โดย ร่มฉัตร จันทรานุกูล
ตั้งแต่ที่จีนประกาศเปิดประเทศเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ผู้นำประเทศต่างๆ และนักธุรกิจระดับโลกจากฝั่งยุโรปและอเมริกาต่างทยอยเดินทางมาเยือนจีน เพื่อพบปะกับกลุ่มผู้นำและเอกชนจีน เป็นการกระชับสัมพันธ์และเจรจาแสวงหาทางขยายความร่วมมือ ในขณะที่จีนกำลังต้องการดึงดูดการลงทุนอย่างมาก ในหลายปีที่ผ่านมาความสัมพันธ์ระหว่างจีนและสหรัฐฯ ก็มีแต่ทรงๆ ทรุดๆ ยังไม่มีสัญญาณที่ 2 ประเทศจะกลับมาชื่นมื่นกัน ทำให้ในช่วงนี้การเดินทางมาเยือนจีนของนักธุรกิจและฝ่ายผู้นำสหรัฐฯ ได้รับความสนใจจับตามองจากทั้งสื่อโลก และสื่อในประเทศจีนเอง
หนึ่งในนักธุรกิจและนักสังคมสงเคราะห์ระดับโลกอย่าง บิล เกตส์ ได้เดินทางมาจีนเมื่อวันที่ 14 มิ.ย.ที่ผ่านมา นับเป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปีของการเยือนจีนเขา โดยในครั้งนี้บิล เกตส์เดินทางมาในนามประธานมูลนิธิบิลเกตส์ ดังนั้น จุดประสงค์ในการพูดคุยกับจีนจะเน้นเรื่องกิจกรรมของมูลนิธิด้านสังคมสงเคราะห์ รักษาสิ่งแวดล้อมและช่วยเหลือผู้ยากไร้
ผู้เขียนเซอร์ไพรส์ที่เห็นภาพข่าวการมาเยือนจีนของบิล เกตส์ และได้เข้าพบปะกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ซึ่งภาพแบบนี้จะไม่เห็นกันง่ายๆ เนื่องจากความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของจีนและสหรัฐฯ ที่ยังตึงเครียดอยู่และที่ผ่านมา ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงค่อนข้างที่จะวางตัวกับคนของทางสหรัฐฯ สื่อได้ออกข่าวการพูดคุย...ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงใช้คำว่า “เพื่อนเก่า” กับบิล เกตส์ กล่าวยกย่องและขอบคุณมูลนิธิบิลเกตส์ที่ได้ช่วยเหลือจีนด้านสังคมสงเคราะห์ตลอดมา ตัวของบิล เกตส์เองก็ยกย่องการเติบโตของจีนและเป็นมิตรกับจีนมาโดยตลอด
สฝสื่อจีนมีการรายงานวิเคราะห์กันว่า “ทำไมทริปมาจีนของบิล เกตส์ ถึงสำคัญกว่าอีลอน มัสก์? เหตุผลก็ง่ายมากเพราะอีลอน มัสก์ทำแค่ธุรกิจเท่านั้น แต่บิล เกตส์ ไม่ใช่แค่มาทำธุรกิจกับจีน แต่ยังเห็นด้วยกับปรัชญาการพัฒนาของจีนมาโดยตลอด ดังนั้น บิล เกตส์ ไม่ได้เป็นนักธุรกิจที่แสวงหาแต่กำไรผลประโยชน์ของตน แต่เขาเป็นนักสังคมสงเคราะห์ตัวจริงและตัวยง บิล เกตส์ฝันที่มีจะส่วนร่วมในด้านการพัฒนาการศึกษา เกษตรกรรมและการรักษาพยาบาลของโลก! เป็นความฝันที่อยากให้มวลมนุษยชาติมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น โดยปราศจากการแบ่งแยกประเทศ หรือเชื้อชาติ!”
