หลายปีมาแล้ว
ผมตลุยอ่านนวนิยายไทยเกือบ 70 กว่าเรื่อง เป็นนวนิยายที่เรียกกันว่าน้ำเน่าเสียเป็นส่วนใหญ่
แต่ 20 กว่าเล่มเป็นน้ำดีครับ
ถามว่าทำไมหรือ?
ก็เพราะผมอยากแต่งนวนิยายกับเขาบ้างนะซี
ความตั้งใจนี้ผมมีมาตั้งแต่เด็กแล้ว คือตั้งใจว่าจะเขียนนวนิยายให้ได้อย่างน้อย 1 เล่ม จะได้นอนตายตาหลับ
ผมมีพล็อตเตรียมไว้แยะเลย
เคยเขียนอยู่ 2-3 ครั้ง พิมพ์ลง นสพ.ด้วย และไปแค่ 5-6 ตอนก็เลิก
ความพร้อมของผมไม่อิ่มตัว
เวลานี้ผมก็มีนะ พล็อตและก็ไม่หวงด้วย แต่ผมคิดว่าใครเอาไปเขียนคงยาก
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ผมตั้งใจจะเขียนอย่างจริงจัง
เรื่องที่ว่าเกิดขึ้นใน 2 สถานที่ 2 ประเทศ แถมเกิดขึ้นในเวลาเดียวกันด้วย
คนหนึ่งสลบเพราะถูกแท็กเกิ้ลจากการเล่นรักบี้ คนนี้เป็นฝรั่งผมบลอนด์ ตาสีฟ้า สลบอยู่ 2 วัน ฟื้นขึ้นมาพูดภาษาแม่ของตัวเองไม่ค่อยได้ และบอกชื่อชัดว่าเป็นคนไทย เดินมาทางมาเรียนที่ประเทศนี้
อีกคนหนึ่งเวลาเดียวกัน ขับรถยนต์ฝ่าสายฝนจะไปเชียงใหม่ ขณะถึงลำปางในเส้นทางขึ้นภูเขา มีรถสวนเป็นรถบรรทุกหิน ถนนเปียก พุ่งเข้าชนปะทะกันโดนรถของคนนี้ตรงข้างๆ
เขาอาการสาหัสนอนครวญครางอยู่ชั่วโมงเศษ กระทั่งมีผู้หญิงกับญาติขับมาพบพาไปโรงพยาบาลโดยกลับไปลำปาง
เขานอนไม่รู้สึกตัวอยู่ 3 วัน 3 คืน
ตื่นขึ้นมาเขาพูดภาษาไทยไม่รู้เรื่อง พูดฝรั่งตลอด โรงพยาบาลต้องให้แพทย์ที่ได้ทุนเอเอฟเอสมาดู จึงได้ความว่าเขาชื่อ แม็คแคฟเฟตี้ จอห์น ทุกคนเรียกเขาว่า จอห์นนี่ เขาอธิบายไม่ได้ว่าเขามาเมืองไทยได้อย่างไร
ตัดภาพมาในห้องขนาดเล็ก ไม่มีหน้าต่างมีประตูห้องติดแอร์
นายตำรวจยศ พ.ต.อ.กำลังซักฝรั่งที่พูดไทยได้นิดหน่อย
“คุณมาทำไมที่ประเทศไทย”
“ผมมาบ้านผมไม่เห็นมีอะไรพิเศษ”
ตำรวจแปลกใจเพราะเขาไปจับกุมชายคนนี้เอง แต่เขาบุกเข้าบ้านที่สามเสน โดยมีกุญแจ ที่แม่ซึ่งอยู่ในบ้านบอกว่าเป็นกุญแจที่ลูกนำไปต่างประเทศด้วย เพราะเขามาเยี่ยมบ้านเกือบทุก 2 เดือน แม้แต่หมายังมาเล่นกับเขา
แต่ที่เหลือเชื่อ คือเมื่อเขาไปตรวจลายนิ้วมือ มันกลับเป็นว่าลายนิ้วมือเขาเหมือนทุกประการกับลูกชายของเจ้าของบ้าน นอกจากนั้นเขายังมีไฝมีปานที่ข้อเท้าซ้ายเหมือนกันทุกอย่าง
ที่ไม่เหมือนคือเขาเป็นฝรั่งผมทองตาสีฟ้า และพูดภาษาไทยไม่ชัดและไม่ค่อยได้
แต่เขาลำดับญาติฝ่ายพ่อและแม่ได้หมด คำถามทุกคำถามที่รู้เฉพาะครอบครัวเขาตอบได้หมด
อีกประเทศหนึ่งเด็กคนไทยพูดฝรั่งชัดมาก ทั้งๆ ที่เขาพูดไม่ได้เลย เพราะเพิ่งมาอยู่ได้แค่ 2 เดือน
