นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนันท์ ประธานรัฐสภากล่าวว่า ได้ตรวจสอบร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคเพื่อไทยเสร็จแล้ว พบว่ามีการยื่นรายชื่อส.ส.อย่างถูกต้อง ดังนั้น ต้องบรรจุเข้าสู่ระเบียบวาระภายใน ๑๕ วัน จึงกำหนดให้มีการประชุมร่วมรัฐสภา เพื่อพิจารณาญัตติร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญในวาระแรก วันที่ ๒๓ ก.พ. และระหว่างนี้หากมีการยื่นร่างของฝ่ายรัฐบาลหรือของพรรคชาติไทยพัฒนา ก็จะนำมาตรวจสอบความถูกต้อง ถ้าพบว่ารายชื่อถูกต้องก็จะบรรจุร่างแก้ไขทั้ง ๒ ฉบับ พิจารณารวมกับร่างของพรรคเพื่อไทยในวันที่ ๒๓ ก.พ.ไปเลย ส่วนร่างของภาคประชาชนต้องรอตรวจสอบรายชื่อประชาชนที่มี ๕-๖ หมื่นคนซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาอีก ๒-๓ เดือน
นายอุดมเดช รัตนเสถียร ประธานวิปรัฐบาลกล่าวว่า กรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ขึ้นป้ายและออกสติ๊กเกอร์คัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยอ้างว่าทำเพื่อพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรนั้น ถือว่าเป็นความพยายามเบี่ยงเบนประเด็นตามยุทธศาสตร์ของพรรคประชาธิปัตย์ที่ต้องการสร้างแนวร่วมต่อต้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
ขณะเดียวกันร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรีก็ออกโรงให้สัมภาษณ์เรื่องพรรคประชาธิปัตย์มีมติค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญและกล่าวหาว่ารัฐบาลมีนัยยะแอบแฝงไม่ได้แก้ไขเพื่อประชาธิปไตย แต่ทำเพื่อทักษิณว่าพรรคเพื่อไทยก็ประกาศว่า ถ้าพรรคเพื่อไทยได้เสียงข้างมากจะแก้ไขรัฐธรรมนูญปี ๕๐ เพราะเป็นรัฐธรรมนูญที่มาจากคณะปฏิวัติ ตอนนี้เราเพียงยื่นแก้ไขมาตรา ๒๙๑ เพื่อเปิดให้มีสสร. ๙๙ คนมายกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ซึ่งยังไม่รู้ว่าประชาชนจะเลือกใครและสถาบันการศึกษาจะส่งใครมาให้คัดเลือกเป็น สสร. นอกจากนี้หลังยกร่างเสร็จต้องทำประชามติ สรุปเรายังไม่รู้ว่าใครจะมายกร่าง และไม่รู้ว่าจะยกร่างอย่างไรแล้วจะรู้ได้อย่างไรว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้จะช่วยใครหรือไม่ช่วยใคร
ต่อข้อถามที่ว่าพรรคประชาธิปัตย์บอกไม่มีหลักประกันว่ารัฐบาลจะไม่แก้หมวดสถาบันและจะไม่ยกเลิกองค์กรอิสระ ร.ต.อ.เฉลิมตอบว่าเขียนชัดเจน ไม่แตะต้องหมวดพระมหากษัตริย์ ส่วนจะยกร่างอย่างไรเป็นเรื่องของสสร.ที่มาจากการเลือกตั้ง หรือว่าพรรคประชาธิปัตย์ชอบรัฐธรรมนูญเผด็จการ ไม่ชอบการเลือกตั้ง
