ตั้งใจจะเขียนถึงพี่น้องตระกูลชินวัตร ในฐานะตระกูลการเมืองที่พยายามส่งไม้สืบอำนาจต่อกันเพราะล่าสุดมีข่าวส.ส.กลุ่มที่ไม่ไว้วางใจบิ๊กจิ๋ว เกรงจะเป็นไส้ศึกจริงก็เลยพยายามจะดันปู-ยิ่งลักษณ์ ให้ขึ้นเป็นหัวหน้าพรรครอเก้าอี้นายกรัฐมนตรีก่อนกำหนด
อันที่จริงการดันยิ่งลักษณ์ขึ้นเก้าอี้อยู่ในแผนมานานแล้ว เพียงแต่ต้องสร้างให้เป็นขั้นตอน การดันขึ้นก่อนเวลาเหมือนกับการชิงสุกก่อนห่ามอันเป็นเรื่องที่ตระกูลนี้ซาบซึ้งดี อย่างไรก็ตามคลื่นภายในพรรคเพื่อไทยที่ต้องการดันยิ่งลักษณ์ขึ้นเร็วกว่ากำหนดยังมีน้ำหนักอยู่ และอาจจะเพิ่มน้ำหนักมากขึ้นอยู่กับว่ากับบิ๊กจิ๋วจะทำตัวให้นายใหญ่ที่ดูไบไว้วางใจได้นานเท่าไหร่
อย่างกรณีที่ ส.ส.สมุทรปราการสายฮาร์ดคอร์ออกมาเปิดประเด็นว่านายกฯยุคหน้าต้องเป็นผู้หญิงนี่ก็เป็นการเคลื่อนไหวทางเปิดที่หลุดออกมาจากคลื่นใต้น้ำวงใน
แต่ก่อนจะลงถึงเรื่องพี่น้องชินวัตรในวงอำนาจ ขอเลี้ยวเข้าซอยว่าด้วย Political family สักหน่อย เพราะได้ค้นคว้าอย่างหยาบ ๆ ก่อนจะลงมือเขียน และได้พบว่าสังคมฝรั่งได้รวบรวมเรื่องราวของ Political family ค่อนข้างละเอียด กล่าวถึงตระกูลนักการเมืองที่ส่งไม้กันรุ่นต่อรุ่น ไม่เฉพาะในประเทศด้อยพัฒนาเท่านั้น เพราะในสหรัฐอเมริกา หรือ คานาดา เองก็มีตระกูลการเมืองผูกขาดอยู่พอสมควร
สังคมอเมริกันชอบบันทึกข้อมูล เขาจึงรวบรวมเอารายชื่อและสาแหรกตระกูลการเมืองละเอียดมาก ตั้งแต่ระดับชาติ อย่าง เคเนดี้ บุช ลงไปถึงระดับผูกขาดในท้องถิ่น เข้าไปดูใน Wikipedia ชื่อบทความ List of United States political families กับ List of Canadian political families ดูสิครับ..น่าสนใจทีเดียว โดยเฉพาะท่านที่ชอบสะสมเกร็ดความรู้
