ขบวนการสีแดงนี่เก่งทีเดียวก่อนหน้าได้ปูพื้นวาทกรรม “อำมาตย์” จนเป็นคำยอดฮิตไปทั่วประเทศ จนอำมาตย์กลายเป็นคำคุณศัพท์ประกอบนามที่แดงไม่ชมชอบ เช่น ตำรวจอำมาตย์ ผู้ว่าอำมาตย์ สื่ออำมาตย์ ไล่เรียงมาถึงระดับพื้นที่เช่นถ้าเจอร้านค้าไม่เอาแดงก็จะขนานนามร้านนั้นว่า โชวห่วยอำมาตย์ ร้านตัดผมอำมาตย์ แผงหนังสืออำมาตย์ ฯลฯ
เมื่อสัปดาห์ก่อนเจอไพศาล เปลี่ยนบางช้าง กับ จิตติมา ผลเสวก ศิลปินกลุ่มเดียวกับวสันต์ สิทธิเขตต์ ยังแซวเลยว่าไหน ๆ สังคมเขาจัดแบ่งพวกไม่เอาทักษิณเป็นอำมาตย์แล้วก็น่าที่จะสถาปนาท่านวสันต์ผู้มีบุคลิกท่าทางเป็นอำมาตย์เต็มขั้นขึ้นเป็น “เจ้าพระยาสิทธิเขตต์ชุมแสงศิลป์” ว่าที่เสนาบดีฝ่ายศิลปินให้เอิกเกริกกันเลย
แล้วก็เชิญแม่ยกเจ้าของแผงผัดไทอำมาตย์ข้างถนน ร้านขายยาอำมาตย์ พนักงานฝ่ายขายอำมาตย์ เกษตรกรอำมาตย์ ขี้เมาอำมาตย์ทั้งหลาย มาร่วมเฉลิมฉลองให้ยิ่งใหญ่
ชุมนุมรอบนี้เวทีแดงงัดมุกใหม่แบ่งแยกชนชั้นกันให้สุด ๆ ด้วยการประกาศตัวเป็นเวทีไพร่ ... ใครไม่อยู่ข้างไพร่ก็ไปอยู่กับอำมาตย์ให้หมด
เราจึงได้เห็น ส.ส.ไพร่ ผู้รับเหมาไพร่ ไฮโซไพร่ ดาราโป๊นักเรียนนอกไพร่ ท่านผู้หญิงใกล้ชิดสีเขียวไพร่ เจ้าของห้างสรรพสินค้าไพร่ เจ้าของกิจการพันล้านไพร่ ฯลฯ เดินสวมเสื้อแดงกันให้ควั่กอยู่ที่นั่น
อันที่จริงการประกาศใช้สงครามชนชั้นที่วัดกลุ่มคนด้วยรายได้สูงต่ำ ชูความเป็นคนรากหญ้าชนบทที่เป็นฝ่ายถูกกระทำมาตลอดเป็นธงนำนั้นมีพลังสูง ปัญหาอยู่ที่ว่าวาทกรรมตลอดถึงการเคลื่อนไหวต่อสู้รอบนี้ทำเพื่อชาวบ้านผู้ด้อยโอกาสจริง หรือเป็นแค่ฉากบังหน้า
ผมคนหนึ่งล่ะที่ไม่ศรัทธาแกนนำแดงว่าจะสู้เพื่อไพร่จริง ไม่เชื่อว่าคุณสู้เพื่อมาตรฐานเดียวกัน สู้เพื่อสิทธิ์เท่าเทียม สู้กับการใช้อำนาจบาตรใหญ่มาข่มเหงจริง
