เห็น พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ดิ้นรนยกทัพใหญ่หมายชิงอำนาจทรัพย์สินที่สูญไปทำให้นึกถึงจักรพรรดิ นโปเลียน โบนาปาร์ต ที่ไม่ยอมรับความพ่ายแพ้อุตส่าห์หนีจากเกาะอัลบาดิ้นรนสู้ใหม่ และในที่สุดก็ถูกทัพพันธมิตรที่มีทรัพยากรและพลังเหนือกว่าถล่มยับเยินในสมรภูมิวอเตอร์ลู
แพ้รอบก่อนเขายังให้เกียรติยอมรับในความเป็นจักรพรรดิยังให้ครอบครองเกาะเล็ก ๆ เป็นการไว้หน้าแต่รอบหลังที่พ่ายแพ้นี่สิหมดสิ้นทั้งเกียรติยศศักดิ์ศรีถูกส่งไปตายที่เซนต์เฮเลนน่า เกาะเล็ก ๆ ห่างจากเคปทาวน์ อาฟริกาใต้ 2,000 ก.ม.
เป็นการพ่ายแพ้ครั้งสุดท้ายที่ไม่เหลือต้นทุนใด ๆ ให้สู้ต่อ สุดท้ายก็รักษาไม่ได้กระทั่งชีวิตตัวเอง !
นโปเลียนเป็นอัจฉริยบุรุษที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคนหนึ่งของประวัติศาสตร์โลก อย่างน้อยเขาก็เคยครอบครองพื้นที่ยุโรปส่วนใหญ่ย้อนกลับไปดูมีเพียงจูเลียส ซีซาร์เพียงคนเดียวที่ทำเช่นนั้นได้ หรืออาจจะมีอีกคนก็คือฮิตเลอร์
เขาก้าวขึ้นเป็นจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่จากสถานการณ์ปฏิวัติฝรั่งเศสเพราะแม้ราชวงศ์จะถูกประหารไปแล้วแต่ประชาชนที่นิยมกษัตริย์ก็ยังมีอยู่ มีการสู้รบระหว่างฝ่ายปฏิวัติ กับพวกนิยมกษัตริย์ต่อเนื่องหลายปี นโปเลียนเติบโตขึ้นมาท่ามกลางรอยต่อที่สับสนดังกล่าว ความเด็ดขาดในการปราบปรามประชาชนฝ่ายนิยมกษัตริย์ทำให้นายทหารหนุ่มพรวดพราดขึ้นยืนแถวหน้าในเวลาข้ามคืน
ปัญหาของฝรั่งเศสยุคปฏิวัติคือมีศัตรูรายรอบ ทั้งอังกฤษ ปรัสเซีย ออสเตรีย รัสเซีย นโปเลียนเป็นแม่ทัพที่เก่งมากด้วยการพลิกตำราพิชัยสงครามรูปแบบใหม่ๆ ไม่เดินตามขนบดั้งเดิมเช่นหยุดทำศึกวันอาทิตย์ การเดินทัพกลางคืน หรือสั่งลุยท่ามกลางฝนตกหนัก ฯลฯ
จุดเปลี่ยนอยู่ที่เมื่อเขาเป็นผู้ทรงอำนาจอันดับหนึ่งของฝรั่งเศสเขาไม่หยุดแค่นั้น นโปเลียนกระหายที่จะครอบครองยุโรป สร้างยุโรปแบบแผนใหม่ด้วยแนวทางสาธารณรัฐ มีรัฐธรรมนูญมีการปฏิรูปการปกครองใหม่
มีอำนาจ มีความมั่งคั่งแล้ว ยังไม่หยุด !!
จากตำแหน่งกงสุลที่ 1 ซึ่งว่าใหญ่แล้วก็ขึ้นบัลลังก์มาเป็นจักรพรรดิ แถมส่งญาติพี่น้องไปครองดินแดนต่าง ๆ เถลิงอำนาจเป็นเชื้อพระวงศ์กันภายในวงศาคณาญาติ
การที่นโปเลียนไม่ยอมหยุดนี่เองที่เป็นจุดพลิกผันทำให้เขาต้องพ่ายแพ้รอบแรก - สูญเสียพ่ายแพ้ที่สเปนและโดยเฉพาะที่รัสเซียเพราะประเมินสถานการณ์ผิด ยกทัพไป 6 แสนเหลือกลับมาแค่ 3 หมื่น
ประวัติศาสตร์เล่าว่าตอนที่นโปเลียนพ่ายแพ้รอบแรก ก่อนจะถูกส่งไปเกาะอัลบา เขาพยายามกินยาพิษฆ่าตัวตาย ยอมรับชะตากรรม ปล่อยวางทุกอย่าง
นโปเลียนอยาก ๆ เบื่อ ๆ สุดท้ายไม่ยอมหยุดเพราะเกาะอัลบาอยู่ใกล้แผ่นดินใหญ่ ยังมีลูกน้องเก่า บรรดาทหารใกล้ชิดติดต่อและส่งข่าวว่ามีผู้ที่ยังจงรักภักดีต่อเขามากมาย
