แม้ยังไม่มีการเลือกตั้ง แต่การหาเสียงก็เข้มข้นมาก และว่าไปแล้วก็ยากที่จะรู้ว่าพรรคไหนจะได้ ส.ส.มากน้อยเท่าไรในการเลือกตั้งที่จะมาถึง
แต่พิจารณาจากโพลทุกสำนักในเวลานี้ ก็เห็นแนวโน้มชัดเจนว่าพวกสำนักโพลล้วนฟันธงแล้วว่า พรรคเพื่อไทยซึ่งนำมาทุกพรรคจะชนะเลือกตั้งได้เสียงข้างมากมาเป็นรัฐบาลแน่
ไม่ว่าจะเป็นเอแบคโพล สวนดุสิตโพล นิด้าโพล ม.กรุงเทพโพล ม.อัสสัมชันโพล หรือโพลอื่นๆ อีกสองสามแห่ง ต่างก็บ่งชี้ว่าพรรคใหญ่อย่างประชาธิปัตย์ไม่มีทางที่จะชนะพรรคเพื่อไทยได้
คนอีกพวกหนึ่งที่ฟันธงเหมือนกันคือ สำนักหมอดูดังๆ หลายสำนักที่ดูดวงดาวและอาศัยโหราศาสตร์แล้ววิเคราะห์ว่า เส้นทางดาวเมืองกับเพื่อไทยไปด้วยอย่างสวยและโอกาสที่พรรคนี้จะมาเป็นรัฐบาลมีมากกว่าพรรคอื่นหลังการเลือกตั้ง
ส่วนยิ่งลักษณ์จะมีโอกาสเป็นนายกรัฐมนตรีหญิงสมใจหรือไม่ก็เห็นต่างๆ กันไป เพราะเวลานี้เคราะห์ร้ายถูก “หมอตุลย์” หรือ น.พ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ แห่งเครือข่ายพลเมืองอาสาปกป้องแผ่นดิน ฟ้องในข้อหาให้การเท็จกรณีซื้อหุ้นอยู่
จริงๆ แล้วยิ่งโดนแบบนี้ ยิ่งลักษณ์กลับได้คะแนนสงสารไปทั่วประเทศ เพราะดูเหมือนถูกรังแกหรือโดนกลั่นแกล้งดิสเครดิตกัน
บ้างก็ว่าเพราะคะแนนเธอนำโด่งจึงโดนทำลายแบบนี้
กลับมามองด้านการหาเสียงบ้าง การประเมินทั่วๆไป ทุกพรรคการเมืองไม่ได้ลงพื้นที่กว้างขวางหรือลงรากเท่าพรรคเพื่อไทย นี่เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้กระแสพรรคนี้มาแรง ส่งผลให้การสำรวจโพลดีกว่าพรรคอื่นๆ พรรคเพื่อไทยทำงานได้ผลดีในภาคเหนือและหลายจังหวัดในภาคอีสาน รวมทั้งในกทม.หลายเขต พรรคประชาธิปัตย์มี ส.ส.คุณภาพในกทม.หาเสียงโปรยแผ่นพับติด
โพสเตอร์กว้างขวางในกทม.เช่นกัน และครองพื้นที่ในภาคใต้ดังเดิม ภูมิใจไทยได้คะแนนในอีสานใต้
เมื่อภาพรวมเป็นเช่นนี้ ทำให้เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่มีหลายสำนักของสื่อวิเคราะห์ว่า เพื่อไทยมีแนวโน้มที่จะชนะเลือกตั้งในรอบแรกของการหาเสียงครั้งนี้
บวกกับการที่สื่อเปิดเผยอย่างโจ่งแจ้งว่า นอกเหนือจากเพื่อไทยและพรรคประชาธิปัตย์แล้วพรรคอื่นๆ ล้วนเป็น “ไม้ประดับ” เท่านั้น ก็หมายความว่าการเลือกตั้งคราวนี้ พรรคอื่นๆ แทบไม่มีความหมาย รอเป็นพรรคเข้าร่วมเท่านั้น
ยิ่งมีการจับคู่ระหว่างเพื่อไทยกับชาติไทยพัฒนาและชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดินเข้าด้วยกัน ก็หมายความแบบฟันธงว่า จะมีรัฐบาลที่มีแกนนำเป็นเพื่อไทยนั่นเอง
และมีการพูดกันมากแล้วว่า พรรคประชาธิปัตย์จะไปเป็นฝ่ายค้านค่อนข้างแน่นอนแล้ว