จตุพร พรหมพันธุ์ เองไม่ใช่หรอกหรือที่ยืนท้าวสะเอวสั่งตำรวจ-อ.ส. ไล่ทุบกระทืบชาวบ้านกลุ่มปฎิรูปที่ดินที่สุราษฎร์-กระบี่ยุคทักษิณ 1 คนแบบนี้หรือคือคนที่เกลียดชังการอำนาจบาตรใหญ่ คนแบบนี้หรือคือคนที่สู้เพื่อศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์
ที่กล่าวมาทั้งหมดไม่ใช่ไม่เข้าใจคนสีแดงที่เป็นมวลชนตัวจริงว่าเขากำลังเรียกร้องอะไร ถ้าไม่มีทักษิณ ไม่มีสามเกลอ ไม่มีส.ส.ที่พร้อมจะทำอะไรก็ได้เพื่ออำนาจผลประโยชน์ ผมก็พร้อมเปิดใจรับการเคลื่อนไหวของขบวนการแดงมากกว่านี้
ถ้าแดงมีเฉพาะท่านพี่ วัฒน์ วรรลยางกูร ท่านเรืองรองฯ ผมอาจจะกระโดดเข้าร่วมวงเรียกร้องด้วย เพราะหลายประเด็นที่สีแดงเรียกร้องเป็นปัญหาเรื้อรังพื้นฐานของสังคมไทย กรณีการแต่งตั้งโยกย้ายไม่เป็นธรรมในวงราชการ การทุจริตคอรัปชั่น หรือปัญหาความยุติธรรมต่อให้สลับสีกันแดงกลับมามีอำนาจผมก็ไม่เชื่อว่านักการเมืองแดงจะดลให้บังเกิดความยุติธรรมขึ้นมาทั้งกระบวน เรายังต้องต่อสู้กับปัญหารากฐานเหล่านี้อีกยาวนาน แต่ไม่ใช่รอให้ทักษิณหรือพรรคเพื่อไทยกลับมาแก้
บอกตรง ๆ กับพี่วัฒน์ ว่าเข้าใจดีถึงเนื้อหาและจิตวิญญาณที่สื่อสารเชิญชวนพรรคพวกเข้าร่วมสู้ แต่ที่กลัวน่ะกลัวว่าประชาชนตาดำ ๆ จะกลายเป็นเหยื่อเหมือนนิยายพล็อตเดิม ๆ ขบวนแดงที่อ้างว่าสู้เพื่ออะไรต่อมิ
อะไรที่สุดก็ยังคงรวบยอดอยู่ที่คน ๆ เดียว ก็คือชายคนที่ต้องการอำนาจและเงินคืน..มั่นใจแค่ไหนว่าขบวนแดงกำลังสู้เรื่องไพร่-อำมาตย์ ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ประชาธิปไตยธรรมาภิบาล อย่างแท้จริง
เรากำลังถูกปั่นให้ร่วมทำสงครามไพร่ไล่อำมาตย์ เพื่อจะส่งมอบบัลลังก์อำนาจนั้นให้กับกลุ่มทุนศักดินาที่เติบโตมากับอำนาจขุนศึกอุปถัมภ์ล่ะหรือ?
