xs
xsm
sm
md
lg

นปช.อุ้มนิติราษฎร์ : เปิดศึกแก้ รธน.เต็มรูป

เผยแพร่:   โดย: บัณรส บัวคลี่

อย่างที่แสดงความเห็นไปเมื่อสองสัปดาห์ก่อนว่าความเป็นไปได้ที่จะมีการแก้กฏหมายอาญามาตรา 112 มีน้อยจนแทบเป็นไปไม่ได้เพราะส.ส.และพรรคการเมืองไม่เอาด้วยการเสนอแนวคิดทางวิชาการไม่ใช่ปัญหา แต่ปัญหาที่แท้จริงอยู่ที่วิธีการรณรงค์ผลักดัน

ยังไม่ทันเท่าไหร่เลยสังคมทั้งสังคมก็ระอุขึ้นมามีผู้ที่พยายามออกมาเหนี่ยวรั้งท่าทีไม่พอใจเตือนสติให้อยู่ในกรอบไม่ละเมิดเสรีภาพการแสดงความเห็นไม่ว่าอ.สุวินัย ภรณวลัย เรื่อยมาถึงคุณคำนูณฯ อ.กิตติศักดิ์ ปรกติ ฯลฯ อีกฟากหนึ่งก็เพิ่งเห็นทวิตเตอร์จาตุรนต์ ฉายแสงพูดเหมือนห่วงจะเกิดความรุนแรง ฯลฯ แต่เหมือนจะไม่เป็นผลสักเท่าใด จน นักการเมืองในพรรคเพื่อไทยเองที่เป็นฝ่ายต้องออกมาตัดตอนไม่ให้ลามมาถึงตัว

แต่ปัญหาคือต่อให้ระดับนายกฯปูหรือรองเหลิม-รองยงยุทธมาพูดสักกี่รอบคนก็ยังคลางใจเพราะขณะเดียวกันอีกฟากหนึ่งนปช.ตั้งโต๊ะแถลงยืนยันสนับสนุนนิติราษฏร์และม.112 ต่อไปถึงแม้จะเป็นคำแถลงจากวรวุฒิ วิชัยดิษฐ์แต่นี่ก็พูดในฐานะตำแหน่งโฆษกของนปช. มิหนำซ้ำยังขนาบข้างไปด้วยแกนนำหลักรวมไปถึงธิดา ถาวรเศรษฐ์ที่เคยประกาศชัดถ้อยชัดคำมาก่อนว่าให้มวลชนเสื้อแดงหนุนนิติราษฎร์

นี่แหละคือสัญญาณของการยกระดับสถานการณ์จากแคมเปญดัน ม.112 ไปสู่สมรภูมิแก้รัฐธรรมนูญเต็มตัว !!!

นปช.ไปทาง พรรคเพื่อไทยไปอีกทาง มวลชนจะเอายังไงดี ? ป้าธิดาจะเล่นบทขัดใจพรรคไปได้สักกี่น้ำล้วนแต่เป็นประเด็นการเมืองที่มีสีสันน่าติดตามทั้งสิ้น เพราะนปช.และธิดา ถาวรเศรษฐ์ไม่ได้โง่เง่าขนาดไม่รู้ว่าเปอร์เซ็นต์ความเป็นไปได้ของการแก้ ม.112 แทบเป็นศูนย์การออกมาขัดใจนักการเมืองก็เพราะเล็งผลไปที่สนามใหญ่ก็คือการแก้รัฐธรรมนูญแล้วดังนั้นการออกมาประคองนิติราษฏร์ไม่ให้บอบช้ำเสียมวยไปก่อนก็เพื่อหวังจะใช้เป็นหัวหอกทางสังคมในสมรภูมิใหญ่กว่า

สถานะของกลุ่มนิติราษฏร์หลังจากถูกกระหน่ำจากรอบด้านแต่ก็ไม่ใช่ถึงกับเป็นมวยหมดสภาพหรือเป็นตะเกียงไร้น้ำมัน