จริงอยู่ที่การประเมินแบบฟันธงนี้ เป็นการมองกันในช่วงแรกของการหาเสียงเท่านั้น และเป็นการมองตามกระแสที่พรรคเพื่อไทยมาแรงด้วยปัจจัยต่างๆ ตามที่ระบุมาแล้ว
แต่ก็นั่นแหละมีการให้เบาะแสว่า แม้เพื่อไทยจะมาแรงแค่ไหน แต่ก็อาจมีแรงต้านจากปัจจัยอื่นๆ หรืออำนาจที่มองไม่เห็น ไม่ยินยอมให้พรรคเพื่อไทยขึ้นมาเป็นรัฐบาล อำนาจนี้อาจเป็นอำนาจทหารก็ได้ เพราะเหตุนี้ ถ้าเพื่อไทยไม่สามารถขึ้นมาเป็นรัฐบาล ประชาธิปัตย์ก็อาจต้องจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย
เว้นแต่เพื่อไทยจะชนะขาดลอยชนิดถล่มทลายจริงๆ จนเห็นชัด ยากที่มีอำนาจใดมาทานกระแสได้เท่านั้นที่รัฐบาลจะต้องมาจากเสียงข้างมากเท่านั้น โอกาสที่เพื่อไทยจะจัดตั้งรัฐบาลโดยไม่ถูกขัดขวางจะเป็นไปได้
เวลานี้กระแสของเพื่อไทยยังสูงอยู่เรื่อยๆ หากเป็นเช่นนี้ไปจนถึงวันเลือกตั้งก็เป็นไปได้ว่าชัยชนะอาจถล่มทลายได้
ยังมีอีกปัจจัยหนึ่งที่มองข้ามไม่ได้เลย เป็นประเด็นสุดท้ายคืออำนาจทหาร ที่กล่าวกันว่าเป็นพลังสุดท้ายที่อาจจะเข้มแข็งพอที่จะเข้ามาหยุดเพื่อไทยได้ โดยมีเหตุผลรองรับว่าทหารไม่ต้องการให้เกิดความขัดแย้งระหว่างสี เพราะบ้านเมืองจะยุ่งเหยิง แตกแยก วุ่นวายมากไปกว่านี้ และจะมีการประท้วงไม่เลิกทำให้ทหารต้องเข้ามาแทรกแซงหลังเลือกตั้ง
หมายความว่า อาจมีเหตุการณ์ให้เกิดการปฏิวัติรัฐประหารได้อีก
นี่เป็นเหตุผลว่า ทำไมยิ่งลักษณ์จึงพร้อมที่จะเข้าพบ ผบ.ทบ.พลเอกประยุทธ จันทร์โอชา โดยยิ่งลักษณ์ได้ยินข่าว ผบ.ทบ.ออกมากล่าวว่า หากพรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้ง ก็จะมีปฏิกิริยาต่อต้าน รัฐบาลต้องถูกแย่งชิงอำนาจไปอีก
ยิ่งลักษณ์จึงตอบไปกับนักข่าวว่า ตนยินดีเข้าพบ ผบ.ทบ เพื่อขอคำแนะนำหรือหารือ ถ้ากองทัพให้โอกาส ส่วนกระแสปฏิวัตินั้นเท่าที่ตนทราบ ผบ.ทบ บอกว่าไม่มี
แม้ทหารจะมองการเมืองว่าไม่มีอะไร และทหารจะเป็นกลางในการเลือกตั้ง แต่ก็เป็นที่รู้ๆ กันว่าผู้นำกองทัพนั้นใกล้ชิดกับบุคคลในรัฐบาลชุดนี้มากกว่า และลึกๆ แล้วตัว ผบ.ทบ ก็ไม่ชอบอดีตนายกฯ ทักษิณ หรือน้องสาว ซึ่งกำลังรณรงค์การเลือกตั้งเพื่อมาเป็นนายกฯ หญิงคนแรกของประเทศไทยอยู่ในขณะนี้
ปัจจัยทางกองทัพจึงเป็นปัจจัยที่มองข้ามไปไม่ได้ แม้จะเป็นปัจจัยสุดท้ายในสถานการณ์ที่เรายังต้องรอหลังการเลือกตั้งให้สิ้นสุดลงก่อนก็ตาม แต่หากการเลือกตั้งเกิดความวุ่นวาย หรือหลังการเลือกตั้งมีกระแสความไม่พอใจจนเกิดเหตุการณ์ที่ต้องใช้กำลังเข้ามาควบคุมสถานการณ์จริงๆ กองทัพก็อาจะเป็นตัวแปรสุดท้ายที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญก็ได้