ยังคงอยู่ในซอยไม่ออกถนนใหญ่เพราะต้องการจะบอกว่าในสารานุกรม Wikipedia ยังรวบรวมรายชื่อสาแหรกตระกูลการเมืองของบรรดาประเทศต่าง ๆ เอาไว้จำนวนมากถึง 131 ประเทศในบทความเรื่อง List of political families ในจำนวนนี้มีประเทศไทยอยู่ด้วย แต่ไม่อัพเดทอย่างยิ่ง เขาระบุไว้เพียงตระกูล เวชชาชีวะตระกูลเดียวเท่านั้น ทั้ง ๆ ที่ตระกูลนักการเมืองไทยจากพ่อสู่ลูก สู่เมีย สู่หลาน ยังมีอีกมากมาย ท่านใดที่พอจะมีเวลารวบรวมช่วยอัพข้อมูลขึ้นไปให้ทันสมัยขึ้นน่าจะดีไม่น้อย
หรือหากอาจารย์รัฐศาสตร์ท่านใดเห็นประโยชน์ของสารานุกรมเปิดแบบ Open sources เช่นนี้ให้นักศึกษาแบ่งกลุ่มทำรายงานแล้วส่งขึ้นไปจะเป็นการช่วยพัฒนาทักษะการหาข้อมูลของเด็กได้อย่างดีทีเดียว ดีกว่าระบบเสิร์ชกูเกิ้ลตัดแปะส่งอย่างที่เป็นอยู่ทุกวันอย่างแน่นอน
ออกจากซอยแล้ว เอาล่ะครับกลับมาสู่เรื่องที่ต้องการจะนำเสนอกันเสียที
ไม่รู้จะสงสาร สมเพช หรือ อนุโมทนากับ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ดี
การที่ต้องออกจากชีวิตส่วนตัวมาอยู่ในโลกการเมืองนั้นหากคนที่ชอบมันก็ดีไป แต่สำหรับคนที่ไม่คุ้นเคยคงจะกระอักกระอ่วนพอสมควร
นี่ยังไม่ทันนั่งตำแหน่งอย่างเป็นทางการเลยประวัติส่วนตัวของยิ่งลักษณ์ ชินวัตรก็ถูกเผยแพร่กันพอสมควรถึงขนาดมีประวัติเชิงกระซิบเล่าขานตั้งแต่วันแรกคลอดถึงขนาดตั้งข้อสงสัยในความเป็นลูกคนสุดท้อง ผมไม่ขยายความหรอกครับและยังไม่เชื่อประวัติฉบับนี้นัก แต่สำหรับชีวิตวัยเยาว์ตั้งแต่ประถม มาถึงมัธยมที่ยุพราช จนกระทั่งชีวิตนักศึกษาในรั้ว ม.ช.นี่มันมีพยานหลักฐานร่วมสมัยเยอะ ปูของเพื่อน ๆ มีวีรกรรมอย่างไรคงจะมีการขยายความเผยแพร่กันมากขึ้นแน่ ๆ
คงจะลามไปถึงคุณอนุสรณ์ อมรฉัตร ซึ่งเป็นคนโลว์โปรไฟล์ที่อาจจะถูกลากขึ้นมาเล่าขานด้วยอีกคน อันที่จริงไม่ใช่เรื่องแปลกของคนหนุ่มน่าตาดีแถมมีฝีมือที่จะมีชีวิตวัยหนุ่มที่โลดโผนแต่เมื่อจะมีฐานะเป็นสามีของว่าที่หัวหน้าพรรคการเมือง ความเป็นส่วนตัวก็จะน้อยลงคล้าย ๆ กับสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ที่มีผู้ติดตามไปดูพฤติกรรมผาดแผลงนั่นแหละครับ
ก็ไม่รู้เหมือนกัน กังวลใจแทนไปทำมีมี ..เพราะปูยิ่งลักษณ์ อาจจะชอบก็ได้ !