ต่อให้ยุบสภาเลือกตั้งใหม่และพรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาลเราก็ยังต้องมาสู้เรื่องป่าชุมชน เรื่องโฉนดชุมชน การปฏิรูปที่ดิน ภาษีที่ดินก้าวหน้า สู้เรื่องธรรมาภิบาล ฯลฯ กันต่ออยู่ดี
ยิ่งผ่านเวลาไปยิ่งมั่นใจว่าศึกใหญ่สงคราม 10 ทัพรอบนี้แดงแพ้แน่นอน แพ้ทั้งการเมือง แพ้ทั้งยุทธการ เพราะยุทธศาสตร์ทักษิณต้องการแสดงภาพการสู้แบบสันติสื่อออกไปให้ประชาชนคนกลาง ๆ และทั่วโลก แต่ก่อนหน้านั้นแกนนำแดงหลายคนประกาศเผาเมือง ประกาศไปศิริราช ประกาศระดมน้ำมันและอาวุธ ย้อนเวลาเปิดวิทยุชุมชนฟังเถิดครับว่าสารที่พวกเขาสื่อออกไปล้วนแต่เป็นความรุนแรงทั้งนั้น
ไม่แปลกเลยครับที่อารมณ์ของคนกรุงเทพฯ จะมองแดงติดลบตั้งแต่ต้น คนกลาง ๆ ที่ทักษิณหวังจะดึงให้มาเป็นพวกให้เห็นใจสีแดงเขาก็ไม่เอาด้วยกับการประกาศเผาบ้านเมืองและการหยุดกรุงเทพฯ ด้วยหรอก
แม้ในวันจริงจะไม่มีการขนน้ำมันมา และประกาศไม่ดาวกระจายเพราะเกรงมือที่สามแทรกก่อให้เกิดเหตุรุนแรงก็ไม่ทันเสียแล้ว
ศึกแดงรอบนี้คาดหวังไว้สูง ทุ่มทุนเดิมพันสูง สำหรับมวลชนไม่รู้ว่าเครียดแค่ไหน แต่สำหรับทักษิณเครียดแน่ ไหนจะถูก UAE เชิญออกนอกประเทศ ไหนจะเรื่องขบวนศึก ทั้งภาพทั้งเสียงบ่งบอกว่าทักษิณ
หลุดจากภาวะปกติแล้ว
อย่างที่ป๋าเปลว สีเงินเขียนไว้นั่นแหละ...
ทักษิณ บ้าสนิทแล้ว !!!
คนเกณฑ์มาไม่ตามเป้า ถูกหลอกซ้ำแล้วซ้ำเล่าเช่นบอกว่าผู้ชุมนุมที่ศาลากลางขอนแก่นมีสองหมื่นทั้ง ๆ มีแค่ประมาณ 500 กลม ๆ ทักษิณจึงขอให้แดงทุกจังหวัดไปชุมนุมที่ศาลากลางจังหวัดของจน สติแตก จนตรอก ต้องงัดทุกวิธีที่นึกได้ขึ้นมาสู้
สามเกลอนั้นมีเวลาเหลือน้อยเต็มทน การเคลื่อนพลหยุดกรุงเทพฯ วันที่ 15 มี.ค. อาจจะเป็นการแสดงนำรอบสุดท้าย เพราะมวลชนถึงจุดพีคสุดในวันนี้หากไปแค่แสดงพลังปิดถนนหยุดกรุงเทพฯ ไปโห่ร้องที่หน้าค่ายทหารแล้วกลับมามือเปล่า ฝ่ายฮาร์ดคอร์จะเข้าแทรก
ได้ยินมาว่าหนึ่งในสามเกลอกลัวเรื่อง “ถูกขาย” จากพวกเดียวกัน เพราะหากจะทำให้มวลชนเคียดแค้นลุกฮือขึ้นมาก่อให้เกิดจุดเปลี่ยนอาจจะต้องมีการสังเวยชีพสีแดงกันเอง ถ้าเป็นแกนนำยิ่งสวยใหญ่ แกนนำฝ่ายที่นำแสดงโชว์ในช่วงแรกจึงต้องระมัดระวังตัวจากทั้งฝ่ายอื่นและฝ่ายเดียวกันเอง
ยิ่งเวลาผ่านไปเท่าใดโอกาสที่แดงจะชนะยิ่งเลือนรางลงทุกที ปัญหาคือจะแพ้อย่างไรให้สวย
ไม่แน่ว่าสามเกลออาจจะได้โอกาสปีนบันไดลงแตะมือให้กับกลุ่มอื่นขึ้นนำ รับรางวัลตุ๊กตาทองสาขาสันติ อหิงสาไปนอนกอดเล่น