บิล เกตส์ เป็นผู้ก่อตั้งบริษัทไมโครซอฟท์ (Microsoft) บริษัทซอฟต์แวร์อันดับหนึ่งของโลก และเป็นหนึ่งในผู้ใจบุญที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก ด้วย บิล เกตส์ได้รับการจัดอันดับเป็นบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลกหลายต่อหลายครั้ง แต่หลังจากปี 2020 เป็นต้นมา บิล เกตส์ลาออกจากตำแหน่งบริหารในบริษัทฯ วางมือด้านธุรกิจและไปทำงานมุ่งเน้นการพัฒนาสังคมสงเคราะห์แบบเต็มตัว กิจกรรมด้านสังคมสงเคราะห์ต่างๆ ดำเนินการหลักภายใต้มูลนิธิของบิลเกตส์ที่ถูกจัดตั้งขึ้นมาตั้งแต่ปี 2000 โดยใช้ชื่อเต็มอย่างเป็นทางการว่า Bill & Melinda Gates Foundation มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมืองซีแอตเติล ประเทศสหรัฐอเมริกา ภายใต้การดูแลของ บิล เกตส์และอดีตภรรยาของเขา นางเมลินด้า เกตส์ มูลนิธิมุ่งมั่นที่จะนำนวัตกรรมของมนุษย์มาใช้เพื่อลดความเหลื่อมล้ำด้านการรักษาสุขภาพ ยกระดับคุณภาพชีวิตและการพัฒนาด้านการศึกษา การรักษาสิ่งแวดล้อมทั่วโลก
ความสัมพันธ์ของบิล เกตส์กับจีนเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ปี 1994 ในปีนั้นเป็นครั้งแรกที่บิล เกตส์เดินทางมาจีน ตั้งแต่นั้นมาเขาได้ไปเยือนจีนมากกว่า 18 ครั้ง บิล เกตส์เป็นผู้ใช้ ‘เวยปั๋ว’ แพลตฟอร์มโซเชียลของจีน โพสต์เมื่อเขามาถึงปักกิ่งในวันที่ 14 มิ.ย. มีข้อความสำคัญว่า
“มูลนิธิบิลเกตส์ได้ร่วมมือกับจีนด้านสาธารณสุขและแก้ไขปัญหาความท้าทายของการพัฒนามานานกว่า 15 ปี ผมรู้สึกดีใจเป็นอย่างมากที่ได้มาจีนอีกครั้ง ในด้านของการลดอัตราการตายของเด็กทารกและลดความยากจน ขณะที่โลกได้พัฒนาไปมาก แต่แล้ววิกฤตโลกก็ทำให้การพัฒนาเหล่านี้หยุดชะงัก การขึ้นราคาอาหาร ภาระหนี้สินและการเพิ่มขึ้นของโรควัณโรคและโรคมาลาเรียเป็นสิ่งที่ท้าทาย ประเทศแถบแอฟริกาเป็นกลุ่มที่เปราะบาง ตรงนี้เองทำให้ผมต้องไปดูงานที่แอฟริกาตะวันตกเร็วๆ นี้ ต้องแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม การเข้าไม่ถึงระบบสาธารณสุขของผู้คนยากไร้และประเด็นความปลอดภัยอาหาร พวกเราต้องการนวัตกรรมจากการพัฒนายาต้านโรคมาลาเรียตัวใหม่ ไปจนถึงการสรรหาวิธีการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม จีนมีประสบการณ์เป็นอย่างมาก พวกเราต้องช่วยเหลือมนุษยชาติให้ได้มากที่สุด”
อ่านมาถึงตรงนี้ผู้อ่านอาจจะพอเห็นภาพความตั้งใจของบิล เกตส์ที่อยากทำงานเพื่อส่วนรวม และเขาก็ได้แชร์ข้อความนี้ในช่องทางเวยปั๋วแพลตฟอร์มของจีนที่ต่างชาติไม่นิยมใช้ ตรงนี้แสดงให้เห็นความใส่ใจในรายละเอียดของบิล เกตส์ หลายประเด็นที่เป็นความตั้งใจของบิล เกตส์ก็สอดคล้องกับนโยบายการพัฒนาของจีนในปัจจุบัน