เขาถูกพาไปหาครอบครัวใหม่ที่เขาทักทายพ่อแม่น้องสาวได้ทุกคน ทั้งๆ ที่คนเหล่านี้ไม่เคยรู้จักเขาเลย แม่แต่ญาติๆ ที่มาหาเขาก็รู้จักทุกคน
มันเป็นเรื่องแปลกใจที่สุด และเขาเข้าโบสถ์ เขาร้อง Hymn ได้ทุกเพลง โดยบาทหลวงเองก็แปลกใจ เมื่อเขาถามถึงลูกบาทหลวงว่ายังเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยที่เมืองนั้นเมืองนี้อยู่หรือไม่
ครับ... เรื่องแปลกๆ นี้ ยังแปลกยิ่งขึ้น เพราะเมื่อเด็กไทยคนนี้กลับเมืองไทย! พบว่า พ่อแม่เขาดีใจมาก แต่เขาไม่รู้จักเลย แม้แต่หมาตัวโปรดก็เห่าและขู่จะกัดเขาด้วยซ้ำ ลายตรงนิ้วมือเขาก็ไม่ใช่ของเขา แม้แต่แฟนคนเดิมเขาก็ไม่รู้จัก
เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเพื่อนคนไทยคนไหนที่เขาเคยรู้จักบัดนี้ไม่เป็นเพื่อนเขาแล้ว
เขาผิดหวังมาก และรู้สึกว่าที่นี่ไม่ใช่ประเทศไทยเสียแล้ว
เขาต้องการจะบวช แต่เขาทำไม่ได้ เพราะเขาเป็นคริสเตียนไปก่อนหน้านี้ อาจเป็นในชาติที่แล้ว
เรื่องแบบนี้ที่ผมจะเขียน
จะเมื่อไรเท่านั้น
ผมลงมือไปบ้างแล้ว โดยเขียนเป็นภาษาอังกฤษ เพราะว่าผมถนัดและเขียนได้เร็ว
แต่ก็ไม่รู้ว่า 6 เดือนจะเสร็จหรือไม่
ก็ไม่แน่ครับ
รออ่านแล้วกัน
ผมตลุยอ่านนวนิยายไทยเกือบ 70 กว่าเรื่อง เป็นนวนิยายที่เรียกกันว่าน้ำเน่าเสียเป็นส่วนใหญ่
แต่ 20 กว่าเล่มเป็นน้ำดีครับ
ถามว่าทำไมหรือ?
ก็เพราะผมอยากแต่งนวนิยายกับเขาบ้างนะซี
ความตั้งใจนี้ผมมีมาตั้งแต่เด็กแล้ว คือตั้งใจว่าจะเขียนนวนิยายให้ได้อย่างน้อย 1 เล่ม จะได้นอนตายตาหลับ
ผมมีพล็อตเตรียมไว้แยะเลย
เคยเขียนอยู่ 2-3 ครั้ง พิมพ์ลง นสพ.ด้วย และไปแค่ 5-6 ตอนก็เลิก
ความพร้อมของผมไม่อิ่มตัว
เวลานี้ผมก็มีนะ พล็อตและก็ไม่หวงด้วย แต่ผมคิดว่าใครเอาไปเขียนคงยาก
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ผมตั้งใจจะเขียนอย่างจริงจัง
เรื่องที่ว่าเกิดขึ้นใน 2 สถานที่ 2 ประเทศ แถมเกิดขึ้นในเวลาเดียวกันด้วย
คนหนึ่งสลบเพราะถูกแท็กเกิ้ลจากการเล่นรักบี้ คนนี้เป็นฝรั่งผมบลอนด์ ตาสีฟ้า สลบอยู่ 2 วัน ฟื้นขึ้นมาพูดภาษาแม่ของตัวเองไม่ค่อยได้ และบอกชื่อชัดว่าเป็นคนไทย เดินมาทางมาเรียนที่ประเทศนี้
อีกคนหนึ่งเวลาเดียวกัน ขับรถยนต์ฝ่าสายฝนจะไปเชียงใหม่ ขณะถึงลำปางในเส้นทางขึ้นภูเขา มีรถสวนเป็นรถบรรทุกหิน ถนนเปียก พุ่งเข้าชนปะทะกันโดนรถของคนนี้ตรงข้างๆ
เขาอาการสาหัสนอนครวญครางอยู่ชั่วโมงเศษ กระทั่งมีผู้หญิงกับญาติขับมาพบพาไปโรงพยาบาลโดยกลับไปลำปาง