มวลชนแดงทยอยกลับบ้าน เหลือแต่แดงจัด แดงฮาร์ดคอร์ แดงพร้อมเสียบ แดงรอจังหวะ...วันที่ 16 มี.ค.จึงเป็นวันเสี่ยงที่สุดนับจาก 12 มี.ค.เป็นต้นมา ถ้าทักษิณยังคงบ้าสนิทอยู่อาจจะมีการสูญเสียแลกกับความหวังลม ๆแล้ง ๆ เรื่องพฤษภาทมิฬโมเดล
เมื่อสัปดาห์ก่อนเจอไพศาล เปลี่ยนบางช้าง กับ จิตติมา ผลเสวก ศิลปินกลุ่มเดียวกับวสันต์ สิทธิเขตต์ ยังแซวเลยว่าไหน ๆ สังคมเขาจัดแบ่งพวกไม่เอาทักษิณเป็นอำมาตย์แล้วก็น่าที่จะสถาปนาท่านวสันต์ผู้มีบุคลิกท่าทางเป็นอำมาตย์เต็มขั้นขึ้นเป็น “เจ้าพระยาสิทธิเขตต์ชุมแสงศิลป์” ว่าที่เสนาบดีฝ่ายศิลปินให้เอิกเกริกกันเลย
แล้วก็เชิญแม่ยกเจ้าของแผงผัดไทอำมาตย์ข้างถนน ร้านขายยาอำมาตย์ พนักงานฝ่ายขายอำมาตย์ เกษตรกรอำมาตย์ ขี้เมาอำมาตย์ทั้งหลาย มาร่วมเฉลิมฉลองให้ยิ่งใหญ่
ชุมนุมรอบนี้เวทีแดงงัดมุกใหม่แบ่งแยกชนชั้นกันให้สุด ๆ ด้วยการประกาศตัวเป็นเวทีไพร่ ... ใครไม่อยู่ข้างไพร่ก็ไปอยู่กับอำมาตย์ให้หมด
เราจึงได้เห็น ส.ส.ไพร่ ผู้รับเหมาไพร่ ไฮโซไพร่ ดาราโป๊นักเรียนนอกไพร่ ท่านผู้หญิงใกล้ชิดสีเขียวไพร่ เจ้าของห้างสรรพสินค้าไพร่ เจ้าของกิจการพันล้านไพร่ ฯลฯ เดินสวมเสื้อแดงกันให้ควั่กอยู่ที่นั่น
อันที่จริงการประกาศใช้สงครามชนชั้นที่วัดกลุ่มคนด้วยรายได้สูงต่ำ ชูความเป็นคนรากหญ้าชนบทที่เป็นฝ่ายถูกกระทำมาตลอดเป็นธงนำนั้นมีพลังสูง ปัญหาอยู่ที่ว่าวาทกรรมตลอดถึงการเคลื่อนไหวต่อสู้รอบนี้ทำเพื่อชาวบ้านผู้ด้อยโอกาสจริง หรือเป็นแค่ฉากบังหน้า
ผมคนหนึ่งล่ะที่ไม่ศรัทธาแกนนำแดงว่าจะสู้เพื่อไพร่จริง ไม่เชื่อว่าคุณสู้เพื่อมาตรฐานเดียวกัน สู้เพื่อสิทธิ์เท่าเทียม สู้กับการใช้อำนาจบาตรใหญ่มาข่มเหงจริง
จตุพร พรหมพันธุ์ เองไม่ใช่หรอกหรือที่ยืนท้าวสะเอวสั่งตำรวจ-อ.ส. ไล่ทุบกระทืบชาวบ้านกลุ่มปฎิรูปที่ดินที่สุราษฎร์-กระบี่ยุคทักษิณ 1 คนแบบนี้หรือคือคนที่เกลียดชังการอำนาจบาตรใหญ่ คนแบบนี้หรือคือคนที่สู้เพื่อศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์
ที่กล่าวมาทั้งหมดไม่ใช่ไม่เข้าใจคนสีแดงที่เป็นมวลชนตัวจริงว่าเขากำลังเรียกร้องอะไร ถ้าไม่มีทักษิณ ไม่มีสามเกลอ ไม่มีส.ส.ที่พร้อมจะทำอะไรก็ได้เพื่ออำนาจผลประโยชน์ ผมก็พร้อมเปิดใจรับการเคลื่อนไหวของขบวนการแดงมากกว่านี้
