ช่วงวันหยุดที่ผ่านมาผมได้มีโอกาสเดินทางไปที่อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ที่บูมมาสักพักหนึ่งแล้ว และมีนักท่องเที่ยวเข้าไปพักผ่อนกันเป็นจำนวนมาก
การไปเที่ยวสวนผึ้งของผมในระยะนี้ ทำให้เปิดมุมมองใหม่เกี่ยวกับจังหวัดราชบุรีของผมไปมากทีเดียว ต้องยอมรับเลยว่าจังหวัดราชบุรีก่อนหน้านี้ ผมมองว่าเป็นเพียงจังหวัดทางผ่าน เพื่อขับรถไปหัวหิน หรือชะอำเท่านั้น
ราชบุรีเมืองโอ่งมังกร ไม่มีอะไรเด่นมากไปกว่านั้น นั่นคือในความรู้สึกของผมเมื่อก่อน
แต่สองสามเดือนที่ผ่านมา การได้แวะเที่ยวหลายๆที่ในจังหวัดราชบุรี ทำให้ผมได้พบกับศิลปวัฒนธรรม ชุมชน วิถีชีวิตชาวบ้าน ตลาดโบราณริมแม่น้ำแม่กลอง อาหารอร่อยๆ และธรรมชาติความสวยงามของท้องทุ่งป่าเขาในยามที่เมฆอุ้มฝน ป่าชุ่มน้ำ เขียวสดชื่นดีจริงๆ
หลังจากที่เคยผ่านทางมาหลายครั้ง ผมมีโอกาสได้แวะดูการสร้างสรรค์งานปั้นและเซรามิค ของร้านเถ้าฮงไถ่ ซึ่งเป็นร้านเก่าแก่ที่ทำโอ่งมังกร มีชื่อเสียงโด่งดัง จนราชบุรีเป็นเมืองโอ่งได้อย่างเต็มปากเต็มคำ
เถ้าฮงไถ่ยุคคนหนุ่มรุ่นใหม่ไฟแรง ได้สืบสานกิจการของครอบครัว และพัฒนาต่อยอดมาเป็นแหล่งผลิตสร้างสรรค์งานปั้นและเซรามิคด้วยศิลปะโมเดิร์นอาร์ต ที่งดงามและมีคุณภาพน่าประทับใจ ด้วยฝีมือและการสร้างสรรค์ของรุ่นลูกหลาน อย่างคุณพี่ติ้ว หรือคุณวศินบุรี สุพานิชวรภาชน์ ทายาทของตระกูลที่สำเร็จการศึกษาจากประเทศเยอรมันและกลับมาร่วมกิจกรรมทางสังคม เขาปรับปรุงเรือนไม้สถาปัตยกรรมโบราณผสมตะวันตกแต่ครั้งรัชกาลที่ห้า จัดตั้งหอศิลป์ร่วมสมัย ที่เรียกว่า เถ้าฮงไถ่ดีคุนสท์ (Tao Hong Tai d Kunst ; ภาษาเยอรมันหมายถึง ศิลปะ)
หลังจากได้เยี่ยมชมผลงานศิลปะและมีโอกาสได้คุยกับคุณพี่ติ้วแล้ว ต้องคารวะความสามารถ ความคิดสร้างสรรค์ ความมุ่งมั่นเพื่อรักษาวัฒนธรรมของเมืองราชบุรี และการทำกิจกรรมเพื่อสังคมและชุมชน เป็นลูกหลานที่น่าภาคภูมิใจของชาวราชบุรี เดี๋ยวนี้ ผมผ่านราชบุรีทีไร ยัง คิดถึงเถ้าฮงไถ่และหอศิลปะdKunst ทุกครั้ง อยากแวะไปเยี่ยมชมและให้กำลังใจกิจกรรมดีๆ
