เกิดเหตุรถยนต์ไฟฟ้า Xiaomi SU7 ประสบอุบัติเหตุและไฟไหม้บนทางด่วนในจีนเมื่อวันที่ 1 เมษายนที่ผ่านมา ทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 คน เหตุการณ์นี้สร้างความสนใจในโลกออนไลน์อย่างมาก โดยเฉพาะหลังจากมีผู้ใช้รายหนึ่งในเว็บไซต์ Zhihu ออกมาเล่าว่า เขาเคยขับรถรุ่นเดียวกันบนถนนเส้นเดียวกัน และเกิดอุบัติเหตุคล้ายกันเมื่อวันที่ 13 มีนาคมที่ผ่านมา
ผู้ใช้คนดังกล่าวเล่าว่า ตอนเกิดเหตุ เขาเปิดระบบช่วยขับอัตโนมัติ (NOA) แล้วขับอยู่บนทางด่วนที่กำลังก่อสร้าง ก่อนที่รถจะพุ่งชนแท่งป้องกันข้างทางระหว่างเปลี่ยนเลน โชคดีที่เขาเบี่ยงพวงมาลัยทัน ทำให้ไม่ชนเข้าเต็มๆ แต่กระจกมองข้างก็แตกไป
เขายังบอกอีกว่า ถนนช่วงนั้นไม่มีป้ายเตือนเรื่องงานก่อสร้าง และตอนขับผ่านก็ไม่มีไฟกระพริบเหมือนที่ควรจะมีตอนกลางคืน ระบบนำทางก็ไม่มีการแจ้งเตือนเรื่องถนนกำลังก่อสร้าง ทำให้เขารู้สึกว่าจุดนั้นอันตรายมาก และน่าจะเกิดอุบัติเหตุขึ้นได้ง่าย
ผู้สื่อข่าวจาก Dute News พยายามติดต่อสอบถามหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เริ่มจากสำนักงานขนส่ง ซึ่งเจ้าหน้าที่แจ้งว่าต้องสอบถามกับตำรวจจราจร เมื่อติดต่อไปยังทีมตำรวจจราจรทางหลวง เจ้าหน้าที่เพียงตอบว่าไม่ทราบเรื่อง และตัดสายไป
ในวันเดียวกัน Xiaomi ออกแถลงการณ์ว่า จุดเกิดเหตุอยู่ระหว่างการซ่อมถนน โดยมีการปิดช่องทางฝั่งหนึ่ง และให้รถวิ่งสวนเลนแทน ซึ่งตรงกับข้อมูลจากศูนย์จัดการทางด่วนที่แจ้งว่ามีการเริ่มงานก่อสร้างตั้งแต่วันที่ 29 มีนาคม เวลา 19.00 น. โดยปิดฝั่งถนนด้านหนึ่ง และให้รถวิ่งสวนเลนบนอีกฝั่ง
หน่วยงานที่ดูแลถนนบอกว่าได้ติดป้ายเตือนตามกฎแล้ว แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบแผนที่บอกว่า โดยปกติจะไม่ปิดถนนทั้งฝั่งแบบนี้ และควรมีการติดป้ายเตือนงานก่อสร้างล่วงหน้าเป็นระยะ เช่น ที่ระยะ 2 กิโลเมตร, 1.5 กิโลเมตร และ 1.2 กิโลเมตร นอกจากนี้ยังตั้งข้อสงสัยว่าระบบขับอัตโนมัติของรถสามารถตรวจจับสัญญาณเหล่านี้ได้ทันหรือไม่
อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นถึงสองครั้งบนถนนเส้นเดียวกัน และเกี่ยวข้องกับรถรุ่นเดียวกัน ทำให้คนในสังคมตั้งคำถามถึงความปลอดภัยของถนนที่กำลังก่อสร้าง และการทำงานของระบบขับขี่อัจฉริยะของรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นนี้
ที่มา: 读特新闻