ถามว่าพรรคประชาธิปัตย์แฉว่ามีข่าวว่ารัฐบาลนี้ล็อบบี้ส.ว. เพื่อให้โหวตรับร่างแลกกับการต่อวาระหรือให้สิทธิลงสมัครส.ว.อีกสมัยหนึ่ง ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า รัฐธรรมนูญที่กำลังจะยกร่าง พรรคเพื่อไทยไม่ได้ยกร่างแล้วจะไปต่อรองได้อย่างไรเป็นเรื่องของสสร. ๙๙ คน ยกร่าง
เรื่องพรรคประชาธิปัตย์นี้ยังมีลูกพรรคเพื่อไทยออกมาโต้ตอบอีกมาก เช่น นายประชา ประสพดี ส.ส.สมุทรปราการกล่าวว่าที่พรรคประชาธิปัตย์ออกมาเคลื่อนไหว ก็เพราะผูกพันกับรัฐธรรมนูญปี ๕๐ ที่คลอดออกมาจากเผด็จการ คนที่รักประชาธิปไตย มีจิตใจเป็นปกติล้วนอยากให้มีการแก้ไขทั้งนั้น หรือว่าประชาธิปัตย์ได้ผลประโยชน์จากรัฐธรรมนูญฉบับนี้ จนทำให้ตัวเองสามารถเป็นรัฐบาล ส่วนที่กล่าวหาว่าแก้รัฐธรรมนูญเพื่อพ.ต.ท.ทักษิณ ก็พูดวนเวียนนึกอะไรไม่ออกก็โจมตีพ.ต.ท.ทักษิณ สู้ด้วยนโยบายไม่ได้ ก็ใช้วิธีกุ๊ย อันธพาล ประเทศไม่เดินหน้าเพราะมีฝ่ายค้านที่ใจคับแคบ มีอคติแบบนี้
ส่วนนายนภดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า การแก้รัฐธรรมนูญเป็นนโยบายพรรคเพื่อไทยที่ใช้หาเสียง เมื่อชนะเลือกตั้งก็มีความชอบธรรมที่จะเดินหน้าเรื่องนี้ ซึ่งไม่เกี่ยวข้องอะไรกับพ.ต.ท.ทักษิณเลย เมื่อไม่นานมานี้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์เคยพูดว่าไม่ขัดข้องที่จะมีการตั้ง สสร.มาร่างรัฐธรรมนูญ แต่ตอนนี้กลับมาคัดค้าน ก็ต้องขอบคุณที่ประกาศจุดยืนชัดเจนเช่นนี้
นายนภดลกล่าว่าขณะนี้พ.ต.ท.ทักษิณเดินทางไปที่กรุงปักกิ่งและจะอยู่ที่นั่นระยะหนึ่ง แต่ไม่ได้มาเคลื่อนไหวทางการเมือง กรณีที่จะมีคนไปพบถือเป็นเรื่องปกติธรรมดาของคนรักกัน
ทางฝ่ายพรรคประชาธิปัตย์ นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราชกล่าวถึงการเคลื่อนไหวของส.ส.พรรคเพื่อไทยที่ออกมาเคลื่อนไหวโจมตีพรรคประชาธิปัตย์ว่าเป็นพวกลิ่วล้อหรือหน้าม้าทางการเมืองออกมาเคลื่อนไหวเพื่อให้เกิดกระแสการเมืองก่อน จากนั้นก็ฉวยโอกาสในนาทีสุดท้ายยื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของรัฐบาล โดยน.ส.ยิ่งลักษณ์ นายกฯ อ้างว่าไม่ต้องการเสียสิทธิทางการเมืองซึ่งเป็นพฤติกรรมที่ไม่น่าเชื่อถือ ทำตัวเป็นลิงหลอกเจ้าและทำให้เข้าใจว่าการยื่นแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญครั้งนี้คงได้รับไฟเขียวจากนายใหญ่ที่ดูไบสั่งการกำชับมา มิฉะนั้นร.ต.อ.เฉลิม รองนายกฯ คงไม่กระดี้กระด๊าออกมารับบทเป็นโต้โผใหญ่ออกมาระรานท้าทายพรรคประชาธิปัตย์ขึ้นเวลาดีเบต ทั้งที่การดีเบตนี้สามารถทำได้ในที่ประชุมสภาตอนที่พิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ
ส่วนที่ร.ต.อ.เฉลิมว่ารัฐบาลไม่สามารถแทรกแซงสสร.ได้และปล่อยสสร.มีอิสระก็แปลกใจว่าทำไมร.ต.อ.เฉลิมการันตีและสั่งห้ามไม่ให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญในหมวดพระมหากษัตริย์ ถ้ารัฐบาลสั่งไม่ให้มีการสั่งไม่ให้แก้ในหมดนี้ได้ก็ไม่มีหลักประกันใดๆว่ารัฐบาลจะไม่แทรกแซงในการแก้ไขรัฐธรรมนูญในหมวดอื่นได้
นายอุดมเดช รัตนเสถียร ประธานวิปรัฐบาลกล่าวว่า กรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ขึ้นป้ายและออกสติ๊กเกอร์คัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยอ้างว่าทำเพื่อพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรนั้น ถือว่าเป็นความพยายามเบี่ยงเบนประเด็นตามยุทธศาสตร์ของพรรคประชาธิปัตย์ที่ต้องการสร้างแนวร่วมต่อต้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
ขณะเดียวกันร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรีก็ออกโรงให้สัมภาษณ์เรื่องพรรคประชาธิปัตย์มีมติค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญและกล่าวหาว่ารัฐบาลมีนัยยะแอบแฝงไม่ได้แก้ไขเพื่อประชาธิปไตย แต่ทำเพื่อทักษิณว่าพรรคเพื่อไทยก็ประกาศว่า ถ้าพรรคเพื่อไทยได้เสียงข้างมากจะแก้ไขรัฐธรรมนูญปี ๕๐ เพราะเป็นรัฐธรรมนูญที่มาจากคณะปฏิวัติ ตอนนี้เราเพียงยื่นแก้ไขมาตรา ๒๙๑ เพื่อเปิดให้มีสสร. ๙๙ คนมายกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ซึ่งยังไม่รู้ว่าประชาชนจะเลือกใครและสถาบันการศึกษาจะส่งใครมาให้คัดเลือกเป็น สสร. นอกจากนี้หลังยกร่างเสร็จต้องทำประชามติ สรุปเรายังไม่รู้ว่าใครจะมายกร่าง และไม่รู้ว่าจะยกร่างอย่างไรแล้วจะรู้ได้อย่างไรว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้จะช่วยใครหรือไม่ช่วยใคร
ต่อข้อถามที่ว่าพรรคประชาธิปัตย์บอกไม่มีหลักประกันว่ารัฐบาลจะไม่แก้หมวดสถาบันและจะไม่ยกเลิกองค์กรอิสระ ร.ต.อ.เฉลิมตอบว่าเขียนชัดเจน ไม่แตะต้องหมวดพระมหากษัตริย์ ส่วนจะยกร่างอย่างไรเป็นเรื่องของสสร.ที่มาจากการเลือกตั้ง หรือว่าพรรคประชาธิปัตย์ชอบรัฐธรรมนูญเผด็จการ ไม่ชอบการเลือกตั้ง
ถามว่าพรรคประชาธิปัตย์แฉว่ามีข่าวว่ารัฐบาลนี้ล็อบบี้ส.ว. เพื่อให้โหวตรับร่างแลกกับการต่อวาระหรือให้สิทธิลงสมัครส.ว.อีกสมัยหนึ่ง ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า รัฐธรรมนูญที่กำลังจะยกร่าง พรรคเพื่อไทยไม่ได้ยกร่างแล้วจะไปต่อรองได้อย่างไรเป็นเรื่องของสสร. ๙๙ คน ยกร่าง