พ่อแม่พี่น้องผ่านราชบุรี ลองแวะเถ้าฮงไถ่นะครับ อยู่ตรงถนนเพชรเกษม จากกรุงเทพฯอยู่ฝั่งซ้ายมือ ใกล้สี่แยกที่จะเลี้ยวไปสวนผึ้งนั่นแหละครับ ท่านสามารถชื่นชม หรือซื้อหางานศิลปะมาเป็นของใช้ในบ้าน ตกแต่งบ้าน หรือสวน ได้ครับ
ถ้าจะไปที่ dKunst ก็ขับรถเข้าในเมือง ถึงถนนวรเดช ริมแม่น้ำแม่กลอง มองไปไม่ไกลเห็นสะพานจุฬาลงกรณ์เป็นทางรถไฟข้ามแม่น้ำแม่กลอง ถ้ารถไฟวิ่งผ่านมาบนสะพานรีบกดกล้องให้ทัน คุณผู้อ่านจะได้รูปภาพฝีมือตัวเองที่ต้องภูมิใจไปอีกนานเชียวครับ ที่นี่เปิดให้ชมวันพุธ-วันอาทิตย์ เวลา 10 โมงเช้า ถึงหนึ่งทุ่ม เรียกว่าเลือกแวะได้ทั้งช่วงเช้าและค่ำได้เลยครับ แล้วจะเลือกแวะตอนขาไปหรือขากลับกรุงเทพฯก็สะดวก ห่างกรุงเทพฯแค่ชั่วโมงเดียวเท่านั้น
แถมยังมีอาหารอร่อยๆให้แวะทานมื้อเที่ยงหรือมื้อเย็นก็ได้ ใครชอบก๋วยเตี๋ยวก็แวะทานก๋วยเตี๋ยวไข่ต้มยำอร่อยๆ หรือจะเลือกบะหมี่ก๋ำเช้ง ในตัวเมือง ตามด้วยกาแฟโบราณเข้มข้นและเค้กโอ่งที่ร้านอาตี๋ โกปี๊ แค่นี้ก็เที่ยวในตัวเมืองราชบุรีได้อิ่มอร่อยถูกใจแล้วหละครับ
ถ้ามีเวลาเพิ่มอีกสักชั่วโมงสองชั่วโมง ก็อยากให้ท่านผู้อ่านลองแวะไปที่เจ็ดเสมียน มีตลาดโบราณอยู่ติดกับสถานีรถไฟเจ็ดเสมียน กับแม่น้ำแม่กลอง มีตลาดนัดเฉพาะวันเสาร์อาทิตย์สิ้นเดือนเท่านั้นนะครับ
จากตลาดเจ็ดเสมียน ขับรถไปราวสองกิโลเมตรมีสวนศิลป์บ้านดิน ที่ครูเล็ก ภัทราวดี และครูมานพ มีจำรัสมาทำบ้านดินและจัดกิจกรรม สวนศิลป์บ้านดินเป็นการนำเอาศิลปะหลายๆ แขนงรวม เข้าด้วยกัน ทั้งภาพวาดสวยๆ งานปั้นเท่ห์ๆ และการแสดงที่งดงาม เรียกได้ว่าถ้าใครรักงานศิลปะต้องแวะมาที่นี่เลยทีเดียว รับรองความคุ้มค่าเลยครับ
ในวันเสาร์อาทิตย์ยังมีศิลปะการแสดงและดนตรีเป็นระยะๆ ช่วงนี้มีการแสดงเรื่องพระสุธน มโนราห์ ในหัวข้อ พันธนาการ ความรัก ผลงานของศิลปินกลุ่มนี้เป็นการตีความด้วยทัศนะมุมมองที่แปลกใหม่ ไม่ธรรมดาแน่นอนครับ
การแสดงมีตอนค่ำครับ ที่นี่ยังมีบริการบ้านพัก บ้านดินติดแอร์ บ้านไม้ไผ่ไม่ติดแอร์ สวยเก๋น่ารักในบรรยากาศอบอวลกลิ่นไอศิลปะให้พักในราคาไม่แพง นอนเสพงานศิลป์จนหนำใจได้อย่างแน่นอน ไปแล้วติดใจอยากไปอีกเลยหละครับ
