ก่อนจะเข้าเรื่องตามหัวเรื่องก็มีข่าวต้องแสดงความยินดีต่อท่านตุลาการศาลรัฐธรรมนูญใหม่ทั้ง 4 ท่าน คือ ท่านจรัล ภักดีธนากุล, ท่านวสันต์ สร้อยพิสุทธ์ และสายรัฐศาสตร์อีก 2 ท่าน คือ ท่านสุพจน์ ไข่มุกข์ และท่านเฉลิมพล เอกอุรุ
ทุกท่านมีเกียรติประวัติและก็มีผลงานเป็นที่ยอมรับด้วยกันในแวดวงอาชีพด้วยกันทุกท่าน
ขณะที่ท่านยังมิได้เข้าทำงานเลยโดยยังเพิ่งแค่ได้รับเลือกเท่านั้น นายกรัฐมนตรีก็ออกมาฉะเป็นการใหญ่ว่า คนใหม่เหล่านี้ดูเหมือนจะอยู่ฝ่ายตรงข้ามกับรัฐบาล
และว่าเป็นการรีบตั้งเสียอีก แทนที่จะมองโลกในแง่ดีเสียบ้าง
ขณะที่พรรคฝ่ายค้านกลับเห็นว่าตุลาการชุดใหม่จะทำให้ศาลรัฐธรรมนูญดีขึ้นกว่าเดิม และกล่าวว่าเรื่องการยุบพรรคเป็นเรื่องดุลยพินิจต้องพิจารณาจากองค์ประกอบหลายปัจจัย
คราวนี้หันมาเข้าเรื่องกันเสียที
คือเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ วิญญูชนย่อมรู้ดีว่า การที่รัฐบาลเป็นตัวการหาทางแก้รัฐธรรมนูญ โดยเน้นไปยังบางมาตรานั้น
มันมีสาเหตุที่จะแก้เรื่องเหตุแห่งการ “ยุบพรรค”
ไม่ใช่ตั้งใจจริงที่จะทำให้รัฐบาลดีหรือทำเพื่อประชาชนส่วนรวมแต่ประการใดทั้งนั้น
ของแบบนี้คนรู้ทัน ไม่ใช่ไม่รู้ เพียงแต่กำลังจับตาดูอยู่ว่า รัฐบาลยังจะตะแบงกันอย่างไรเท่านั้นแหละครับ
ตัวนายกฯ เอง ก็โจมตีพวกที่ขวางการแก้รัฐธรรมนูญ ทำนองว่าคนพวกนี้ไม่โดนกับตัวเองก็ไม่รู้ และอ้างว่าถูกจับเงิน 1.3 ล้านกับเงินหมื่นกว่าบาท โดนใบเหลืองเหมือนกัน
ก็แน่ละครับ ความผิดมันไม่มีระบุว่า เงินมากเงินน้อย
มันอยู่ที่เจตนาหรือตั้งใจซื้อเสียง
มันผิดกฎหมายเลือกตั้งครับ
ไม่เกี่ยวเงินมากหรือน้อย
ของแบบนี้ไม่รู้ว่านายกฯ จะมาโอดครวญทำไม
นอกจากนี้แล้ว การจะแก้รัฐธรรมนูญ มันเป็นเรื่องใหญ่ เป็นเรื่องที่สมควรให้ประชาชนมีส่วนร่วม
วิธีซึ่งเขาทำกันทั่วโลกคือให้ประชาชนลงประชามติครับ
นายกฯ กลัวว่าแพง
มันก็ไม่เกี่ยวกับแพงอีกละครับ
แล้วนายกฯ ก็ไปอ้างว่า พวกตนและ ส.ส.ทั้งหมดเป็นตัวแทนมาแล้ว ดังนั้นเท่ากับประชาชนมอบหมายให้ทำแทน
จึงไม่ต้องลงประชามติ
ผิดอีกแล้วครับท่าน
เขาให้ไปออกกฎหมายไปแก้กฎหมาย
หาใช่ไปแก้กฎหมายหลักอย่างรัฐธรรมนูญแต่ประการใดไม่
ของแบบนี้มันใหญ่เกินกว่าที่จะข้ามหัวประชาชน
เขามีทางเลือกให้คนไปลงประชามติ
ตัวนายกฯ น่ะรู้ดีว่า ถ้ามีการให้ลงประชามติ คนเขาไม่เอาด้วยแน่
ก็ไหนว่าคนเลือกมาตั้ง 14 ล้านคน แน่ใจว่ามีคนส่วนมากสนับสนุนก็ลองดูเถิด
นอกจากนี้ยังบอกว่าเมื่อแก้รัฐธรรมนูญแล้วก็จะไม่ยุบสภา
ผมว่า ไม่จริงครับ
เพราะกระบวนแก้มันใช้เวลา ไม่ใช่นึกอยากจะแก้ก็แก้วันให้เสร็จวันสองวันหรือ 2-3 อาทิตย์
เอาเข้าจริงๆ 2-3 เดือน ไม่รู้เสร็จไหม
ถ้าแก้กันทั้งฉบับมิเป็นปีหรือ?