หากไม่มีอะไรเกิดขึ้น ก็ต้องยอมรับฟัง พวกที่ฟันธงกันว่าหาเสียงรอบแรกนี้เพื่อไทยมีหวังจะมาเป็นรัฐบาลเสียงข้างมากค่อนข้างแน่นอน
แต่พิจารณาจากโพลทุกสำนักในเวลานี้ ก็เห็นแนวโน้มชัดเจนว่าพวกสำนักโพลล้วนฟันธงแล้วว่า พรรคเพื่อไทยซึ่งนำมาทุกพรรคจะชนะเลือกตั้งได้เสียงข้างมากมาเป็นรัฐบาลแน่
ไม่ว่าจะเป็นเอแบคโพล สวนดุสิตโพล นิด้าโพล ม.กรุงเทพโพล ม.อัสสัมชันโพล หรือโพลอื่นๆ อีกสองสามแห่ง ต่างก็บ่งชี้ว่าพรรคใหญ่อย่างประชาธิปัตย์ไม่มีทางที่จะชนะพรรคเพื่อไทยได้
คนอีกพวกหนึ่งที่ฟันธงเหมือนกันคือ สำนักหมอดูดังๆ หลายสำนักที่ดูดวงดาวและอาศัยโหราศาสตร์แล้ววิเคราะห์ว่า เส้นทางดาวเมืองกับเพื่อไทยไปด้วยอย่างสวยและโอกาสที่พรรคนี้จะมาเป็นรัฐบาลมีมากกว่าพรรคอื่นหลังการเลือกตั้ง
ส่วนยิ่งลักษณ์จะมีโอกาสเป็นนายกรัฐมนตรีหญิงสมใจหรือไม่ก็เห็นต่างๆ กันไป เพราะเวลานี้เคราะห์ร้ายถูก “หมอตุลย์” หรือ น.พ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ แห่งเครือข่ายพลเมืองอาสาปกป้องแผ่นดิน ฟ้องในข้อหาให้การเท็จกรณีซื้อหุ้นอยู่
จริงๆ แล้วยิ่งโดนแบบนี้ ยิ่งลักษณ์กลับได้คะแนนสงสารไปทั่วประเทศ เพราะดูเหมือนถูกรังแกหรือโดนกลั่นแกล้งดิสเครดิตกัน
บ้างก็ว่าเพราะคะแนนเธอนำโด่งจึงโดนทำลายแบบนี้
กลับมามองด้านการหาเสียงบ้าง การประเมินทั่วๆไป ทุกพรรคการเมืองไม่ได้ลงพื้นที่กว้างขวางหรือลงรากเท่าพรรคเพื่อไทย นี่เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้กระแสพรรคนี้มาแรง ส่งผลให้การสำรวจโพลดีกว่าพรรคอื่นๆ พรรคเพื่อไทยทำงานได้ผลดีในภาคเหนือและหลายจังหวัดในภาคอีสาน รวมทั้งในกทม.หลายเขต พรรคประชาธิปัตย์มี ส.ส.คุณภาพในกทม.หาเสียงโปรยแผ่นพับติด
โพสเตอร์กว้างขวางในกทม.เช่นกัน และครองพื้นที่ในภาคใต้ดังเดิม ภูมิใจไทยได้คะแนนในอีสานใต้
เมื่อภาพรวมเป็นเช่นนี้ ทำให้เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่มีหลายสำนักของสื่อวิเคราะห์ว่า เพื่อไทยมีแนวโน้มที่จะชนะเลือกตั้งในรอบแรกของการหาเสียงครั้งนี้
บวกกับการที่สื่อเปิดเผยอย่างโจ่งแจ้งว่า นอกเหนือจากเพื่อไทยและพรรคประชาธิปัตย์แล้วพรรคอื่นๆ ล้วนเป็น “ไม้ประดับ” เท่านั้น ก็หมายความว่าการเลือกตั้งคราวนี้ พรรคอื่นๆ แทบไม่มีความหมาย รอเป็นพรรคเข้าร่วมเท่านั้น
ยิ่งมีการจับคู่ระหว่างเพื่อไทยกับชาติไทยพัฒนาและชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดินเข้าด้วยกัน ก็หมายความแบบฟันธงว่า จะมีรัฐบาลที่มีแกนนำเป็นเพื่อไทยนั่นเอง
และมีการพูดกันมากแล้วว่า พรรคประชาธิปัตย์จะไปเป็นฝ่ายค้านค่อนข้างแน่นอนแล้ว
จริงอยู่ที่การประเมินแบบฟันธงนี้ เป็นการมองกันในช่วงแรกของการหาเสียงเท่านั้น และเป็นการมองตามกระแสที่พรรคเพื่อไทยมาแรงด้วยปัจจัยต่างๆ ตามที่ระบุมาแล้ว