ขึ้นชื่อว่าอำนาจนั้นหอมหวานใครเคยถืออยู่ในมือแล้วจะวางไม่ลง ก็เหมือนกับเจ๊แดง นั่นแหละ เมื่อปี 2543 ตอนที่ไทยรักไทยกำลังก่อร่างสร้างตัว เจ๊แดงถูกส่งมาเป็นผ.อ.ภาคเหนือ เจ๊แดงตอนนั้นเป็นละอ่อนทางการเมืองไม่ประสีประสา เขาบอกให้ทำอะไรก็ทำไป แต่ตอนนี้กลายเป็นเจ๊ใหญ่ที่กุมขบวนการสีแดงเอาไว้ ถนนทุกสายมุ่งมาคารวะ
เส้นทางของปู ยิ่งลักษณ์ กับ เจ๊แดง เหมือนกันตรงที่ขึ้นกับพี่แม้วกำหนด ตอนที่เจ๊แดงลาออกจากราชการเป็นพยาบาลนั้นเงินเดือนแค่ 7,000 กว่าบาทมาทำธุรกิจขายมือถือกึ่งผูกขาดฟันกำไรเป็นสิบเท่าในยุคที่มือถือก้อนบะเริ่มขว้างหัวหมาตายซ้ำยังแพงลิบลิ่ว จนกลายเป็นเศรษฐีที่ได้รับอานิสงส์จากสัมปทานของเอไอเอส พอตั้งพรรคพี่ชายก็บอกให้มาเป็นนอมินีกำกับคนในภาคเหนือ เจ๊แดงก็ทำตามไม่อิดออด ที่สุดก็เป็นภริยานายกรัฐมนตรีตามสูตรคลาสสิคของ Political family
เยาวเรศ ชินวัตร เองก็ใช่ย่อยตอนที่สร้างสุวรรณภูมิอยู่คนในวงการเขารู้กันดีว่าใช้นามสกุลไปทำอะไรบ้าง ที่ปรากฎเป็นข่าวออกมานั่นชัดเจนเพราะคนที่เกี่ยวข้องล้วนแต่เป็น ดาราวิทยาลัยคอนเน็คชั่นทั้งสิ้น
โชคดีของเยาวเรศ ที่ไม่ใช่น้องรักและไม่ถูกดันเข้าสู่วงจรการเมืองเต็มตัว มิฉะนั้นจะมีการเล่าขานประวัติโลดโผนของน้องสาวสุดเปรี้ยวคนนี้ออกมาอย่างน่าตื่นตาตื่นใจ เพราะอะไรที่ทำให้เรียนดาราวิทยาลัยไม่ทันจบก็ถูกส่งออกจากเชียงใหม่มาเรียนด้านอาชีพ แล้วก็ถูกส่งไปเมืองนอก เป็นสาวเนื้อหอมที่มีหวานใจหลากหลายแบบ
ย้อนหลังกลับไปเมื่อปีใหม่ 2551 เยาวเรศ พร้อมคู่ครองนายธนาคารเลือดเนื้อเชียงใหม่ เปิดคฤหาสน์ที่เพิ่งสร้างเสร็จ จัดเลี้ยงบ้านใหม่พร้อมฉลองการเลือกตั้งที่พรรคพลังประชาชน มีการดื่มกินเต้นรำอย่างสนุกสนาน นักร้องอมฮอลล์ก็ไปขับกล่อมด้วย บรรดาพี่น้องทั้งเจ๊แดง และสามีก็ไป
ได้ยินมาว่าวันนั้นทุกคนสะใจเป็นที่สุดบอกว่านี่เป็นเวลากว่าหนึ่งปีที่รอคอย..หลังจากการรัฐประหาร ต่อจากนั้นได้พูดคุยเรื่องนายกคนใหม่ที่ชื่อสมัคร สุนทรเวช และเบื้องหลังการคัดสรรหัวหน้าพรรคพลังประชาชน ที่เดิมมีชื่อของ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ มาเป็นแต่ตกลงเงื่อนไขกันไม่ได้
วงพี่น้องตระกูลที่มีอำนาจสูงสุดเวลานั้นเล่ากันในงานเลี้ยงว่า บิ๊กจิ๋ว ไม่ถูกรับเลือกเพราะดันไปเสนอเงื่อนไขเป็นจำนวนที่พี่ใหญ่รับไม่ได้ ไม่เหมือนกับอีกคนที่มาแบบเจียมเนื้อเจียมถ่อมไม่เรื่องมากว่างั้นเถอะ
ไม่รู้ว่าปีใหม่ 2553 บรรดาพี่น้องในตระกูลการเมืองจะเปิดบ้านเลี้ยงฉลองแบบนี้ได้อีกหรือไม่ และจะกล่าวถึงบิ๊กจิ๋วยังไง
ซึ่งก็ต้องรอดูก่อนว่าธันวานี้จะมีการเผาบ้านเผาเมืองกันอีกรอบหรือเปล่า !?