ถ้าแดงมีเฉพาะท่านพี่ วัฒน์ วรรลยางกูร ท่านเรืองรองฯ ผมอาจจะกระโดดเข้าร่วมวงเรียกร้องด้วย เพราะหลายประเด็นที่สีแดงเรียกร้องเป็นปัญหาเรื้อรังพื้นฐานของสังคมไทย กรณีการแต่งตั้งโยกย้ายไม่เป็นธรรมในวงราชการ การทุจริตคอรัปชั่น หรือปัญหาความยุติธรรมต่อให้สลับสีกันแดงกลับมามีอำนาจผมก็ไม่เชื่อว่านักการเมืองแดงจะดลให้บังเกิดความยุติธรรมขึ้นมาทั้งกระบวน เรายังต้องต่อสู้กับปัญหารากฐานเหล่านี้อีกยาวนาน แต่ไม่ใช่รอให้ทักษิณหรือพรรคเพื่อไทยกลับมาแก้
บอกตรง ๆ กับพี่วัฒน์ ว่าเข้าใจดีถึงเนื้อหาและจิตวิญญาณที่สื่อสารเชิญชวนพรรคพวกเข้าร่วมสู้ แต่ที่กลัวน่ะกลัวว่าประชาชนตาดำ ๆ จะกลายเป็นเหยื่อเหมือนนิยายพล็อตเดิม ๆ ขบวนแดงที่อ้างว่าสู้เพื่ออะไรต่อมิ
อะไรที่สุดก็ยังคงรวบยอดอยู่ที่คน ๆ เดียว ก็คือชายคนที่ต้องการอำนาจและเงินคืน..มั่นใจแค่ไหนว่าขบวนแดงกำลังสู้เรื่องไพร่-อำมาตย์ ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ประชาธิปไตยธรรมาภิบาล อย่างแท้จริง
เรากำลังถูกปั่นให้ร่วมทำสงครามไพร่ไล่อำมาตย์ เพื่อจะส่งมอบบัลลังก์อำนาจนั้นให้กับกลุ่มทุนศักดินาที่เติบโตมากับอำนาจขุนศึกอุปถัมภ์ล่ะหรือ?
ต่อให้ยุบสภาเลือกตั้งใหม่และพรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาลเราก็ยังต้องมาสู้เรื่องป่าชุมชน เรื่องโฉนดชุมชน การปฏิรูปที่ดิน ภาษีที่ดินก้าวหน้า สู้เรื่องธรรมาภิบาล ฯลฯ กันต่ออยู่ดี
ยิ่งผ่านเวลาไปยิ่งมั่นใจว่าศึกใหญ่สงคราม 10 ทัพรอบนี้แดงแพ้แน่นอน แพ้ทั้งการเมือง แพ้ทั้งยุทธการ เพราะยุทธศาสตร์ทักษิณต้องการแสดงภาพการสู้แบบสันติสื่อออกไปให้ประชาชนคนกลาง ๆ และทั่วโลก แต่ก่อนหน้านั้นแกนนำแดงหลายคนประกาศเผาเมือง ประกาศไปศิริราช ประกาศระดมน้ำมันและอาวุธ ย้อนเวลาเปิดวิทยุชุมชนฟังเถิดครับว่าสารที่พวกเขาสื่อออกไปล้วนแต่เป็นความรุนแรงทั้งนั้น
ไม่แปลกเลยครับที่อารมณ์ของคนกรุงเทพฯ จะมองแดงติดลบตั้งแต่ต้น คนกลาง ๆ ที่ทักษิณหวังจะดึงให้มาเป็นพวกให้เห็นใจสีแดงเขาก็ไม่เอาด้วยกับการประกาศเผาบ้านเมืองและการหยุดกรุงเทพฯ ด้วยหรอก
แม้ในวันจริงจะไม่มีการขนน้ำมันมา และประกาศไม่ดาวกระจายเพราะเกรงมือที่สามแทรกก่อให้เกิดเหตุรุนแรงก็ไม่ทันเสียแล้ว
ศึกแดงรอบนี้คาดหวังไว้สูง ทุ่มทุนเดิมพันสูง สำหรับมวลชนไม่รู้ว่าเครียดแค่ไหน แต่สำหรับทักษิณเครียดแน่ ไหนจะถูก UAE เชิญออกนอกประเทศ ไหนจะเรื่องขบวนศึก ทั้งภาพทั้งเสียงบ่งบอกว่าทักษิณ
หลุดจากภาวะปกติแล้ว
อย่างที่ป๋าเปลว สีเงินเขียนไว้นั่นแหละ...
