xs
xsm
sm
md
lg

ทั้งรักทั้งชังมอบแด่รัฐมนตรีสุวิทย์ คุณกิตติ

เผยแพร่:   โดย: บัณรส บัวคลี่

ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณรัฐมนตรีสุวิทย์ คุณกิตติ ที่ตัดสินใจประกาศถอนตัวจากอนุสัญญาภาคีมรดกโลก UNESCO นี่เป็นการตัดสินใจที่รอบคอบไม่สุ่มเสี่ยง เพราะภาคีมรดกโลกจะกลับไปเป็นเมื่อไหร่ก็ได้แต่ข้อพิพาทที่อยู่ระหว่างกระบวนการพิจารณาในศาลโลกรอไม่ได้..สิ่งใดที่อาจจะไปเอื้อให้อีกฝ่ายได้ประโยชน์เราก็ต้องตัดออกไป นี่เป็นการตัดสินใจบนพื้นฐานผลประโยชน์ชาติโดยตรงที่ต้องชมเชย

ขอเรียนท่านรัฐมนตรีว่าท่านได้คะแนนเพิ่มแน่นอนเพราะคนไทยไม่น้อยหมั่นไส้ฮุนเซนเหลือกำลังโดยเฉพาะในช่วงปะทะกันหลัง ๆ ที่ดูออกชัดเจนว่าประสงค์จะรบเพื่อให้เกิดเรื่องร้องเรียน

สำหรับผมเองก็ร่ำ ๆ จะตัดสินใจกาให้พรรคของท่านในวันที่ 3 ก.ค.ที่จะมาถึง แต่เมื่อได้ชั่งน้ำหนักทบทวนย้อนกลับไปดูว่ารัฐมนตรีสุวิทย์ได้ทำอะไรมาบ้างในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ก็ยังลังเลตัดสินใจไม่เด็ดขาดเสียที..ประมาณอารมณ์ว่าทั้งรักทั้งชังหงะครับท่าน

เพราะเมื่อย้อนทบทวนดูได้พบว่ามีเรื่องที่น่าจดจำและยกย่องอยู่อีกเรื่องหนึ่งนั่นคือการคัดค้านการตัดต้นไม้ขยายถนนที่เขาใหญ่ซึ่งเมื่อมาหักลบกับที่บริหารกิจการกระทรวงดูแลปกป้องทรัพยากรฯ ด้วยการปรับเปลี่ยนบทบาทของรองปลัดฯ ดำรงค์ พิเดชให้กลับมากำกับงานป่าไม้ทั้ง ๆ เจ้าตัวมีครหามีเรื่องร้องเรียนว่ารุกป่าอยู่กับ ป.ป.ช.แล้วก็เลื่อนชั้นตำแหน่งเครือข่ายดังกล่าวขึ้นมาโดยมันทำใจยอมรับยาก

ประเด็นที่เจ็บปวดที่สุดก็คือการผลงานการกำกับองค์การสวนสัตว์ ปล่อยให้สวนสัตว์เชียงใหม่ทำโครงการก่อสร้างอาคารแสดงสัตว์เมืองหนาวเอาหมีขั้วโลกมาอยู่มูลค่าอาคาร(อย่างเดียว) 72 ล้านบาท ยังไม่รวมงบจัดหาสัตว์ งบส่งบุคลากรไปฝึกในนามของโครงการวิจัยเพื่อการอนุรักษ์และช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม

เรื่องนี้นักอนุรักษ์เขาออกมาคัดค้านกันแล้วว่ามันไม่เหมาะที่จะเอาสัตว์เมืองหนาวมาทรมาน ซึ่งขอเรียนตามตรงว่าผมเองก็ไม่ได้รักสัตว์ป่ามากมายอะไรขนาดนั้น ยังไง ๆ เราก็รักตัวเองมากกว่าเจ้าหมีขั้วโลกและด้วยความรักตัวเองดังกล่าวผมจึงทนไม่ได้ที่องค์การของรัฐเอาเงินภาษีของเรามาปู้ยี่ปู้ยำ ใช้วิธีการโกหกหลอกลวงยกแม่น้ำทั้ง 5 แบบทุเรศ ๆ อ้างว่าการเอาหมีขาวขั้วโลกมาเลี้ยงเพื่อการอนุรักษ์และเพื่อแก้ปัญหาโลกร้อน (โธ่ว้อย คนไทยไม่ใช่ควายนาโว้ย) ผมเห็นเอกสารที่เกี่ยวข้องชิ้นนี้ตลอดถึงคลิปวีดิโอพีอาร์ของสวนสัตว์ทีไร อดของขึ้นไม่ได้ มันไม่มีปัญญาอ้างเหตุผลอื่นกันแล้วหรือไรที่ต้องอ้างโลกร้อน อ้างการอนุรักษ์สวย ๆ