อย่างกรณี 112 รายชื่อแรกเริ่มที่มีกรณีอ.เสกสรรค์ ประเสริฐกุลถอนตัวออกมาก็ทำให้สังคมมองอะไรลึกลงไปกว่ารายชื่อที่ปรากฏ

ขอย้ำอีกครั้งก่อนว่าสำหรับตัวผมนั้นไม่ได้แคลงใจกับผู้ลงนามเข้าชื่อ 112 ชื่อตั้งต้นมีหลายชื่อที่ควรเชื่อได้ว่าลงนามด้วยบริสุทธิ์ไม่ได้มีเจตนาแฝง ผมจึงแปร่งๆ กับกระแสสังคมที่ด่าเหมาไว้ก่อนอะไรที่สุดโต่งไม่ว่าจะฟากซ้ายหรือขวามันก็ไม่ดีทั้งคู่แหละครับฟังเสียงเตือนเสียงเหนี่ยวรั้งเอาไว้บ้างก่อนที่จะลุกลามบานปลาย

กรณีของ อ.เสกสรรค์นี่ก็เรื่องหนึ่งที่ไปวงไหนก็มีผู้ยกมาวิพากษ์วิจารณ์โดยส่วนตัวผมก็เคารพนับถือเข้าใจเจตนาและเข้าใจความเป็นอิสระจึงได้แต่เห็นใจที่ถูกซัดทั้งขึ้นทั้งล่อง ไม่กี่วันก่อนได้คุยกับนักวิชาการมหาวิทยาลัยในวงหนึ่งมีผู้ยกเรื่องอาจารย์เสกฯ ขึ้นมาสนทนาด้วย นักวิชาการท่านนี้ตั้งข้อสังเกตเรื่อง “สายและเครือข่ายนักวิชาการ” ขึ้นมาผมลองนึกตามเออจริงแฮะ

เมื่อก่อนเวลาวงวิชาการเขาลงชื่อหางว่าวต่อท้ายผลักดันหรือแสดงท่าทีต่อสาธารณะ คนในวงการก็มักจะเห็นสายเครือข่ายดังกล่าวเช่น กลุ่มม.เที่ยงคืน พอมีชื่อ ดร.นิธิ เอียวศรีวงศ์นำมาก็มักจะต่อท้ายด้วยขบวนสายเครือข่ายม.เที่ยงคืนกันยกกระบิแต่รอบ ม.112 นี้ดูจะลดลงไปไม่คึกคักเหมือนเก่า

แต่ที่น่าสนใจที่สุดนักวิชาการท่านนี้บอกว่าสายเที่ยงคืนก็สายหนึ่ง ส่วนอีกสายลองสังเกตดูเป็นพวกคอร์เนลล์ ยกมาทั้งกระบิเหมือนกัน แล้วก็อธิบายต่อว่าศิษย์เก่าคอร์เนลล์ในวงวิชาการมีความสัมพันธ์ที่ดีจากรุ่นสู่รุ่นค่อนข้างแน่นแฟ้นกว่าที่อื่นพอพูดมาถึงตรงนี้ผมจึงฉุกคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาทันทีเพราะมีคำพูดหนึ่งในจดหมายของอ.เสกสรรค์ที่ว่า “ถูกขอร้องโดยผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือ”

ศิษย์เก่าที่ลงชื่อในรอบนี้เริ่มจาก ดร.ชาญวิทย์ เกษตรศิริ ดร.เสกสรรค์ ประเสริฐกุล ดร.ฉลาดชาย รมิตานนท์ ดร.อานันท์ กาญจนพันธุ์ และยังมีอ.ทักษ์ เฉลิมเตียรณ พอเอ่ยชื่อเหล่านี้มาปุ๊บกรุณาอย่าด่ากราดเหมาเข่งเลยนะครับ ผมทราบดีว่าในจำนวนนี้มีคนที่ไม่ชอบทักษิณเลยก็มียังเคยได้ยินคำบ่นเรื่องขบวนการแดงเดือดด้วยซ้ำไป