ที่ว่ามานี่ เป็นเพียงบางจุดที่แวะไปเยี่ยมชมง่ายๆ แยกออกไปจากทางหลวงหมายเลขสี่ หรือถนนเพชรเกษมเพียงไม่กี่นาทีเท่านั้นครับ
ถ้าตั้งใจจะไปให้ถึงสวนผึ้ง หรือมีเวลาพักค้างคืน เส้นทางราชบุรีถึงสวนผึ้ง ขับรถเดี๋ยวเดียว ราวหนึ่งชั่วโมงก็ถึงแล้วครับ มีที่พักสวยๆให้เลือกพัก เลือกเที่ยวอีกหลายที่
ที่ผมอยากแนะนำ เช่นที่สวิส วัลเลย์ หลายคนอาจจะจำได้ฉากสวยจากละครเรื่องหนึ่งของช่องสาม มีมุมถ่ายรูปสวยๆ บ้านพักตกแต่งประณีตทุกมุมเลยครับ ขึ้นไปนอนชมเดือนนับดาวบนระเบียงดาดฟ้า บรรยากาศสุดวิเศษเลยครับ ถ้าใครที่ชอบการพักผ่อนที่เป็นส่วนตัวมากๆ แถมยังสนุกกับหลากหลายกิจกรรมที่ทางรีสอร์ทจัดให้ ทั้งให้อาหารแกะ ขี่ม้า ขี่จักรยาน รวมไปถึงยิงธนู ห้องซาวน่า สระว่ายน้ำ อาหารอร่อยๆ ที่ทางรีสอร์ทจัดให้รองรับคนทุกเพศทุกวัยครบครันเลยครับ
นักท่องเที่ยวจำนวนมาก เลือกจะมาซื้อบัตรเข้าไปเลี้ยงแกะที่ซีนเนอร์รี รีสอร์ท ได้สัมผัสใกล้ชิดฝูงแกะตัวอ้วนกลมขนฟูขาวน่ารัก ร้านอาหารหน้ารีสอร์ทแห่งนี้มี เมนูอร่อยที่คุณแม่ผมแนะนำคือสลัด เมดิเตอร์เรเนียน จานใหญ่ กุ้งสดกับผักสลัดและมะลูกมะกอกดำอร่อยมากๆครับ
พักนี้มีข่าวรื้อถอนรีสอร์ทหลายแห่งในจังหวัดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว เพราะก่อสร้างกันในพื้นที่บุกรุกอุทยานแห่งชาติ รีสอร์ทส่วนผึ้งที่ดำเนินการอยู่ตอนนี้ ส่วนใหญ่เป็นที่เช่าจากกรมธนารักษ์ นักท่องเที่ยวสามารถไปพักได้โดยไม่ต้องกังวลตะขิดตะขวงใจ
มีรีสอร์ทเปิดใหม่ที่ผมแวะไปทานอาหารและได้คุยกับเจ้าของเป็นสถาปนิกคนหนุ่มสาว กับคุณแม่ ช่วยกันดูแลชื่อพาโนซ่า(มาจากคำว่า พาโนรามา พลาซ่า) สวยมากครับ สามารถมองวิวได้รอบทิศ มีหอคอยสูงสามชั้น มีบันได ระเบียง ทางเดิน ตกแต่งด้วยงานศิลปะ ทั้งงานปั้น งานเพนท์ น่าถ่ายรูปเกือบทุกมุมเลยครับ
อาหารก็อร่อย คุณพี่ที่เป็นสถาปนิกยังชอบทำขนมและไอศกรีมโฮมเมด อร่อยมากๆครับ มีหลายรสให้เลือก ทั้งชา กาแฟ ช็อกโกแลต สตรอเบอรี เป็นไอศครีมหอมเข้มข้นทำสดใหม่ทุกวัน ใส่ถ้วยเล็กๆซื้อมานั่งทานชมวิวรอบตัวก็ได้ หรือซื้อมาทานในรถเย็นชื่นใจคลายร้อนก็ได้ครับ
