ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาสถานการณ์น้ำท่วมในหลายๆ พื้นที่เริ่มดีขึ้น ขณะเดียวกันในหลายพื้นที่ก็ยังมีน้ำท่วมสูง ชาวบ้านยังต้องอยู่กับน้ำดำเน่าเหม็นที่ท่วมขังมานานนับเดือน อยู่กับขยะกองเน่า เกลื่อน ยุงและสัตว์มีพิษชุมจนไม่รู้จะใช้ชีวิตอย่างไร
บางหมู่บ้านระดับน้ำยังสูงเป็นเมตร ชาวบ้านไม่สามารถกลับไปอยู่บ้านได้ ยังต้องอาศัยศูนย์อพยพ ส่วนที่น้ำลดพอจะกลับไปอยู่บ้านได้แล้ว ก็ต้องเผชิญกับบ้านที่เต็มไปด้วยโคลนเน่า พื้นบ้าน ผนังข้าวของในบ้านบวมน้ำ เปื่อยยุ่ยขึ้นราไปทั่ว การทำความสะอาด ซ่อมแซมฟื้นฟู ยังต้องใช้เวลา เรี่ยวแรง และเงินทองอีกมาก
การรวมตัวของชาวบ้านในพื้นที่ต่างๆที่ออกมาประท้วงการบริหารจัดการน้ำของ ศปภ. เล่นเอาฝ่ายรัฐบาลปวดกบาลกันไป แต่คนที่รับบทหนักสุด คือพลตำรวจเอก ประชา พรหมนอก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะประธาน ศปภ.
และสุดท้ายประชา พรหมนอก จึงต้องได้รับเกลียดจากรัฐบาลให้เป็นหนังหน้าไฟของ ครม.ปูนิ่ม ในศึกซักฟอกด้วยการอภิปรายไม่ไว้วางใจของ ส.ส.พรรคฝ่ายค้านในสภา เมื่อวันอาทิตย์ 27 พ.ย.ที่ผ่านมา
เนื้อหาสาระก็ยังคงเป็นการสาดโคลนใส่กัน โบ้ยความผิดกันไปมาเหมือนเดิม เพียงแต่คราวนี้พุ่งเป้าไปที่การแก้ไขปัญหาน้ำท่วม อย่างเต็มที่
ฟังการอภิปรายมาครึ่งวัน ก็ยังไม่ได้อะไรขึ้นมาเลยนอกจากการประท้วงกันไปมา ไร้สาระเสียเวลาได้เห็นกิริยามารยาทวาจาของคนที่ใส่สูทแล้วเรียกตัวเองว่าเป็นตัวแทนประชาชน
ผมทนฟังได้ไม่นานหรอกครับของแบบนี้ ตอนแรกก็ว่าจะตั้งใจฟังเต็มที่ แต่ฟังไปฟังมามันกลับน่าอาเจียน สะอิดสะเอียน จนทนไม่ไหว เสียดายอาหารที่ทำและทานเข้าไป
การประชุมสภาผู้แทนราษฎรไทย เป็นสภาที่มีการประท้วงก่อกวนยุบยิบตลอดเวลา ผมว่าน่าจะประท้วงกันเยอะที่สุดในโลก เอะอะอะไรก็ประท้วง การอภิปรายใช้เวลาไปกับการประท้วงไร้สาระมากกว่าเวลาที่ได้พูดเนื้อหาสาระที่เป็นประโยชน์