ยึดเยื้อ.. เค้าอาจจะสั่ง “ยุบพรรค” เสียก่อนก็ได้
ถ้ามีเค้าว่าจะยุบละก็
รับรองมียุบสภาให้เห็นครับ
ระหว่างยุบสภาไปแล้วก็น่าจะมีการรวบรัดแก้รัฐธรรมนูญกันเร่งด่วน
คราวนี้ละครับ พวกโกงเลือกตั้งสบายมือเฉิบเลย
เพราะอ้างว่าไม่เกี่ยวกับฝ่ายบริหารพรรคได้ตลอด
เหตุนี้แหละ ทำให้ชาวบ้านเขาเบื่อการเมือง ในยามนี้เศรษฐกิจเราก็ย่อมแย่ยวบยาบเต็มทีแล้ว
เรายังเจอะมรสุม นักการเมืองเอาแต่ผลประโยชน์เฉพาะพรรค เฉพาะตัวเข้าไปอีก
ประเทศชาตินี้จะเจริญไปได้อย่างไร
ผมมองไม่เห็นครับ
ทุกท่านมีเกียรติประวัติและก็มีผลงานเป็นที่ยอมรับด้วยกันในแวดวงอาชีพด้วยกันทุกท่าน
ขณะที่ท่านยังมิได้เข้าทำงานเลยโดยยังเพิ่งแค่ได้รับเลือกเท่านั้น นายกรัฐมนตรีก็ออกมาฉะเป็นการใหญ่ว่า คนใหม่เหล่านี้ดูเหมือนจะอยู่ฝ่ายตรงข้ามกับรัฐบาล
และว่าเป็นการรีบตั้งเสียอีก แทนที่จะมองโลกในแง่ดีเสียบ้าง
ขณะที่พรรคฝ่ายค้านกลับเห็นว่าตุลาการชุดใหม่จะทำให้ศาลรัฐธรรมนูญดีขึ้นกว่าเดิม และกล่าวว่าเรื่องการยุบพรรคเป็นเรื่องดุลยพินิจต้องพิจารณาจากองค์ประกอบหลายปัจจัย
คราวนี้หันมาเข้าเรื่องกันเสียที
คือเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ วิญญูชนย่อมรู้ดีว่า การที่รัฐบาลเป็นตัวการหาทางแก้รัฐธรรมนูญ โดยเน้นไปยังบางมาตรานั้น
มันมีสาเหตุที่จะแก้เรื่องเหตุแห่งการ “ยุบพรรค”
ไม่ใช่ตั้งใจจริงที่จะทำให้รัฐบาลดีหรือทำเพื่อประชาชนส่วนรวมแต่ประการใดทั้งนั้น
ของแบบนี้คนรู้ทัน ไม่ใช่ไม่รู้ เพียงแต่กำลังจับตาดูอยู่ว่า รัฐบาลยังจะตะแบงกันอย่างไรเท่านั้นแหละครับ
ตัวนายกฯ เอง ก็โจมตีพวกที่ขวางการแก้รัฐธรรมนูญ ทำนองว่าคนพวกนี้ไม่โดนกับตัวเองก็ไม่รู้ และอ้างว่าถูกจับเงิน 1.3 ล้านกับเงินหมื่นกว่าบาท โดนใบเหลืองเหมือนกัน