ที่สำคัญคุณแม่เจ้าของรีสอร์ทมีผลไม้ที่อร่อยสุดยอดไว้แนะนำลูกค้า ด้วยความที่เป็นนักทานผลไม้ จึงสามารถเลือกผลไม้คุณภาพดีที่สุดจากสวนในสวนผึ้ง ส่งตรงมาจำหน่ายที่นี่ ผมได้ชิมกระท้อนที่อร่อยที่สุดเท่าที่เคยทาน ฝรั่งพันธุ์กิมจูกรอบหวานเพิ่งปลิดจากต้นมาใหม่ๆ อย่าลืมมาพักหรือแวะชมและรับประทานของอร่อยๆนะครับ
ราชบุรียังมีของดีอีกมาก แต่มักกระจายอยู่ ต้องขยันแวะจึงจะได้เที่ยวชมให้ทั่วถึง ยังมีแหล่งโบราณคดี พิพิธภัณฑ์อีกเกือบยี่สิบแห่ง มีกลุ่มคนในราชบุรี ถึง 9 ชาติพันธ์ ซึ่งมีประวัติศาสตร์วัฒนธรรมวิถีชีวิตที่น่าสนใจมาก เช่น มอญ กะเหรี่ยง ไทยยวน ลาวโซ่ง ลาวตี้ เขมร ฯลฯ มีวัฒนธรรมประเพณีเด่นๆ เช่น การทอผ้า งานสงกรานต์ของมอญในเดือนเมษายน พิธีทำขวัญกินข้าวห่อของกระเหรี่ยงในเดือนเก้า เป็นต้น
ที่น่าสังเกตคือจังหวัดราชบุรี มีความหลากหลาย ผสมผสานวัฒนธรรมหลายชาติพันธุ์ มีความประสมกลมกลืนศิลปะสมัยใหม่และศิลปะโบราณ น่าทึ่งมากทีเดียว
อนาคตการท่องเที่ยวในจังหวัดราชบุรียังมีโอกาสพัฒนาขยายก้าวไกลไปได้อีกมาก มีของดีที่คนทั่วไปยังไม่ได้รับรู้ ยังไม่มีโอกาสได้สัมผัส การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หน่วยงานภาครัฐ ที่สำคัญภาคเอกชน ชุมชน และชาวบ้านน่าจะได้รับการสนับสนุนส่งเสริมจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน
ถ้ามีการสนับสนุนอย่างจริงจัง ทำราชบุรีให้เป็นเมืองแห่งศิลปะได้ไม่ยากนัก เรื่องนี้ก็อยู่ที่ความร่วมมือของคนหลายๆฝ่าย และทั้งหมดนี้อยู่ในมือของชาวราชบุรีแล้วครับ
ผมอยากให้คนไทย ช่วยกันเที่ยวเมืองไทย เพื่อเป็นกระจายรายได้ และเงินทองไม่ไหลออกนอกประเทศ แต่ที่สำคัญการท่องเที่ยวควรสร้างคุณประโยชน์ต่อคุณภาพชีวิตของประชาชน ชุมชน และสังคมโดยส่วนร่วม ไม่ใช่การท่องเที่ยวที่ทำลายวัฒนธรรม วิถีชีวิต และธรรมชาติ
นี่เป็นแค่ส่วนหนึ่งของสถานที่กิน ที่เที่ยว ในจังหวัดราชบุรี ที่ผมนำมาเล่าสู่กันฟัง พูดได้เลยนะครับว่าหากคุณมีโอกาสลองเที่ยวราชบุรีแล้วละก็ จังหวัดนี้ก็จะไม่เป็นเพียงแค่ทางผ่านอีกต่อไป