อันที่จริงการดันยิ่งลักษณ์ขึ้นเก้าอี้อยู่ในแผนมานานแล้ว เพียงแต่ต้องสร้างให้เป็นขั้นตอน การดันขึ้นก่อนเวลาเหมือนกับการชิงสุกก่อนห่ามอันเป็นเรื่องที่ตระกูลนี้ซาบซึ้งดี อย่างไรก็ตามคลื่นภายในพรรคเพื่อไทยที่ต้องการดันยิ่งลักษณ์ขึ้นเร็วกว่ากำหนดยังมีน้ำหนักอยู่ และอาจจะเพิ่มน้ำหนักมากขึ้นอยู่กับว่ากับบิ๊กจิ๋วจะทำตัวให้นายใหญ่ที่ดูไบไว้วางใจได้นานเท่าไหร่
อย่างกรณีที่ ส.ส.สมุทรปราการสายฮาร์ดคอร์ออกมาเปิดประเด็นว่านายกฯยุคหน้าต้องเป็นผู้หญิงนี่ก็เป็นการเคลื่อนไหวทางเปิดที่หลุดออกมาจากคลื่นใต้น้ำวงใน
แต่ก่อนจะลงถึงเรื่องพี่น้องชินวัตรในวงอำนาจ ขอเลี้ยวเข้าซอยว่าด้วย Political family สักหน่อย เพราะได้ค้นคว้าอย่างหยาบ ๆ ก่อนจะลงมือเขียน และได้พบว่าสังคมฝรั่งได้รวบรวมเรื่องราวของ Political family ค่อนข้างละเอียด กล่าวถึงตระกูลนักการเมืองที่ส่งไม้กันรุ่นต่อรุ่น ไม่เฉพาะในประเทศด้อยพัฒนาเท่านั้น เพราะในสหรัฐอเมริกา หรือ คานาดา เองก็มีตระกูลการเมืองผูกขาดอยู่พอสมควร
สังคมอเมริกันชอบบันทึกข้อมูล เขาจึงรวบรวมเอารายชื่อและสาแหรกตระกูลการเมืองละเอียดมาก ตั้งแต่ระดับชาติ อย่าง เคเนดี้ บุช ลงไปถึงระดับผูกขาดในท้องถิ่น เข้าไปดูใน Wikipedia ชื่อบทความ List of United States political families กับ List of Canadian political families ดูสิครับ..น่าสนใจทีเดียว โดยเฉพาะท่านที่ชอบสะสมเกร็ดความรู้
ยังคงอยู่ในซอยไม่ออกถนนใหญ่เพราะต้องการจะบอกว่าในสารานุกรม Wikipedia ยังรวบรวมรายชื่อสาแหรกตระกูลการเมืองของบรรดาประเทศต่าง ๆ เอาไว้จำนวนมากถึง 131 ประเทศในบทความเรื่อง List of political families ในจำนวนนี้มีประเทศไทยอยู่ด้วย แต่ไม่อัพเดทอย่างยิ่ง เขาระบุไว้เพียงตระกูล เวชชาชีวะตระกูลเดียวเท่านั้น ทั้ง ๆ ที่ตระกูลนักการเมืองไทยจากพ่อสู่ลูก สู่เมีย สู่หลาน ยังมีอีกมากมาย ท่านใดที่พอจะมีเวลารวบรวมช่วยอัพข้อมูลขึ้นไปให้ทันสมัยขึ้นน่าจะดีไม่น้อย