ก็แน่ละครับ ความผิดมันไม่มีระบุว่า เงินมากเงินน้อย
มันอยู่ที่เจตนาหรือตั้งใจซื้อเสียง
มันผิดกฎหมายเลือกตั้งครับ
ไม่เกี่ยวเงินมากหรือน้อย
ของแบบนี้ไม่รู้ว่านายกฯ จะมาโอดครวญทำไม
นอกจากนี้แล้ว การจะแก้รัฐธรรมนูญ มันเป็นเรื่องใหญ่ เป็นเรื่องที่สมควรให้ประชาชนมีส่วนร่วม
วิธีซึ่งเขาทำกันทั่วโลกคือให้ประชาชนลงประชามติครับ
นายกฯ กลัวว่าแพง
มันก็ไม่เกี่ยวกับแพงอีกละครับ
แล้วนายกฯ ก็ไปอ้างว่า พวกตนและ ส.ส.ทั้งหมดเป็นตัวแทนมาแล้ว ดังนั้นเท่ากับประชาชนมอบหมายให้ทำแทน
จึงไม่ต้องลงประชามติ
ผิดอีกแล้วครับท่าน
เขาให้ไปออกกฎหมายไปแก้กฎหมาย
หาใช่ไปแก้กฎหมายหลักอย่างรัฐธรรมนูญแต่ประการใดไม่
ของแบบนี้มันใหญ่เกินกว่าที่จะข้ามหัวประชาชน
เขามีทางเลือกให้คนไปลงประชามติ
ตัวนายกฯ น่ะรู้ดีว่า ถ้ามีการให้ลงประชามติ คนเขาไม่เอาด้วยแน่
ก็ไหนว่าคนเลือกมาตั้ง 14 ล้านคน แน่ใจว่ามีคนส่วนมากสนับสนุนก็ลองดูเถิด
นอกจากนี้ยังบอกว่าเมื่อแก้รัฐธรรมนูญแล้วก็จะไม่ยุบสภา
ผมว่า ไม่จริงครับ
เพราะกระบวนแก้มันใช้เวลา ไม่ใช่นึกอยากจะแก้ก็แก้วันให้เสร็จวันสองวันหรือ 2-3 อาทิตย์
เอาเข้าจริงๆ 2-3 เดือน ไม่รู้เสร็จไหม
ถ้าแก้กันทั้งฉบับมิเป็นปีหรือ?
ยึดเยื้อ.. เค้าอาจจะสั่ง “ยุบพรรค” เสียก่อนก็ได้
ถ้ามีเค้าว่าจะยุบละก็
รับรองมียุบสภาให้เห็นครับ
ระหว่างยุบสภาไปแล้วก็น่าจะมีการรวบรัดแก้รัฐธรรมนูญกันเร่งด่วน
คราวนี้ละครับ พวกโกงเลือกตั้งสบายมือเฉิบเลย
เพราะอ้างว่าไม่เกี่ยวกับฝ่ายบริหารพรรคได้ตลอด
เหตุนี้แหละ ทำให้ชาวบ้านเขาเบื่อการเมือง ในยามนี้เศรษฐกิจเราก็ย่อมแย่ยวบยาบเต็มทีแล้ว
เรายังเจอะมรสุม นักการเมืองเอาแต่ผลประโยชน์เฉพาะพรรค เฉพาะตัวเข้าไปอีก
ประเทศชาตินี้จะเจริญไปได้อย่างไร
ผมมองไม่เห็นครับ
