สีสันพลังประชาชน ในวันต้าน พ.ร.บ.ปรองดอง

เมื่อวันพุธ 30 พฤษภาคม ที่ผ่านมา คนไทยผู้รักชาติ เห็นถึงความชั่วร้ายของบรรดานักการเมือง ที่พยายามจะออก พ.ร.บ.ปรองดอง เพื่อล้างผิดคืนเงินให้นายใหญ่ ที่อยู่ถึงต่างประเทศ เป็นการกระทำที่ยอมรับไม่ได้เอาเสียเลย

งานนี้คนที่โดนจัดหนักจัดเต็ม คงหนีไม่พ้นชายแก่ผิวเข้ม ผู้เสนอ ร่าง พ.ร.บ. ฉบับดังกล่าวเข้าสภา อดีตหัวหน้าคณะปฏิวัติอย่างบิ๊กบัง อดีต ผบ.ทบ. หมดแล้วซึ่งเกียรติความเป็นทหาร วันนี้ เสียผู้เสียคนจนเละตุ้มเป๊ะ

สำหรับเนื้อหาใจความของร่าง พ.ร.บ. ปรองดอง ผมเชื่อว่าผู้ที่ติดตามข่าวสารบ้านเมืองอย่างใกล้ชิด คงได้อ่านและรู้ทันกันแล้ว ท่านสามารถดูรายละเอียดได้จากบทความของคุณอาคำนูณ ส.ว. สรรหา ที่เขียนไว้ในวันที่ 27 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ตามลิงค์นี้เลยนะครับ http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9550000064936

สถานการณ์ล่าสุดตอกย้ำว่า การชุมนุมต่อต้านพ.ร.บ.ปรองดองเป็นเรื่องสำคัญต่ออนาคตของบ้านเมือง การชุมนุมของพันธมิตรและประชาชนเป็นสิ่งที่ถูกต้อง ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเมื่อบ่ายวันศุกร์ที่ 1 มิถุนายน 2555 รับคำร้องของบุคคลและคณะบุคคล 5 คณะที่ยื่นคำร้องขอให้ศาลวินิจฉัยว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 291 เพื่อเขียนรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับโดยคณะบุคคลที่ไม่ใช่รัฐสภานั้น เป็นวิถีทางนอกรัฐธรรมนูญ ขัดกับมาตรา 291 และมาตรา 68

ศาลรัฐธรรมนูญจึงได้มีคำสั่งให้รัฐสภาชะลอการลงมติแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระ 3 ในวันอังคารที่ 5 มิถุนายน 2555 โดยให้เจ้าหน้าที่ของศาลเดินทางมายื่นหนังสือคำสั่งต่อสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรในช่วงบ่ายวันเดียวกัน

สำหรับชาวเอเอสทีวี ประสบการณ์จากเหตุการณ์ 7 ตุลาฯ ยังคงฝังลึกอยู่ในใจพวกเราทุกคน ก่อนจะมีการชุมนุมนั้น หลายคนรู้สึกเครียดและกังวลเตรียมรับภารกิจ โดยเฉพาะหลังจากที่คุณสนธิออกมาพูดว่าจะนำเป็นครั้งสุดท้าย แล้วจะขอถอนตัวจากแกนนำพันธมิตร หลังจบการต่อสู้รอบนี้

อย่างไรก็ตาม ภายใต้คำมั่นสัญญาที่พันธมิตรเคยให้ไว้ ตามวันเวลากำหนดนัดหมาย เราต้องออกมาเดินบนถนน ท่ามกลางอากาศร้อนจัดอบอ้าว ด้วยอุณภูมิประมาณ35องศา สลับกัยสายฝนเทกระหน่ำ ชุมนุมเหงื่อท่วมกันไปได้แป็บเดียว ก็ต้องเจอกับฝนจนเปียกปอน ร้อนๆหนาวๆร่างกายปรับแทบไม่ทัน ชนิดที่ว่าจะไม่สบายเอาเลยทีเดียว

แต่พ่อแม่พี่น้องใจสู้เด็ดเดี่ยวจริงๆครับ การชุมนุมที่ลานพระรูปในบ่ายวันนั้น ภาพบรรยากาศเก่าๆ กำลังย้อนกลับคืนมา ความทรงจำสีจางๆก็เริ่มกลับมาสดใสอีกครั้ง กำลังใจจากพลังประชาชนกลับมาอีกครั้ง ภายใต้ดวงอาทิตย์ร้อนแรงนั้นเป็นเรื่องเล็กน้อยมาก หากเทียบกับเป้าหมายของพวกเราในการหยุดยั้งร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง

การชุมนุมของพันธมิตรทุกครั้งที่ผ่านมา มักจะเดินนำหน้าด้วยกองทัพธรรมแห่งสันติอโศก และครั้งนี้ก็เช่นกัน กองทัพธรรมยังคงเป็นกลุ่มคนที่มีระเบียบมากๆเหมือนเดิม ภายใต้การนำของคุณลุงจำลอง

เมื่อเวลาบ่ายสามมาถึงตามที่มีการนัดหมายกันไว้ พวกเราก็เริ่มออกเดินกันไปยังอาคารรัฐสภา ซึ่งก็อยู่ไม่ไกลมากนัก แต่การเดินระยะทางไม่ไกลของคนนับหมื่นนั้นก็ไม่ใช่เรื่องง่าย และไม่ใช่อะไรที่จะใช้เวลาน้อยๆเลย