แต่ก็นั่นแหละมีการให้เบาะแสว่า แม้เพื่อไทยจะมาแรงแค่ไหน แต่ก็อาจมีแรงต้านจากปัจจัยอื่นๆ หรืออำนาจที่มองไม่เห็น ไม่ยินยอมให้พรรคเพื่อไทยขึ้นมาเป็นรัฐบาล อำนาจนี้อาจเป็นอำนาจทหารก็ได้ เพราะเหตุนี้ ถ้าเพื่อไทยไม่สามารถขึ้นมาเป็นรัฐบาล ประชาธิปัตย์ก็อาจต้องจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย
เว้นแต่เพื่อไทยจะชนะขาดลอยชนิดถล่มทลายจริงๆ จนเห็นชัด ยากที่มีอำนาจใดมาทานกระแสได้เท่านั้นที่รัฐบาลจะต้องมาจากเสียงข้างมากเท่านั้น โอกาสที่เพื่อไทยจะจัดตั้งรัฐบาลโดยไม่ถูกขัดขวางจะเป็นไปได้
เวลานี้กระแสของเพื่อไทยยังสูงอยู่เรื่อยๆ หากเป็นเช่นนี้ไปจนถึงวันเลือกตั้งก็เป็นไปได้ว่าชัยชนะอาจถล่มทลายได้
ยังมีอีกปัจจัยหนึ่งที่มองข้ามไม่ได้เลย เป็นประเด็นสุดท้ายคืออำนาจทหาร ที่กล่าวกันว่าเป็นพลังสุดท้ายที่อาจจะเข้มแข็งพอที่จะเข้ามาหยุดเพื่อไทยได้ โดยมีเหตุผลรองรับว่าทหารไม่ต้องการให้เกิดความขัดแย้งระหว่างสี เพราะบ้านเมืองจะยุ่งเหยิง แตกแยก วุ่นวายมากไปกว่านี้ และจะมีการประท้วงไม่เลิกทำให้ทหารต้องเข้ามาแทรกแซงหลังเลือกตั้ง
หมายความว่า อาจมีเหตุการณ์ให้เกิดการปฏิวัติรัฐประหารได้อีก
นี่เป็นเหตุผลว่า ทำไมยิ่งลักษณ์จึงพร้อมที่จะเข้าพบ ผบ.ทบ.พลเอกประยุทธ จันทร์โอชา โดยยิ่งลักษณ์ได้ยินข่าว ผบ.ทบ.ออกมากล่าวว่า หากพรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้ง ก็จะมีปฏิกิริยาต่อต้าน รัฐบาลต้องถูกแย่งชิงอำนาจไปอีก
ยิ่งลักษณ์จึงตอบไปกับนักข่าวว่า ตนยินดีเข้าพบ ผบ.ทบ เพื่อขอคำแนะนำหรือหารือ ถ้ากองทัพให้โอกาส ส่วนกระแสปฏิวัตินั้นเท่าที่ตนทราบ ผบ.ทบ บอกว่าไม่มี
แม้ทหารจะมองการเมืองว่าไม่มีอะไร และทหารจะเป็นกลางในการเลือกตั้ง แต่ก็เป็นที่รู้ๆ กันว่าผู้นำกองทัพนั้นใกล้ชิดกับบุคคลในรัฐบาลชุดนี้มากกว่า และลึกๆ แล้วตัว ผบ.ทบ ก็ไม่ชอบอดีตนายกฯ ทักษิณ หรือน้องสาว ซึ่งกำลังรณรงค์การเลือกตั้งเพื่อมาเป็นนายกฯ หญิงคนแรกของประเทศไทยอยู่ในขณะนี้
ปัจจัยทางกองทัพจึงเป็นปัจจัยที่มองข้ามไปไม่ได้ แม้จะเป็นปัจจัยสุดท้ายในสถานการณ์ที่เรายังต้องรอหลังการเลือกตั้งให้สิ้นสุดลงก่อนก็ตาม แต่หากการเลือกตั้งเกิดความวุ่นวาย หรือหลังการเลือกตั้งมีกระแสความไม่พอใจจนเกิดเหตุการณ์ที่ต้องใช้กำลังเข้ามาควบคุมสถานการณ์จริงๆ กองทัพก็อาจะเป็นตัวแปรสุดท้ายที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญก็ได้
หากไม่มีอะไรเกิดขึ้น ก็ต้องยอมรับฟัง พวกที่ฟันธงกันว่าหาเสียงรอบแรกนี้เพื่อไทยมีหวังจะมาเป็นรัฐบาลเสียงข้างมากค่อนข้างแน่นอน