สรุปแล้วพวกเราประชาชนชาวไทยไม่เห็นจะได้อะไรเลย การที่ท่าน ส.ส. แต่ละคนเอาแต่ยกมือประท้วง ผมว่าถ้าเป็นแบบนี้คราวหลังน่าจะมีการกำหนดเวลาสำหรับผู้ประท้วง ว่าท่าน และกำหนดจำนวนครั้ง แต่ละคนใช้สิทธิประท้วงได้ทั้งหมดกี่ครั้ง จะได้ประท้วงกันให้น้อยๆลงหน่อย ไม่งั้นเราคงไม่ได้เนื้อหาสาระใดๆ
ผมได้ฟังเก่ง การุณอภิปราย เป็นอะไรที่น้ำเน่าเหลือเกิน เป็นการพยายามสร้างภาพให้ตัวเองดูดีหวังแต่จะหาเสียงอวดอ้างตบตาชาวบ้าน กล้าพูดไม่จริงอย่างไร้ยางอาย เมื่อถูกยันด้วยหลักฐานคลิปภาพและเสียง ส.ส. ฉายาสถุลจอมถีบขึ้นคำพูดกูกับชาวบ้าน เห็นชายคนนี้อภิปราย แล้วอยากจะถอนหายใจยาวสักยี่สิบนาที สันดอนขุดลอกได้ แต่สันดานนั้นขุดลอกไม่ได้จริงๆครับ
ดูจากการแสดงความคิดเห็นในโลกออนไลน์แล้ว หลายๆคนที่ผมรู้จักจะแสดงความคิดเห็นเรื่องนี้ไปในทิศทางเดียวกันคือเบื่อหน่าย เสียเวลา ฟังแล้วไม่ค่อยได้ประโยชน์สาระ
มีบางคนที่ส่งข้อความทางเฟซบุ๊กมาหาผมแล้วบอกว่า “คุณอย่าเสียเวลาดูเลยครับเอาเวลาไปทำอย่างอื่นได้ประโยชน์กว่า”
เห็นแต่ละคลิปที่ ท่าน ส.ส.ทั้งสองฝ่ายเอามาเปิดแฉกันแล้วก็ปวดใจ การถ่ายทอดสดประชุมสภาเป็นเวลาที่ส.ส.แย่งกันฉกฉวยสร้างภาพหาเสียง เอาสีข้างเข้าถูแก้ตัว ชาวบ้านเขารู้เท่าทัน จะมาอ้างว่าที่พ่นสีเรือ เพราะตัวเองไปเบิกมานั้นฟังไม่ขึ้น
ก็ถ้ามันเป็นเรือของภาครัฐ เบิกมาแล้วใช้เสร็จต้องไปคืน วิธียืมและวิธีคืนของ มันยืนยันจากสีที่พ่นชื่อ หรือมันต้องยืนยันด้วยเอกสารทางราชการล่ะครับท่าน ส.ส.
แถมยังพ่นทั้งข้างหน้าหลังข้างนอกข้างใน ชาวบ้านเห็นชื่อ ส.ส.ข้างส้วมยังไม่พอ เข้าไปนั่งถ่ายทุกข์ในส้วมยังต้องทนเห็นชื่อส.ส. ต้องบอกว่า มันช่างทุเรศทุรังจริงๆครับ
ฟัง ส.ส.อรรถวิทย์ พูดเรื่องของบริจาคต่างประเทศ แล้วรู้สึกว่าต่างชาติบริจาคของช่วยไทยเยอะมาก แต่ทำไมชาวบ้านไม่ค่อยเห็น ศปภ. เอาไปใช้ หรือว่าแอบเอาไปใช้กับพรรคพวก หรือเอาไปให้ ส.ส.พรรครัฐบาลทั้งที่สอบได้และสอบตก แอบพ่นสีชื่อตัวเองทับเสีย ถึงของจะเยอะขนาดนั้น แต่มันถูกแปลงโฉมไปเสียหมด จนผู้คนและสื่อต่างๆก็ไม่ได้เห็นผ่านตา