นับได้ว่าบิล เกตส์เป็นหนึ่งคนอเมริกันที่ได้เห็นการเปลี่ยนแปลงและความก้าวหน้าของจีน โดยเขามีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนการพัฒนาด้วยเช่นกัน ทีนี้เรามาดูโครงการของมูลนิธิบิลเกตส์ในจีน ที่สำคัญหลักๆ ดังต่อไปนี้
- สนับสนุนงานด้านการแก้ไขความยากจนในจีน มูลนิธิบิลเกตส์ร่วมมือกับคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติจีนและหน่วยงานอื่นๆ เพื่อจัดตั้งต้นแบบนวัตกรรมนำร่องในด้านระบบบริการสุขภาพระดับรากหญ้าและการปรับปรุงโภชนาการของเด็ก ร่วมมือกับสำนักงานบรรเทาความยากจนของสภาแห่งรัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการวิจัยนโยบายการบรรเทาความยากจน สรุปประสบการณ์ ส่งเสริมการแบ่งปันประสบการณ์ภายในจีนและระหว่างประเทศอื่นๆ และช่วยระดมผู้คนให้มีส่วนร่วมและสนับสนุนงานบรรเทาความยากจนของจีน
- ช่วยการปรับปรุงระบบสาธารณสุข เปิดตัวชุดโครงการกับรัฐบาลจีนเพื่อวิจัยและพัฒนายารักษาโรคแบบใหม่ เพื่อลดการแพร่กระจายของวัณโรคและโรคเอดส์อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ลดผลกระทบจากภาระทางเศรษฐกิจของรัฐบาล
- การขยายโครงการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคแห่งชาติ โดยมูลนิธิบิลเกตส์ ร่วมมือกับศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของจีน คณะกรรมการที่ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านโครงการสร้างภูมิคุ้มกันแห่งชาติจีน ในด้านการบริหารด้านสาธารณสุขในจีน มูลนิธิบิลเกตส์มีส่วนช่วยจีนให้บริหารอย่างมีประสิทธิภาพ
- การพัฒนาและความร่วมมือด้านการกุศลกับจีน มูลนิธิฯ ได้ร่วมมือกับรัฐบาล สถาบันการศึกษา องค์กรทางสังคม และมูลนิธิฯ ให้ทุนสนับสนุนการจัดตั้งสถาบันเพื่อการกุศลนานาชาติเซินเจิ้นเพื่อฝึกฝนผู้มีความสามารถในด้านการกุศลของจีน
- กำจัดโรคมาลาเรีย ร่วมมือกับกระทรวงพาณิชย์ของจีน และคณะกรรมการสุขภาพและการแพทย์แห่งชาติ เพื่อเร่งการผลิตยาเข้าสู่ตลาดโลก ที่จีนผลิตได้มีคุณภาพสูงต้นทุนต่ำ มูลนิธิฯ ช่วยเติมเต็มช่องว่างด้านเงินทุนและเทคโนโลยี และช่วยเหลือจีนในการต่อสู้กับการอุบัติของโรคมาลาเรียทั่วประเทศ พร้อมแบ่งปันประสบการณ์ในการป้องกันและควบคุมโรคมาลาเรีย
- มูลนิธิฯ พัฒนาการเกษตร โดยร่วมมือกับรัฐบาลจีน ภาคเอกชน และสถาบันการเงินเพื่อพัฒนาและถ่ายทอดเทคโนโลยี โครงการและแบบจำลองเพื่อช่วยให้เกษตรกรเพิ่มผลผลิตพืชผล และยังสนับสนุนจีนในการแบ่งปันเทคโนโลยี ประสบการณ์ และทรัพยากรในด้านการเกษตรในระดับนานาชาติและระดับภูมิภาค