หรือหากอาจารย์รัฐศาสตร์ท่านใดเห็นประโยชน์ของสารานุกรมเปิดแบบ Open sources เช่นนี้ให้นักศึกษาแบ่งกลุ่มทำรายงานแล้วส่งขึ้นไปจะเป็นการช่วยพัฒนาทักษะการหาข้อมูลของเด็กได้อย่างดีทีเดียว ดีกว่าระบบเสิร์ชกูเกิ้ลตัดแปะส่งอย่างที่เป็นอยู่ทุกวันอย่างแน่นอน
ออกจากซอยแล้ว เอาล่ะครับกลับมาสู่เรื่องที่ต้องการจะนำเสนอกันเสียที
ไม่รู้จะสงสาร สมเพช หรือ อนุโมทนากับ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ดี
การที่ต้องออกจากชีวิตส่วนตัวมาอยู่ในโลกการเมืองนั้นหากคนที่ชอบมันก็ดีไป แต่สำหรับคนที่ไม่คุ้นเคยคงจะกระอักกระอ่วนพอสมควร
นี่ยังไม่ทันนั่งตำแหน่งอย่างเป็นทางการเลยประวัติส่วนตัวของยิ่งลักษณ์ ชินวัตรก็ถูกเผยแพร่กันพอสมควรถึงขนาดมีประวัติเชิงกระซิบเล่าขานตั้งแต่วันแรกคลอดถึงขนาดตั้งข้อสงสัยในความเป็นลูกคนสุดท้อง ผมไม่ขยายความหรอกครับและยังไม่เชื่อประวัติฉบับนี้นัก แต่สำหรับชีวิตวัยเยาว์ตั้งแต่ประถม มาถึงมัธยมที่ยุพราช จนกระทั่งชีวิตนักศึกษาในรั้ว ม.ช.นี่มันมีพยานหลักฐานร่วมสมัยเยอะ ปูของเพื่อน ๆ มีวีรกรรมอย่างไรคงจะมีการขยายความเผยแพร่กันมากขึ้นแน่ ๆ
คงจะลามไปถึงคุณอนุสรณ์ อมรฉัตร ซึ่งเป็นคนโลว์โปรไฟล์ที่อาจจะถูกลากขึ้นมาเล่าขานด้วยอีกคน อันที่จริงไม่ใช่เรื่องแปลกของคนหนุ่มน่าตาดีแถมมีฝีมือที่จะมีชีวิตวัยหนุ่มที่โลดโผนแต่เมื่อจะมีฐานะเป็นสามีของว่าที่หัวหน้าพรรคการเมือง ความเป็นส่วนตัวก็จะน้อยลงคล้าย ๆ กับสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ที่มีผู้ติดตามไปดูพฤติกรรมผาดแผลงนั่นแหละครับ
ก็ไม่รู้เหมือนกัน กังวลใจแทนไปทำมีมี ..เพราะปูยิ่งลักษณ์ อาจจะชอบก็ได้ !