ชาวบ้านเป็นแสนเป็นล้านเดือดร้อนทุกข์ยากแสนสาหัส ผู้ประสบภัยจำนวนมากไม่ได้รับของบริจาค เรื่องเข้าถึงยากส่วนหนึ่งก็เข้าใจ แต่ว่าดูจากปริมาณของที่บริจาคจำนวนมหาศาลที่หลั่งไหลมาจากน้ำใจคนไทยทั่วประเทศ มากมายขนาดนั้น มันก็น่าจะถึงมือประชาชนได้มากกว่านี้ หรืออย่างน้อยตามศูนย์พักพิงก็ไม่น่าจะมีเรื่องของการไม่ได้รับถุงยังชีพ
เหตุผลสำคัญก็มาจาก การทำงานการบริหารจัดการที่ปัญญาอ่อนมั่วชุ่ย ขาดประสิทธิภาพ การเล่นพรรคเล่นพวก การทุจริตคอรัปชั่นโกงกินบนหลังชาวบ้านที่เดือดร้อนทุกข์ยากสาหัสสากรรจ์ ชาวบ้านนับล้านอยู่กับน้ำตาและน้ำเน่าเหม็นมานานหลายเดือน สูญเสียทั้งชีวิต ทรัพย์สิน สิ้นเนื้อประดาตัว
การเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจพลตำรวจเอกประชา พรหมนอก ในฐานะ ผอ.ศปภ.ในสภาคราวนี้ รัฐบาลที่คุมเสียงข้างมากไม่ระคาย ไม่รู้สึกรู้สาอะไรหรอกครับ ยังไงๆมติของที่ประชุมก็ทำอะไรรัฐบาลไม่ได้อยู่แล้ว
เขียนมาถึงตรงนี้ก็ไม่มีอะไรจะบ่นให้ไม่เปลืองน้ำลาย แต่เพื่อความอินเทรนด์ เพราะเดี๋ยวนี้เขาฮิตตั้งศูนย์เพื่อรับของบริจาค ผมว่าจะเปิดศูนย์รับบริจาคน้ำยาบ้วนปาก ยาฆ่าเชื้อ เจลล้างมือ อย่างละประมาณห้าร้อยชุดเพื่อนำไปให้ ส.ส.ไทยคนละหนึ่งชุด นำไปใช้ฆ่าเชื้อชั่วในตัวและนำมาล้างมือเผื่อจะมือสะอาดกันขึ้นมาบ้าง เผื่อจะดีขึ้น
บางหมู่บ้านระดับน้ำยังสูงเป็นเมตร ชาวบ้านไม่สามารถกลับไปอยู่บ้านได้ ยังต้องอาศัยศูนย์อพยพ ส่วนที่น้ำลดพอจะกลับไปอยู่บ้านได้แล้ว ก็ต้องเผชิญกับบ้านที่เต็มไปด้วยโคลนเน่า พื้นบ้าน ผนังข้าวของในบ้านบวมน้ำ เปื่อยยุ่ยขึ้นราไปทั่ว การทำความสะอาด ซ่อมแซมฟื้นฟู ยังต้องใช้เวลา เรี่ยวแรง และเงินทองอีกมาก
การรวมตัวของชาวบ้านในพื้นที่ต่างๆที่ออกมาประท้วงการบริหารจัดการน้ำของ ศปภ. เล่นเอาฝ่ายรัฐบาลปวดกบาลกันไป แต่คนที่รับบทหนักสุด คือพลตำรวจเอก ประชา พรหมนอก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะประธาน ศปภ.