ขอให้รัฐมนตรีสุวิทย์รู้ไว้ด้วยว่าผลการกำกับการบริหารราชการของท่านจึงเกิดการพยายามเอาหมีขั้วโลกมายัดใส่อาคารติดแอร์แล้วป่าวประกาศว่าโครงการนี้เพื่อแก้โลกร้อน..ท่านรัฐมนตรีผ่านโลกมามาก เคยเห็นโครงการที่มีเหตุผลทุเรศ ๆ กว่านี้อีกไหม? ด้วยเหตุผลที่พอเริ่มต้นก็โกหกประชาชนแล้ว

ท่านรัฐมนตรีทราบหรือไม่ว่าฝ่ายที่เชียร์บางคนเป่าหูชาวบ้านหยั่งกะหมีขาวจะมาเป็นดาราแทนแพนด้า โธ่ฝรั่งที่ไหนจะมาดูเพราะบ้านเขาก็มี คนสิงคโปร์บินตรงมาดูแพนด้าแต่เขาไม่ดูหมีขาวหรอกเพราะสวนสัตว์บ้านเขาก็มี เจ้าหมีขาวที่กรุงเทพฯ ก็มีให้ดู ดังนั้นโครงการนี้ก็แค่การขายความหนาวเย็นภายในอาคารที่ตกแต่งเหมือนขั้วโลกไว้ให้คนไทยเข้าไปสัมผัสเท่านั้นเอง มันก็แค่การเสริม Outlet ที่ลงทุนแพงบรรลัย

ความเสี่ยงในการลงทุนระดับ 100 ล้านมันก็เสี่ยงเอาการ-ท่านว่าไหม? (ถ้าแพนด้าก็ว่าไปอย่าง)

ผมทราบว่าตอนนี้ได้มีการเปลี่ยนแปลงผู้บริหารสวนสัตว์ ท่านรัฐมนตรีได้แต่งตั้งผ.อ.คนใหม่แทนนายโสภณ ดำนุ้ยที่ไปอยู่กับพรรคชาติพัฒนาฯ ของท่านสุวัจน์ ลิปตพัลลภแล้ว และยังมีการแต่งตั้งบอร์ดใหม่ที่ใกล้ชิดกับท่านรัฐมนตรีอีก.. ยังไงเสียหากกิจสังคมได้มาสัก 3-4 เสียงโอกาสที่จะเข้าร่วมรัฐบาลใหม่ก็ยังมี ยังจะทำให้ท่านรัฐมนตรีสุวิทย์มีอิทธิพลเหนือองค์การสวนสัตว์อยู่ระยะใหญ่ สามารถจะตัดสินใจปรับเปลี่ยนแก้ไขปัญหาที่เกิดได้ต่อไป

เรียนท่านรัฐมนตรีตรง ๆ ครับว่าพอมาถึงตรงนี้ก็ตัดสินใจยากอีกเพราะใจหนึ่งก็อยากให้กิจสังคมได้เสียงมากพอเพื่อกลับไปจัดการสิ่งที่คาราคาซังให้เสร็จ .. จะเลือกดีหรือไม่ดีก้ำ ๆ กึ่ง ๆ ?

