลงไปแล้ว แต่เพลงของคุณจะต้องยังอยู่ ยังถูกเปิดอยู่เรื่อยๆ และยังนิยมร้องกันต่อไป
กรณีนี้ดูได้จากราชาเพลงป็อป ไมเคิล แจ็คสัน หรือเพลงของจอห์น เลนน่อน และเอลวิส เพรสลี่ย์ ที่ได้รับความนิยมยาวนานเป็นอมตะ ถึงตัวจะจากไปแล้ว แต่คนทั้งโลกยังชื่นชม เราก็ยังได้เห็นงานของเขาอยู่เรื่อยๆทั้งทางทีวี ทางวิทยุ เสมือนว่าเขาไม่เคยตายจากไป ยังมีการจัดคอนเสิร์ตเพื่อรำลึกถึงบุคคลเหล่านี้อยู่เรื่อยๆ หรือถ้าเป็นเมืองไทยเราก็คงนึกถึงวงอย่างสุนทราภรณ์ เพลงของสุนทราภรณ์เป็นนิรันดร์ ยังดังและเราก็ยังได้ยินกันมาหลายรุ่น เรื่อยมาจนทุกวันนี้
ตอนนี้ต้องยอมรับเลยว่ากระแสของไซยิ่งดังมากเท่าไร เท่ากับว่าเขาสร้างมาตรฐานตัวเองไว้สูงมากเท่านั้น และนี่แหละจะทำให้เกิดแรงกดดันไปที่ตัวไซแบบเต็มๆ ทำให้เขาต้องคิดดีๆในการออกซิงเกิลที่สอง หรือออกเพลงใหม่ หลังจากเพลงกังนัมสไตล์ออกมาแรงแบบนี้
ก็เหมือนกับศิลปินไทยหลายๆคนที่ออกอัลบั้มมาแล้วมีเพลงดังเพลงหนึ่ง เช่น เมื่อก่อนมีเพลงคุณลำไยของลูกนก สุภาพร ที่ออกมาแล้วดังระเบิด ทุกคนร้องเพลงตามได้หมด ไม่ว่าคุณจะชอบเพลงลูกทุ่งหรือไม่ ผมเชื่อว่าทุกคนร้องตามได้จนจบเพลง แต่เห็นได้เลยครับว่าเมื่อทำมาตรฐานของตัวเองไว้สูงแบบนี้ สุดท้ายก็เป็นตัวคุณลูกนกเองที่ไม่สามารถจะก้าวข้ามมาตรฐานของตัวเองไปได้
ความดังของเพลงกังนัมสไตล์นี้ ส่วนหนึ่งก็ทำให้เกิดความเป็นชาตินิยม เป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้ชาวเกาหลีใต้ได้ภาคภูมิใจ ที่เพลงและการเต้นแบบเกาหลีดังติดอันดับไปทั่วโลก
แต่มองในมุมที่ว่ากังนัมสไตล์เอง ก็ยังไม่เคยฉีกแนวจากเพลงเกาหลีอื่นๆ มากนัก เพราะยังคงเป็นเพลงที่เน้นท่าเต้นเป็นหลักมากกว่าองค์ประกอบอื่น จะสังเกตได้เลยครับว่าเพลงเกาหลีส่วนใหญ่เน้นท่าเต้นของศิลปิน ให้ออกมาดูแล้วสนุกติดตาจังหวะเร้าใจให้ เต้นตามได้ ร้องตามได้หรือไม่นั้น อีกเรื่องหนึ่ง เต้นสนุกคึกคักให้เหมือนไว้ก่อน เป็นเรื่องสำคัญ
ก่อนหน้านี้นักร้องหลายคนจากฝั่งเกาหลีพยายามเจาะตลาดอเมริกา และยุโรป แต่ไม่ได้ผลมากนัก มาจนถึงตาไซนี่แหละครับ ที่ฝ่าด่านเข้าไปได้อย่างชัดเจนด้วยท่าเต้นควบม้า ผมเคยเห็นข่าวตานี่ไปออกรายการที่อเมริกา และได้สอน บริทนีย์ สเปียร์ เต้นกังนัมสไตล์ จะสังเกตได้เลยครับว่าเขาสอนเต้นไม่ได้สอนร้องนะครับ
ก็หวังว่าเพลงกังนัมสไตล์และไซจะเป็นของจริงและเป็นศิลปินเอเชียคนแรกๆที่ไม่ใช่แค่โกอินเตอร์ แต่เป็นศิลปินที่ก้าวสู่วงการเต้นวงการเพลงโลก และยืนหยัดอยู่ตรงนั้นได้นานๆ จะได้เป็นแบบอย่างให้นักร้องนักดนตรีชาวเอเชียหลายๆคนได้เดินก้าวตามเขาไปให้ทั่วโลกรู้จัก
กระแสวัฒนธรรมเกาหลี เป็นหนึ่งในกระแสวัฒนธรรมเอเชีย เป็นกระแสโลกตะวันออกที่มาแรงขึ้นเรื่อยๆ ในโลกยุคโลกาภิวัตน์ ผมว่า กระแสวัฒนธรรมเปิดช่องทางผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจได้อีกมากมาย ในฐานะคนเอเชีย ก็ขอเอาใจช่วยครับ