และสุดท้ายประชา พรหมนอก จึงต้องได้รับเกลียดจากรัฐบาลให้เป็นหนังหน้าไฟของ ครม.ปูนิ่ม ในศึกซักฟอกด้วยการอภิปรายไม่ไว้วางใจของ ส.ส.พรรคฝ่ายค้านในสภา เมื่อวันอาทิตย์ 27 พ.ย.ที่ผ่านมา
เนื้อหาสาระก็ยังคงเป็นการสาดโคลนใส่กัน โบ้ยความผิดกันไปมาเหมือนเดิม เพียงแต่คราวนี้พุ่งเป้าไปที่การแก้ไขปัญหาน้ำท่วม อย่างเต็มที่
ฟังการอภิปรายมาครึ่งวัน ก็ยังไม่ได้อะไรขึ้นมาเลยนอกจากการประท้วงกันไปมา ไร้สาระเสียเวลาได้เห็นกิริยามารยาทวาจาของคนที่ใส่สูทแล้วเรียกตัวเองว่าเป็นตัวแทนประชาชน
ผมทนฟังได้ไม่นานหรอกครับของแบบนี้ ตอนแรกก็ว่าจะตั้งใจฟังเต็มที่ แต่ฟังไปฟังมามันกลับน่าอาเจียน สะอิดสะเอียน จนทนไม่ไหว เสียดายอาหารที่ทำและทานเข้าไป
การประชุมสภาผู้แทนราษฎรไทย เป็นสภาที่มีการประท้วงก่อกวนยุบยิบตลอดเวลา ผมว่าน่าจะประท้วงกันเยอะที่สุดในโลก เอะอะอะไรก็ประท้วง การอภิปรายใช้เวลาไปกับการประท้วงไร้สาระมากกว่าเวลาที่ได้พูดเนื้อหาสาระที่เป็นประโยชน์
สรุปแล้วพวกเราประชาชนชาวไทยไม่เห็นจะได้อะไรเลย การที่ท่าน ส.ส. แต่ละคนเอาแต่ยกมือประท้วง ผมว่าถ้าเป็นแบบนี้คราวหลังน่าจะมีการกำหนดเวลาสำหรับผู้ประท้วง ว่าท่าน และกำหนดจำนวนครั้ง แต่ละคนใช้สิทธิประท้วงได้ทั้งหมดกี่ครั้ง จะได้ประท้วงกันให้น้อยๆลงหน่อย ไม่งั้นเราคงไม่ได้เนื้อหาสาระใดๆ
ผมได้ฟังเก่ง การุณอภิปราย เป็นอะไรที่น้ำเน่าเหลือเกิน เป็นการพยายามสร้างภาพให้ตัวเองดูดีหวังแต่จะหาเสียงอวดอ้างตบตาชาวบ้าน กล้าพูดไม่จริงอย่างไร้ยางอาย เมื่อถูกยันด้วยหลักฐานคลิปภาพและเสียง ส.ส. ฉายาสถุลจอมถีบขึ้นคำพูดกูกับชาวบ้าน เห็นชายคนนี้อภิปราย แล้วอยากจะถอนหายใจยาวสักยี่สิบนาที สันดอนขุดลอกได้ แต่สันดานนั้นขุดลอกไม่ได้จริงๆครับ
ดูจากการแสดงความคิดเห็นในโลกออนไลน์แล้ว หลายๆคนที่ผมรู้จักจะแสดงความคิดเห็นเรื่องนี้ไปในทิศทางเดียวกันคือเบื่อหน่าย เสียเวลา ฟังแล้วไม่ค่อยได้ประโยชน์สาระ
มีบางคนที่ส่งข้อความทางเฟซบุ๊กมาหาผมแล้วบอกว่า “คุณอย่าเสียเวลาดูเลยครับเอาเวลาไปทำอย่างอื่นได้ประโยชน์กว่า”
เห็นแต่ละคลิปที่ ท่าน ส.ส.ทั้งสองฝ่ายเอามาเปิดแฉกันแล้วก็ปวดใจ การถ่ายทอดสดประชุมสภาเป็นเวลาที่ส.ส.แย่งกันฉกฉวยสร้างภาพหาเสียง เอาสีข้างเข้าถูแก้ตัว ชาวบ้านเขารู้เท่าทัน จะมาอ้างว่าที่พ่นสีเรือ เพราะตัวเองไปเบิกมานั้นฟังไม่ขึ้น
ก็ถ้ามันเป็นเรือของภาครัฐ เบิกมาแล้วใช้เสร็จต้องไปคืน วิธียืมและวิธีคืนของ มันยืนยันจากสีที่พ่นชื่อ หรือมันต้องยืนยันด้วยเอกสารทางราชการล่ะครับท่าน ส.ส.