ท่านรัฐมนตรีทราบหรือไม่ว่าตอนที่ท่านยังทำหน้าที่เรื่องมรดกโลกอยู่โน่น ทางเชียงใหม่เกิดมีม็อบคนเสื้อแดงรถแดงยกขบวนไปสนับสนุนให้สวนสัตว์เชียงใหม่เอาหมีขาวมาเลี้ยงเหมือนเดิม นัยว่าเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว คนบางคนในม็อบยังประกาศจะขับไล่ ผ.อ.สวนสัตว์คนใหม่ด้วยซ้ำหากบังอาจไปทบทวนโครงการนี้ ที่จริงใครจะอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้คงหาตัวกันไม่ยากหรอก การไปเป่าหูชาวบ้านว่านี่คือโครงการแม่เหล็กส่งเสริมการท่องเที่ยวน่ะแท้จริงมันส่งเสริมได้แค่ไหนเพราะสวนสัตว์ไม่เคยมีการคำนวณผลความคุ้มค่าการลงทุนในเชิงเศรษฐศาสตร์อย่างจริงจัง หมีขาวที่ประเทศไหนก็มี เมืองไทยก็มีที่ซาฟารีเวิลด์ มีช่วงหนึ่งเอาลูกหมีขาวมาโปรโมตใหญ่โตแต่ก็ไม่มีกระแสตอบรับ ไม่เห็นคนกรุงเทพฯ ดั้นด้นไปดูกันเลย

-ถ้าสวนสัตว์ตอบว่าลงทุน 100 ล้านแล้วจะได้รับกำไรกลับคืนภายในกี่ปี จำนวนกี่บาทได้อย่างเต็มปากเต็มคำมีผลศึกษารับรองได้ก็เป็นเรื่องหนึ่ง สรุปได้ว่าคือการหาทางใช้งบประมาณโดยไม่ต้องมารับผิดชอบเรื่องความคุ้มค่า เพียงแค่หาข้ออ้างเหตุผลสวย ๆ มารองรับ แค่นั้นเอง

-ถ้าสวนสัตว์ตอบว่าเอาหมีมาแล้วกิจกรรมนี้สามารถช่วยอนุรักษ์ช่วยลดโลกร้อนได้ก็ยังคุยกันได้แต่นี่มีคนบอกว่าทีห้างสรรพสินค้าก็ใช้แอร์มากกว่าเลย ..(ธ่อโว้ย ! ถ้าตอบอย่างนี้แล้วเจือกอ้างเหตุผลในโครงการว่าแก้โลกร้อนไปหาพระแสงของ้าวทำไมกัน)

เรื่องเหล่านี้แหละครับที่ผมยังติดใจในการกำกับราชการของท่านรัฐมนตรี เอาล่ะครับพยายามจะเข้าใจว่าสวนสัตว์เขาก็มีอิสระอยู่พอสมควรที่จะดำเนินการของตนเองผ่านบอร์ดของตนเอง รัฐมนตรีไม่ได้เกี่ยวอะไรมากมาย ขนาดขอให้มีสวนสัตว์ขอนแก่น อดีต ผ.อ.โสภณยังไม่ตอบสนองเต็มเลย เรื่องก่อสร้าง 72 ล้านบาทนี้ก็เหมือนกัน !!#??

ไหน ๆ เจ้าของโครงการตัวจริงอย่างอดีต ผ.อ.โสภณก็ไปเป็นนักการเมืองแล้ว ตอนนี้สวนสัตว์ก็เหลือเพียงแต่คนใกล้ชิดของท่านรัฐมนตรีไม่ว่า ผ.อ.ภิมุข สิมะโรจน์ หรือบอร์ดใหม่ที่เพิ่งแต่งตั้งมาบริหารกิจการดูแลทรัพย์สินของรัฐแทนประชาชน

ขอร้องท่านรัฐมนตรีผ่านช่องทางนี้สักเสียงหนึ่งเถอะครับว่าท่านจะแก้ปัญหาเรื่องโครงการหมีขั้วโลก(บังหน้า)ที่สวนสัตว์เชียงใหม่บนพื้นฐานของข้อมูลที่สมเหตุสมผล ใช้เงินภาษีของประชาชนให้บังเกิดประโยชน์สูงสุด

ถ้าท่านรับปาก ! ผมก็จะเปลี่ยนใจไม่โหวตโน

จึงเรียนมาด้วยความเคารพและด้วยอารมณ์รักชังผสมปนเปจนแยกไม่ออก

ผมเอง- ผู้มีในมือ 1 เสียงถ้วน
กำลังโหลดความคิดเห็น