ตอนเดินขบวนมานั้น ผมอยู่บนรถปราศรัยเพื่อจะได้ถ่ายภาพจากมุมสูง น่าขำ ตำรวจยังประเมินว่า พวกเรามากันไม่เกินห้าพัน แต่ภาพจากของจริงนั้น จำนวนคนมากมายเหลือเกิน ยาวเหยียดสุดลูกหูลูกตา

เวทีหน้าประตูใหญ่รัฐสภา เริ่มปราศัยกันไปไม่นาน ฝนก็เทลงมา ดีนะหลายคนพกชุดกันฝนเตรียมมาด้วย แถมมีพี่น้องเราส่งเสื้อกันฝนมาช่วยอีกเป็นลังๆ การชุมนุมกลางสายฝนจึงไม่น่าห่วงมากนัก แถมยังทำให้ภาพถ่ายสวยๆอีกมากจากสีสันของร่มและเสื้อกันฝนของพ่อแม่พี่น้อง

ตอนค่ำ เราแยกย้ายกันกลับบ้าน ก่อนจะนัดกันใหม่ในวันรุ่งขึ้น สำหรับคนที่มาจากต่างจังหวัดหลายคนก็ไปนอนกันที่เอเอสทีวี สมกับสโลแกนของสถานี เอเอสทีวี ทีวีของประชาชน เป็นพื้นที่ของประชาชนจริงๆครับ

วันแรกผ่านไปด้วยดี วันที่สองยังมีหลายเรื่องราวเกิดขึ้น เริ่มกันที่แถลงการณ์ของแกนนำพันธมิตร ที่ขอขยายพื้นที่การชุมนุมไปยังบริเวณภายในรั้วรัฐสภา แต่จะไม่เข้าไปภายในอาคาร ซึ่งเป็นแถลงการณ์ที่ผมว่านักการเมืองฟังแล้วคงกลัว ถ้าประชาชนเข้าไปจริงคงวิ่งหนีกันหางจุกตูด

แถลงการณ์ฉบับนี้ ยังยื่นกรอบเวลาให้ประธานสภาตอบในหนึ่งชั่วโมง ถ้าไม่ยินยอมให้ใช้พื้นที่ แต่ถ้าท่านไม่ตอบแสดงว่าท่านยอมให้เราใช้ สุดท้ายก็เงียบกริบไม่มีคำตอบ

ยังมีอีกหนึ่งเหตุการณ์บนเวที ทำเอาโทรศัพท์ดังไม่หยุดเลย นั่นคือตอนคุณสนธิกำลังปราศรัย มีหนุ่มคนหนึ่งปีนขึ้นไปบนรถปราศรัยแล้วก็พูดว่า เอาทักษิณกลับมา ทีมงานต้องเข้ากันเอาเขาออกไป ดีนะที่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทีมงานได้พาตัวชายคนนั้น ส่งให้ตำรวจเป็นที่เรียบร้อย

พอตกเย็นก็มีข่าวเข้ามาเรื่อยๆ เรื่องตำรวจเตรียมแก๊สน้ำตาเอย เตรียมสลายการชุมนุมเอย ต้องเช็คข่าวกันนาทีต่อนาที

การชุมนุมวันที่สองก็จบลงด้วยดี แม้จะมีอะไรให้ได้ลุ้นกันเป็นระยะๆ

วันที่สามผม ผมติดธุระ กว่าจะไปถึงก็สายแล้ว มีข่าวว่า มีการล้อมสภา กว่าผมจะเข้าไปในพื้นที่ชุมนุมได้เกือบแย่ ถนนหลายสายถูกปิด ต้องวนอยู่นาน จนตัดสินใจไปที่ทำงานก่อน แล้วติดรถที่ทำงานออกมาอีกที

วันนี้ยังได้มีโอกาสคุยกับพี่โปรดิวเซอร์รายการพลิกมุมข่าว คอยเช็คข่าว และติดตามข่าวต่างๆทางเฟซบุ๊ค ได้เห็นพฤติกรรมฉวยโอกาส การแอบอ้างผลงานคนอื่นของคนบางกลุ่ม โดยเฉพาะนักการเมือง

การชุมนุมของพ่อแม่พี่น้องทั้งสามวัน ผ่านไปได้ด้วยดี ไม่มีเหตุการณ์อะไรที่มันเลวร้ายหรือซ้ำรอยแผลเก่า ในฐานะคนรุ่นลูกหลาน ต้องขอกราบขอบคุณพ่อแม่พี่น้องผู้รักชาติทุกคน ที่เสียสละเวลาทำมาหากิน ความสุขสบายส่วนตัว กล้าหาญ ไม่นิ่งเฉยดูดาย มาช่วยกันปกป้องบ้านเมือง ไม่ให้โจรในสภาใช้อำนาจเผด็จการเสียงข้างมากย่ำยีตามอำเภอใจ เพื่ออนาคตของคนรุ่นต่อไป

ผมหวังว่าคนรุ่นใหม่จะตื่นขึ้นมามองเห็นความสำคัญของประเทศชาติและบ้านเมืองมากกว่านี้ ผมมีโอกาสถ่ายรูปจำนวนมากในสามวันนั้น ภาพที่ประจักษ์บอกความจริงแท้ ไม่มีใครบิดเบือนได้ พ่อแม่พี่น้องจำนวนมากที่หลั่งไหลมาจากทุกทิศทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด เป็นพลังที่เข้มแข็งและพร้อมจะคัดค้านต่อต้านพ.ร.บ.ปรองดองอย่างถึงที่สุด ทำบุญในวันวิสาขบูชาให้อิ่มอกอิ่มใจ พักผ่อนเอาแรง แล้วพบกันตามนัด ในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้นะครับ