ทักษิณ บ้าสนิทแล้ว !!!
คนเกณฑ์มาไม่ตามเป้า ถูกหลอกซ้ำแล้วซ้ำเล่าเช่นบอกว่าผู้ชุมนุมที่ศาลากลางขอนแก่นมีสองหมื่นทั้ง ๆ มีแค่ประมาณ 500 กลม ๆ ทักษิณจึงขอให้แดงทุกจังหวัดไปชุมนุมที่ศาลากลางจังหวัดของจน สติแตก จนตรอก ต้องงัดทุกวิธีที่นึกได้ขึ้นมาสู้
สามเกลอนั้นมีเวลาเหลือน้อยเต็มทน การเคลื่อนพลหยุดกรุงเทพฯ วันที่ 15 มี.ค. อาจจะเป็นการแสดงนำรอบสุดท้าย เพราะมวลชนถึงจุดพีคสุดในวันนี้หากไปแค่แสดงพลังปิดถนนหยุดกรุงเทพฯ ไปโห่ร้องที่หน้าค่ายทหารแล้วกลับมามือเปล่า ฝ่ายฮาร์ดคอร์จะเข้าแทรก
ได้ยินมาว่าหนึ่งในสามเกลอกลัวเรื่อง “ถูกขาย” จากพวกเดียวกัน เพราะหากจะทำให้มวลชนเคียดแค้นลุกฮือขึ้นมาก่อให้เกิดจุดเปลี่ยนอาจจะต้องมีการสังเวยชีพสีแดงกันเอง ถ้าเป็นแกนนำยิ่งสวยใหญ่ แกนนำฝ่ายที่นำแสดงโชว์ในช่วงแรกจึงต้องระมัดระวังตัวจากทั้งฝ่ายอื่นและฝ่ายเดียวกันเอง
ยิ่งเวลาผ่านไปเท่าใดโอกาสที่แดงจะชนะยิ่งเลือนรางลงทุกที ปัญหาคือจะแพ้อย่างไรให้สวย
ไม่แน่ว่าสามเกลออาจจะได้โอกาสปีนบันไดลงแตะมือให้กับกลุ่มอื่นขึ้นนำ รับรางวัลตุ๊กตาทองสาขาสันติ อหิงสาไปนอนกอดเล่น
มวลชนแดงทยอยกลับบ้าน เหลือแต่แดงจัด แดงฮาร์ดคอร์ แดงพร้อมเสียบ แดงรอจังหวะ...วันที่ 16 มี.ค.จึงเป็นวันเสี่ยงที่สุดนับจาก 12 มี.ค.เป็นต้นมา ถ้าทักษิณยังคงบ้าสนิทอยู่อาจจะมีการสูญเสียแลกกับความหวังลม ๆแล้ง ๆ เรื่องพฤษภาทมิฬโมเดล