ขึ้นชื่อว่าอำนาจนั้นหอมหวานใครเคยถืออยู่ในมือแล้วจะวางไม่ลง ก็เหมือนกับเจ๊แดง นั่นแหละ เมื่อปี 2543 ตอนที่ไทยรักไทยกำลังก่อร่างสร้างตัว เจ๊แดงถูกส่งมาเป็นผ.อ.ภาคเหนือ เจ๊แดงตอนนั้นเป็นละอ่อนทางการเมืองไม่ประสีประสา เขาบอกให้ทำอะไรก็ทำไป แต่ตอนนี้กลายเป็นเจ๊ใหญ่ที่กุมขบวนการสีแดงเอาไว้ ถนนทุกสายมุ่งมาคารวะ
เส้นทางของปู ยิ่งลักษณ์ กับ เจ๊แดง เหมือนกันตรงที่ขึ้นกับพี่แม้วกำหนด ตอนที่เจ๊แดงลาออกจากราชการเป็นพยาบาลนั้นเงินเดือนแค่ 7,000 กว่าบาทมาทำธุรกิจขายมือถือกึ่งผูกขาดฟันกำไรเป็นสิบเท่าในยุคที่มือถือก้อนบะเริ่มขว้างหัวหมาตายซ้ำยังแพงลิบลิ่ว จนกลายเป็นเศรษฐีที่ได้รับอานิสงส์จากสัมปทานของเอไอเอส พอตั้งพรรคพี่ชายก็บอกให้มาเป็นนอมินีกำกับคนในภาคเหนือ เจ๊แดงก็ทำตามไม่อิดออด ที่สุดก็เป็นภริยานายกรัฐมนตรีตามสูตรคลาสสิคของ Political family
เยาวเรศ ชินวัตร เองก็ใช่ย่อยตอนที่สร้างสุวรรณภูมิอยู่คนในวงการเขารู้กันดีว่าใช้นามสกุลไปทำอะไรบ้าง ที่ปรากฎเป็นข่าวออกมานั่นชัดเจนเพราะคนที่เกี่ยวข้องล้วนแต่เป็น ดาราวิทยาลัยคอนเน็คชั่นทั้งสิ้น
โชคดีของเยาวเรศ ที่ไม่ใช่น้องรักและไม่ถูกดันเข้าสู่วงจรการเมืองเต็มตัว มิฉะนั้นจะมีการเล่าขานประวัติโลดโผนของน้องสาวสุดเปรี้ยวคนนี้ออกมาอย่างน่าตื่นตาตื่นใจ เพราะอะไรที่ทำให้เรียนดาราวิทยาลัยไม่ทันจบก็ถูกส่งออกจากเชียงใหม่มาเรียนด้านอาชีพ แล้วก็ถูกส่งไปเมืองนอก เป็นสาวเนื้อหอมที่มีหวานใจหลากหลายแบบ
ย้อนหลังกลับไปเมื่อปีใหม่ 2551 เยาวเรศ พร้อมคู่ครองนายธนาคารเลือดเนื้อเชียงใหม่ เปิดคฤหาสน์ที่เพิ่งสร้างเสร็จ จัดเลี้ยงบ้านใหม่พร้อมฉลองการเลือกตั้งที่พรรคพลังประชาชน มีการดื่มกินเต้นรำอย่างสนุกสนาน นักร้องอมฮอลล์ก็ไปขับกล่อมด้วย บรรดาพี่น้องทั้งเจ๊แดง และสามีก็ไป
ได้ยินมาว่าวันนั้นทุกคนสะใจเป็นที่สุดบอกว่านี่เป็นเวลากว่าหนึ่งปีที่รอคอย..หลังจากการรัฐประหาร ต่อจากนั้นได้พูดคุยเรื่องนายกคนใหม่ที่ชื่อสมัคร สุนทรเวช และเบื้องหลังการคัดสรรหัวหน้าพรรคพลังประชาชน ที่เดิมมีชื่อของ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ มาเป็นแต่ตกลงเงื่อนไขกันไม่ได้
วงพี่น้องตระกูลที่มีอำนาจสูงสุดเวลานั้นเล่ากันในงานเลี้ยงว่า บิ๊กจิ๋ว ไม่ถูกรับเลือกเพราะดันไปเสนอเงื่อนไขเป็นจำนวนที่พี่ใหญ่รับไม่ได้ ไม่เหมือนกับอีกคนที่มาแบบเจียมเนื้อเจียมถ่อมไม่เรื่องมากว่างั้นเถอะ
ไม่รู้ว่าปีใหม่ 2553 บรรดาพี่น้องในตระกูลการเมืองจะเปิดบ้านเลี้ยงฉลองแบบนี้ได้อีกหรือไม่ และจะกล่าวถึงบิ๊กจิ๋วยังไง
ซึ่งก็ต้องรอดูก่อนว่าธันวานี้จะมีการเผาบ้านเผาเมืองกันอีกรอบหรือเปล่า !?