ด้วยแรงยุของลูกน้องเก่า - เขาหนีจากเกาะอัลบารวบรวมไพร่พลที่ยังจงรักภักดี คนเหล่านี้ยังคิดว่าเขาคืออัจฉริยะในสนามรบที่ไม่มีทัพใดต้านทานได้ ที่สุดก็มาเสียทียับเยินต่อกองกำลังผสมพันธมิตรที่สมรภูมิวอเตอร์ลู
มีบันทึกประวัติศาสตร์ตั้งข้อสังเกตว่า นโปเลียนในยุคหลังไม่ใช่นโปเลียนคนเดิม เขาขาดความเด็ดขาด ขาดความเชื่อมั่น ไม่ใช่แม่ทัพไร้พ่ายจอมอหังการ์เหมือนแต่ก่อน น่าเห็นใจไพร่พลของเขาที่เข้าใจว่านโปเลียนคือสุดยอดแม่ทัพเหมือนเดิม
เห็น พ.ต.ท.ทักษิณ ยิ่งดิ้นรนไปสู่หายนะในวันนี้ทำให้นึกถึง นโปเลียนวันที่หนีจากเกาะอัลบามาหาจุดจบบนแผ่นดินใหญ่
เห็นไพร่พลเสื้อแดงที่ออกมาท้าชนกับบรรดาผู้หลักผู้ใหญ่แล้วนึกถึงไพร่พลที่ยังจงรักภักดีของนโปเลียน พวกเขาเต็มไปด้วยความเชื่อมั่นนายเก่า ติดกับอดีตที่เคยยิ่งใหญ่ ทั้ง ๆ ที่แท้จริงเวลานั้นสติสัมปชัญญะกำลังและความเฉียบขาดของนโปเลียนไม่เหมือนเดิมแล้ว
และที่สำคัญประเมินศัตรูต่ำไป จนที่สุดก็พ่ายแพ้ยับเยินต่อกองกำลังผสมหลายชาติ ณ ที่ราบวอเตอร์ลูดังที่ทราบกันดี
.................
ระหว่างที่ปิดต้นฉบับนี้ เงี่ยหูฟังข่าวคราวของคนเสื้อแดงเชียงใหม่ที่ประกาศจะยกไปปิดล้อมศาลากลางจังหวัดซึ่งถือเป็นกลยุทธ์ดาวกระจายคู่ขนานกับปฏิบัติการที่ทำเนียบรัฐบาล
ใคร ๆ ก็รู้ว่าการจะปิดล้อมศาลากลางให้ได้ผลต้องใช้กำลังพลจำนวนมากอย่างน้อยต้อง 2 พันขึ้นไป เจ๊แดงน่าจะรู้ว่าการระดมคนแต่ละครั้งต้องใช้ทรัพยากรเท่าใด เพราะกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 นั้นมีเพดานจำกัดจะต้องอาศัยพลังช่วยเหลือจาก ส.ส.และบ้านกรีนวัลเลย์
ปักหลักอยู่ยาวปิดล้อมได้จริงนั้นเป็นไปได้ในทางทฤษฎี ขณะที่ทางปฏิบัติขึ้นอยู่กับทรัพยากรที่จะจัดสรรให้ล้วนแต่เจ๊ต้องควักให้.. แล้วมันจะได้ผลตอบกลับเป็นพลังในการต่อรองที่มีน้ำหนักมากน้อยแค่ไหน !!?
สังเกตสถานการณ์ที่ทำเนียบ และในต่างจังหวัด 3-4 วันมานี้ยิ่งสงสารทักษิณ เส้นทางของเขานั้นเลยจุดยูเทิร์นไปเรื่อย ๆ และกำลังเดินไปสู่อุโมงค์ที่ตัวเองเชื่อว่าจะมีแสงสว่างอยู่เบื้องปลาย
ส่วนเจ๊แดงนั้นกำลังถลำไปสู่กับดักที่พี่ชายสร้างขึ้น !
กองกำลังเสื้อแดงกำลังเป็นฝ่ายเข้าโจมตี ทุกสมรภูมิดูจะคึกคัก พอซัดใส่ฝ่ายตรงกันข้ามดอกใดก็ออกอาการจ้าละหวั่นให้เห็น
คนที่อยู่ในสนามรบอาจจะมองด้วยสายตาของคนที่อยู่ในสนาม อาจคิดว่ากำลังได้เปรียบ
นโปเลียนเคยสรุปบทเรียนที่ตนเคยเหมือนชนะแต่พ่ายแพ้ยับเยินว่า
“ความยอดเยี่ยมที่สุด กับ ความย่ำแย่เลวร้ายที่สุดนั้นห่างกันเพียงแค่ก้าวเดียว”
ทักษิณ ชินวัตร อาจกำลังคิดว่าตนกำลังก้าวสู่ความยอดเยี่ยมที่สำเร็จสวยงามก็ได้ เพราะในการสู้รบกำลังใจปลุกปลอบตัวเองเป็นเรื่องสำคัญที่สุด จึงอาจไม่ได้มองเผื่อเหลือเผื่อขาดไว้
ขอเตือน - ทักษิณ และคนใกล้ชิดน่าจะเผื่อใจคิดถึงความย่ำแย่เลวร้ายที่สุดเอาไว้ก็ดี เพราะนโปเลียนบอกไว้แล้วว่า ความยอดเยี่ยมที่สุด กับ ความย่ำแย่เลวร้ายที่สุดนั้นห่างกันเพียงแค่ก้าวเดียว !!