เขานอนไม่รู้สึกตัวอยู่ 3 วัน 3 คืน
ตื่นขึ้นมาเขาพูดภาษาไทยไม่รู้เรื่อง พูดฝรั่งตลอด โรงพยาบาลต้องให้แพทย์ที่ได้ทุนเอเอฟเอสมาดู จึงได้ความว่าเขาชื่อ แม็คแคฟเฟตี้ จอห์น ทุกคนเรียกเขาว่า จอห์นนี่ เขาอธิบายไม่ได้ว่าเขามาเมืองไทยได้อย่างไร
ตัดภาพมาในห้องขนาดเล็ก ไม่มีหน้าต่างมีประตูห้องติดแอร์
นายตำรวจยศ พ.ต.อ.กำลังซักฝรั่งที่พูดไทยได้นิดหน่อย
“คุณมาทำไมที่ประเทศไทย”
“ผมมาบ้านผมไม่เห็นมีอะไรพิเศษ”
ตำรวจแปลกใจเพราะเขาไปจับกุมชายคนนี้เอง แต่เขาบุกเข้าบ้านที่สามเสน โดยมีกุญแจ ที่แม่ซึ่งอยู่ในบ้านบอกว่าเป็นกุญแจที่ลูกนำไปต่างประเทศด้วย เพราะเขามาเยี่ยมบ้านเกือบทุก 2 เดือน แม้แต่หมายังมาเล่นกับเขา
แต่ที่เหลือเชื่อ คือเมื่อเขาไปตรวจลายนิ้วมือ มันกลับเป็นว่าลายนิ้วมือเขาเหมือนทุกประการกับลูกชายของเจ้าของบ้าน นอกจากนั้นเขายังมีไฝมีปานที่ข้อเท้าซ้ายเหมือนกันทุกอย่าง
ที่ไม่เหมือนคือเขาเป็นฝรั่งผมทองตาสีฟ้า และพูดภาษาไทยไม่ชัดและไม่ค่อยได้
แต่เขาลำดับญาติฝ่ายพ่อและแม่ได้หมด คำถามทุกคำถามที่รู้เฉพาะครอบครัวเขาตอบได้หมด
อีกประเทศหนึ่งเด็กคนไทยพูดฝรั่งชัดมาก ทั้งๆ ที่เขาพูดไม่ได้เลย เพราะเพิ่งมาอยู่ได้แค่ 2 เดือน
เขาถูกพาไปหาครอบครัวใหม่ที่เขาทักทายพ่อแม่น้องสาวได้ทุกคน ทั้งๆ ที่คนเหล่านี้ไม่เคยรู้จักเขาเลย แม่แต่ญาติๆ ที่มาหาเขาก็รู้จักทุกคน
มันเป็นเรื่องแปลกใจที่สุด และเขาเข้าโบสถ์ เขาร้อง Hymn ได้ทุกเพลง โดยบาทหลวงเองก็แปลกใจ เมื่อเขาถามถึงลูกบาทหลวงว่ายังเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยที่เมืองนั้นเมืองนี้อยู่หรือไม่
ครับ... เรื่องแปลกๆ นี้ ยังแปลกยิ่งขึ้น เพราะเมื่อเด็กไทยคนนี้กลับเมืองไทย! พบว่า พ่อแม่เขาดีใจมาก แต่เขาไม่รู้จักเลย แม้แต่หมาตัวโปรดก็เห่าและขู่จะกัดเขาด้วยซ้ำ ลายตรงนิ้วมือเขาก็ไม่ใช่ของเขา แม้แต่แฟนคนเดิมเขาก็ไม่รู้จัก
เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเพื่อนคนไทยคนไหนที่เขาเคยรู้จักบัดนี้ไม่เป็นเพื่อนเขาแล้ว
เขาผิดหวังมาก และรู้สึกว่าที่นี่ไม่ใช่ประเทศไทยเสียแล้ว
เขาต้องการจะบวช แต่เขาทำไม่ได้ เพราะเขาเป็นคริสเตียนไปก่อนหน้านี้ อาจเป็นในชาติที่แล้ว
เรื่องแบบนี้ที่ผมจะเขียน
จะเมื่อไรเท่านั้น
ผมลงมือไปบ้างแล้ว โดยเขียนเป็นภาษาอังกฤษ เพราะว่าผมถนัดและเขียนได้เร็ว
แต่ก็ไม่รู้ว่า 6 เดือนจะเสร็จหรือไม่
ก็ไม่แน่ครับ
รออ่านแล้วกัน