นอกจากรายชื่อ 112 ชื่อยังมีคำอธิบายว่าด้วยสายและเครือข่ายในแวดวงวิชาการเพิ่มขึ้นมา ไม่เพียงเท่านั้นนอกจากรายชื่อตั้งต้นที่เป็นข่าวฮือฮาไปก่อนหน้าแท้จริงยังมีชื่อเครือข่ายอื่นๆ ที่คนไม่เอ่ยถึงมากนัก

“ประชา บูรพาวิถี” สื่อมวลชนอาวุโสคอลัมนิสต์กรุงเทพธุรกิจที่คร่ำหวอดวงการเมืองบอกว่าผู้เข้าร่วมลงชื่อกลุ่มนั้น ก็ไม่ใช่ “ครก.112” อย่างที่มีการกล่าวอ้าง หากแต่เป็นผู้เห็นด้วยกับการแก้ไขกฎหมายมาตรา 112 เท่านั้น ส่วน กลุ่มนักเคลื่อนไหวทางการเมืองผู้ที่อยู่เบื้องหลัง “ครก.112” ตัวจริงก็คือ เครือข่ายนักวิชาการ และ กลุ่มกิจกรรมต่างๆ ที่เคยสนับสนุนการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง หรือเป็น “แนวร่วม” ของ นปช. ได้แก่ มหาวิทยาลัยเที่ยงคืน, กลุ่มสันติประชาธรรม, คณะนักเขียนแสงสำนึก, กวีราษฎร์, อาร์ติเคิล 112, สหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนนท.), กลุ่มมหิดลเสรีเพื่อประชาธิปไตย, กลุ่มประชาคมจุฬาฯ เพื่อประชาชน, กลุ่มประชาคมศิลปากรเพื่อประชาชน, กลุ่มธรรมศาสตร์เสรีเพื่อประชาธิปไตย, กลุ่มเสรีเกษตรศาสตร์, แนวร่วมนักเรียนนิสิตนักศึกษาเสรีชนล้านนา กลุ่มแดงสยาม, กรรมกรแดงเพื่อประชาธิปไตย, เพื่อนนักโทษการเมืองไทย และ กลุ่ม SOUND OF SILENCE ซึ่งคณะนิติราษฎร์ก็เป็นหนึ่งกลุ่มในหลายๆ กลุ่มที่ก่อรูปเป็น ครก.112

ที่กล่าวมาทั้งหลายทั้งสิ้นจะเห็นว่ากลุ่มที่หนุนหลังคณะนิติราษฏร์มีความหลากหลายมีทั้งซ้ายจัด ซ้ายเก่า ซ้ายใหม่ นักวิชาการใหญ่ระดับเป็นที่เคารพนับถือ ไม่ได้มีกันแค่คนหนุ่ม 5-6 คนที่พอมุกแป้กเรื่องม.112 ก็ม้วนเสื่อกลับบ้านใครบ้านมันหรอกนะอย่างน้อยก็มีระดับผู้อาวุโสมากประสบการณ์ตลอดถึงเครือข่ายความสัมพันธ์แบบที่อ.เสกสรรค์เขียนถึงว่าเป็น “ผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือ” ยืนสนับสนุนอย่างเข้มแข็งอยู่ด้านหลัง

การเมืองว่าด้วยนิติราษฏร์และ ม.112 ไม่ได้อยู่ที่ร่างแก้ไขม.112 จะเข้าสภาได้หรือไม่บอกแล้วว่านี่เป็นเป้าหลอก การผลักดันแก้กฏหมายยังไม่จบง่ายๆ หรอกครับตราบใดที่กลุ่มพลังต่างๆ ทุกฝ่ายจะตกผลึกเรื่องประเด็นแก้รัฐธรรมนูญไม่ได้ ข้อถกเถียงเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญจะเป็นประเด็นใหญ่นับจากนี้ไปและนิติราษฏร์จะยังเป็นผู้เล่นที่มองข้ามไม่ได้ในสนามนี้

ซึ่งนั่นหมายถึงระยะเวลาอีกหลายเดือนหรือข้ามปีนับจากนี้ !
กำลังโหลดความคิดเห็น