แถมยังพ่นทั้งข้างหน้าหลังข้างนอกข้างใน ชาวบ้านเห็นชื่อ ส.ส.ข้างส้วมยังไม่พอ เข้าไปนั่งถ่ายทุกข์ในส้วมยังต้องทนเห็นชื่อส.ส. ต้องบอกว่า มันช่างทุเรศทุรังจริงๆครับ
ฟัง ส.ส.อรรถวิทย์ พูดเรื่องของบริจาคต่างประเทศ แล้วรู้สึกว่าต่างชาติบริจาคของช่วยไทยเยอะมาก แต่ทำไมชาวบ้านไม่ค่อยเห็น ศปภ. เอาไปใช้ หรือว่าแอบเอาไปใช้กับพรรคพวก หรือเอาไปให้ ส.ส.พรรครัฐบาลทั้งที่สอบได้และสอบตก แอบพ่นสีชื่อตัวเองทับเสีย ถึงของจะเยอะขนาดนั้น แต่มันถูกแปลงโฉมไปเสียหมด จนผู้คนและสื่อต่างๆก็ไม่ได้เห็นผ่านตา
ชาวบ้านเป็นแสนเป็นล้านเดือดร้อนทุกข์ยากแสนสาหัส ผู้ประสบภัยจำนวนมากไม่ได้รับของบริจาค เรื่องเข้าถึงยากส่วนหนึ่งก็เข้าใจ แต่ว่าดูจากปริมาณของที่บริจาคจำนวนมหาศาลที่หลั่งไหลมาจากน้ำใจคนไทยทั่วประเทศ มากมายขนาดนั้น มันก็น่าจะถึงมือประชาชนได้มากกว่านี้ หรืออย่างน้อยตามศูนย์พักพิงก็ไม่น่าจะมีเรื่องของการไม่ได้รับถุงยังชีพ
เหตุผลสำคัญก็มาจาก การทำงานการบริหารจัดการที่ปัญญาอ่อนมั่วชุ่ย ขาดประสิทธิภาพ การเล่นพรรคเล่นพวก การทุจริตคอรัปชั่นโกงกินบนหลังชาวบ้านที่เดือดร้อนทุกข์ยากสาหัสสากรรจ์ ชาวบ้านนับล้านอยู่กับน้ำตาและน้ำเน่าเหม็นมานานหลายเดือน สูญเสียทั้งชีวิต ทรัพย์สิน สิ้นเนื้อประดาตัว
การเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจพลตำรวจเอกประชา พรหมนอก ในฐานะ ผอ.ศปภ.ในสภาคราวนี้ รัฐบาลที่คุมเสียงข้างมากไม่ระคาย ไม่รู้สึกรู้สาอะไรหรอกครับ ยังไงๆมติของที่ประชุมก็ทำอะไรรัฐบาลไม่ได้อยู่แล้ว
เขียนมาถึงตรงนี้ก็ไม่มีอะไรจะบ่นให้ไม่เปลืองน้ำลาย แต่เพื่อความอินเทรนด์ เพราะเดี๋ยวนี้เขาฮิตตั้งศูนย์เพื่อรับของบริจาค ผมว่าจะเปิดศูนย์รับบริจาคน้ำยาบ้วนปาก ยาฆ่าเชื้อ เจลล้างมือ อย่างละประมาณห้าร้อยชุดเพื่อนำไปให้ ส.ส.ไทยคนละหนึ่งชุด นำไปใช้ฆ่าเชื้อชั่วในตัวและนำมาล้างมือเผื่อจะมือสะอาดกันขึ้นมาบ้าง เผื่อจะดีขึ้น