เรื่องพรรคประชาธิปัตย์นี้ยังมีลูกพรรคเพื่อไทยออกมาโต้ตอบอีกมาก เช่น นายประชา ประสพดี ส.ส.สมุทรปราการกล่าวว่าที่พรรคประชาธิปัตย์ออกมาเคลื่อนไหว ก็เพราะผูกพันกับรัฐธรรมนูญปี ๕๐ ที่คลอดออกมาจากเผด็จการ คนที่รักประชาธิปไตย มีจิตใจเป็นปกติล้วนอยากให้มีการแก้ไขทั้งนั้น หรือว่าประชาธิปัตย์ได้ผลประโยชน์จากรัฐธรรมนูญฉบับนี้ จนทำให้ตัวเองสามารถเป็นรัฐบาล ส่วนที่กล่าวหาว่าแก้รัฐธรรมนูญเพื่อพ.ต.ท.ทักษิณ ก็พูดวนเวียนนึกอะไรไม่ออกก็โจมตีพ.ต.ท.ทักษิณ สู้ด้วยนโยบายไม่ได้ ก็ใช้วิธีกุ๊ย อันธพาล ประเทศไม่เดินหน้าเพราะมีฝ่ายค้านที่ใจคับแคบ มีอคติแบบนี้
ส่วนนายนภดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า การแก้รัฐธรรมนูญเป็นนโยบายพรรคเพื่อไทยที่ใช้หาเสียง เมื่อชนะเลือกตั้งก็มีความชอบธรรมที่จะเดินหน้าเรื่องนี้ ซึ่งไม่เกี่ยวข้องอะไรกับพ.ต.ท.ทักษิณเลย เมื่อไม่นานมานี้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์เคยพูดว่าไม่ขัดข้องที่จะมีการตั้ง สสร.มาร่างรัฐธรรมนูญ แต่ตอนนี้กลับมาคัดค้าน ก็ต้องขอบคุณที่ประกาศจุดยืนชัดเจนเช่นนี้
นายนภดลกล่าว่าขณะนี้พ.ต.ท.ทักษิณเดินทางไปที่กรุงปักกิ่งและจะอยู่ที่นั่นระยะหนึ่ง แต่ไม่ได้มาเคลื่อนไหวทางการเมือง กรณีที่จะมีคนไปพบถือเป็นเรื่องปกติธรรมดาของคนรักกัน
ทางฝ่ายพรรคประชาธิปัตย์ นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราชกล่าวถึงการเคลื่อนไหวของส.ส.พรรคเพื่อไทยที่ออกมาเคลื่อนไหวโจมตีพรรคประชาธิปัตย์ว่าเป็นพวกลิ่วล้อหรือหน้าม้าทางการเมืองออกมาเคลื่อนไหวเพื่อให้เกิดกระแสการเมืองก่อน จากนั้นก็ฉวยโอกาสในนาทีสุดท้ายยื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของรัฐบาล โดยน.ส.ยิ่งลักษณ์ นายกฯ อ้างว่าไม่ต้องการเสียสิทธิทางการเมืองซึ่งเป็นพฤติกรรมที่ไม่น่าเชื่อถือ ทำตัวเป็นลิงหลอกเจ้าและทำให้เข้าใจว่าการยื่นแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญครั้งนี้คงได้รับไฟเขียวจากนายใหญ่ที่ดูไบสั่งการกำชับมา มิฉะนั้นร.ต.อ.เฉลิม รองนายกฯ คงไม่กระดี้กระด๊าออกมารับบทเป็นโต้โผใหญ่ออกมาระรานท้าทายพรรคประชาธิปัตย์ขึ้นเวลาดีเบต ทั้งที่การดีเบตนี้สามารถทำได้ในที่ประชุมสภาตอนที่พิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ
ส่วนที่ร.ต.อ.เฉลิมว่ารัฐบาลไม่สามารถแทรกแซงสสร.ได้และปล่อยสสร.มีอิสระก็แปลกใจว่าทำไมร.ต.อ.เฉลิมการันตีและสั่งห้ามไม่ให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญในหมวดพระมหากษัตริย์ ถ้ารัฐบาลสั่งไม่ให้มีการสั่งไม่ให้แก้ในหมดนี้ได้ก็ไม่มีหลักประกันใดๆว่ารัฐบาลจะไม่แทรกแซงในการแก้ไขรัฐธรรมนูญในหมวดอื่นได้
