xs
xsm
sm
md
lg

เทสลาเปิดตัวโครงการโรงงาน ‘เมกะแพก’ ขนาดใหญ่ในเซี่ยงไฮ้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เทสลา อิงค์ (Tesla Inc.) ผู้ผลิตรถยนต์ของสหรัฐฯ เปิดตัวโครงการโรงงานขนาดใหญ่แห่งใหม่อย่างเป็นทางการ ซึ่งสามารถผลิตเมกะแพก (Megapack) ส่งจำหน่ายทั่วโลก จำนวน 10,000 อันต่อปี ในนครเซี่ยงไฮ้ทางตะวันออกของจีน

รายงานระบุว่า มีการจัดพิธีลงนามจัดซื้อที่ดินสำหรับโครงการนี้ในนครเซี่ยงไฮ้เมื่อช่วงเช้าวันศุกร์ (22 ธ.ค.) โดยเมกะแพกเป็นแบตเตอรี่สมรรถนะสูงที่จัดเก็บและสนับสนุนพลังงาน ช่วยรักษาเสถียรภาพของโครงข่ายไฟฟ้าและป้องกันไฟฟ้าขัดข้อง

โรงงานแห่งใหม่จะตั้งอยู่ที่เขตใหม่หลินกั่งของเขตการค้าเสรีนำร่อง (เซี่ยงไฮ้) แห่งประเทศจีน มีกำหนดเริ่มต้นก่อสร้างในไตรมาสแรก (มกราคม-มีนาคม) และเริ่มต้นการผลิตในไตรมาส 4(ตุลาคม-ธันวาคม) ของปี 2024 โดยขั้นต้นจะผลิตเมกะแพก 10,000 อันต่อปี ซึ่งเทียบเท่าการกักเก็บพลังงานเกือบ 40

เถาหลิน รองประธานเทสลา ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซินหัวว่า โรงงานขนาดใหญ่แห่งใหม่เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพแผนผังการผลิตระดับโลกครั้งสำคัญของเทสลา ขณะตลาดจีนเป็น “สิ่งจำเป็น” สำหรับการพัฒนาของเทสลา โดยนโยบายเปิดกว้าง แนวคิดการพัฒนาขั้นสูง และสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่ดีของจีนสร้างโอกาสอันยิ่งใหญ่ให้เหล่าผู้ประกอบการ รวมถึงเทสลา

ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนมกราคม 2019 เทสลาได้เริ่มต้นก่อสร้างโรงงานเซี่ยงไฮ้ กิกะแฟกทอรี ซึ่งกลายเป็นโรงงานแห่งแรกที่ได้ประโยชน์จากนโยบายใหม่ที่เกื้อหนุนผู้ผลิตรถยนต์จากต่างประเทศเข้ามาจัดตั้งบริษัทย่อยที่เป็นเจ้าของเองทั้งหมดในจีน โดยโรงงานเซี่ยงไฮ้ กิกะแฟกทอรี มีผลลัพธ์โดดเด่นและส่งมอบยานยนต์ที่ผลิตในจีนชุดแรกภายในหนึ่งปี

ช่วงหลายปีที่ผ่านมา เทสลาเดินหน้าเพิ่มการลงทุนในเขตใหม่หลินกั่ง ขยับขยายกำลังการผลิตของโรงงานเซี่ยงไฮ้ กิกะแฟกทอรี และก่อสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกเพิ่มขึ้น ซึ่งรวมถึงโรงงานผลิตซูเปอร์ชาร์จเจอร์

โรงงานเซี่ยงไฮ้ กิกะแฟกทอรี ได้ส่งมอบยานยนต์มากกว่า 850,000 คัน ในช่วงเดือนมกราคม-พฤศจิกายนของปีนี้ ซึ่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 30 เมื่อเทียบปีต่อปี และยังกลายเป็นศูนย์กลางการส่งออกหลักระดับโลกของเทสลา

เถาเสริมว่าโครงการโรงงานขนาดใหญ่แห่งใหม่นี้จะช่วยส่งเสริม “ความเร็วแบบเทสลา” ด้วยสมรรถนะการผลิตอันมีประสิทธิภาพ ควบคู่กับสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่มีคุณภาพสูงในเขตใหม่หลินกั่งของนครเซี่ยงไฮ้

ที่มา/ภาพ สำนักข่าวซินหัว


กำลังโหลดความคิดเห็น