- ศูนย์วิจัยและพัฒนายาเพื่อสุขภาพระดับโลก ก่อตั้งขึ้นร่วมกับเทศบาลปักกิ่งและมหาวิทยาลัยชิงหวา ดำเนินการวิจัยและพัฒนายาใหม่สำหรับโรคที่สำคัญ เช่น วัณโรคและมาลาเรีย สร้างการวิจัยและพัฒนายาที่ก้าวหน้า ศูนย์วิจัยนี้มีส่วนร่วมในการส่งเสริมสุขภาพของคนยากจนในจีนและทั่วโลก
- มูลนิธิฯ กำลังทำงานร่วมกับพันธมิตรในจีน รวมถึง GHDDI (Global Health Drug Discovery Institute) เพื่อแก้ปัญหามากมายในด้านสุขภาพและการพัฒนาทั่วโลก เช่น การกำจัดโรคโปลิโอ การวินิจฉัย การป้องกัน และการรักษาโรคเอดส์และวัณโรค ตลอดจนการพัฒนาเทคโนโลยีการสุขาภิบาลรุ่นใหม่ที่มีราคาย่อมเยาและยั่งยืน ซึ่งช่วยปรับปรุงชีวิตความเป็นอยู่ของคนทั่วโลก ผลิตวัคซีนต้นทุนต่ำและผลิตภัณฑ์สุขภาพที่จำเป็น
- มูลนิธิช่วยปรับปรุงระบบการกำกับดูแลเภสัชภัณฑ์ของจีน ให้การสนับสนุนทางเทคนิคและความช่วยเหลือหน่วยงานกำกับดูแลของจีนผ่านองค์การอนามัยโลก (WHO) และพันธมิตรอื่นๆ เพื่อส่งเสริมมาตรฐานของจีนให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากล เพื่อบรรลุเป้าหมายการปฏิรูปด้านกฎระเบียบของจีนสำหรับผลิตภัณฑ์ยา
- มูลนิธิฯ ช่วยจีนด้านนวัตกรรมทางเทคโนโลยีของสถานบริการสาธารณสุข เพื่อคิดค้นและจำหน่ายเทคโนโลยีด้านสุขอนามัยและห้องสุขาที่ทันสมัย สนับสนุนนโยบายสาธารณะที่สนับสนุนการปรับปรุงสุขอนามัยสำหรับประชากรที่ยากจน
- สนับสนุนนวัตกรรมการเกษตรของจีน ในเดือน เม.ย.ปีที่แล้ว มูลนิธิวิทยาศาสตร์ธรรมชาติแห่งชาติของจีน และมูลนิธิฯ ประกาศเปิดตัวโครงการระดมทุนร่วมกันเพื่อสนับสนุนนักวิจัยในการพัฒนาการแก้ไขเพื่อช่วยเหลือประเทศที่มีรายได้น้อยในการรับมือกับความท้าทายด้านสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง คุกคามการผลิตทางการเกษตร โครงการจะมุ่งเน้นไปที่ทุนวิจัยในสองด้าน เทคนิคการปรับปรุงพันธุ์พืช และการวิจัยและการดำเนินการเพื่อประกันดัชนีสภาพอากาศที่เกี่ยวข้องกับการเกษตร
30 ปีที่ผ่านมาของบิล เกตส์ที่เข้ามาคบค้ากับจีนจนปัจจุบัน ได้สำรวจการแลกเปลี่ยนเชิงลึก มีความร่วมมือด้านธุรกิจเทคโนโลยีที่ดี ทั้งยังสนับสนุนกิจการที่ไม่แสวงหากำไร สวัสดิการสาธารณะของจีน ช่วยเหลือจีนหลายด้าน และที่บิล เกตส์มาเยือนจีนล่าสุดนี้ได้ให้คำสัญญากับรัฐบาลจีนว่าจะบริจาคเงินเพิ่มอีก 50 ล้านดอลลาร์เพื่อสนับสนุนศูนย์วิจัยและพัฒนายาเพื่อสุขภาพระดับโลก ที่ได้ก่อตั้งขึ้นก่อนหน้าร่วมกับเทศบาลปักกิ่งและมหาวิทยาลัยชิงหวา เพื่อทำการวิจัยยาคุณภาพดีราคาถูกเพื่อคุณภาพชีวิตชาวโลกต่อไป อ่านมาถึงตรงนี้ผู้อ่านอาจจะคลายความสงสัยแล้วว่าทำไมประธานาธิบดีสี จิ้นผิงถึงออกมาต้อนรับบิล เกตส์ด้วยตัวเอง