กลุ่มสื่อจีนและสื่อเทศรายงาน เซี่ยงไฮ้จะเริ่มแผนขั้นตอนให้ภาคส่วนต่างๆ และการดำเนินชีวิจตของประชาชนกลับสู่สภาพปกตินับจากวันที่ 1 มิ.ย. โดยจะคลายมาตรการล็อกดาวน์ที่เข้มงวดเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 ที่กินเวลายาวนานกว่า 6 สัปดาห์ ซึ่งฉุดกิจกรรมในภาคเศรษฐกิจชะลอตัวลงอย่างมาก
รองนายกเทศมนตรีนครเซี่ยงไฮ้ นายจง หมิง แถลงในที่ประชุมข่าวในวันนี้ (16 พ.ค.) เผยตารางเวลาในการเปิดเมืองเซี่ยงไฮ้กลับสู่สภาพปกติอย่างเป็นขั้นตอน
โดยในวันที่ 1 มิ.ย. จะเริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์อย่างกว้างขวาง จากนั้นจะประเมินสถานการณ์ในกลางเดือน และปลายเดือน หากไม่มีสัญญาณบ่งชี้ว่าเชื้อโรคระบาดจะกลับมา ในปลายเดือน มิ.ย.จะปรับมาตรการการสู่การป้องกันและควบคุมแบบปกติ และอนุญาตให้การผลิตและการดำรงชีวิตของประชาชนกลับสู่สภาพปกติเต็มร้อย”
แผนการเปิดเซี่ยงไฮ้สู่สภาพปกติจะจัดเป็นขั้นตอนให้ภาคส่วนต่างๆ กลับมาดำเนินงานปกติ โดยแบ่งเป็นกลุ่มการภาคอุตสาหกรรมการผลิต ภาคการค้าพาณิชย์ และภาคการศึกษา
ในวันจันทร์นี้ (16 พ.ค.) กลุ่มที่ได้รับอนุญาตให้กลับมาเปิดกิจการอย่างจำกัด ได้แก่ ซูเปอร์มาร์เกต ร้านค้าสะดวกซื้อ ร้านขายยา
นอกจากนี้ จากวันจันทร์ (16 พ.ค.) เป็นต้นไป การรถไฟจะค่อยๆ เพิ่มจำนวนเที่ยวรถไฟขาเข้าและขาออกจากเมือง ด้านสายการบินจะเพิ่มเที่ยวบินภายใน
จากวันที่ 22 พ.ค.เป็นต้นไป การขนส่งทางรถไฟและรถบัสจะค่อยๆ กลับมาเดินรถ แต่ประชาชนที่จะใช้บริการต้องแสดงผลตรวจโควิดที่เป็นลบภายใน 48 ชั่วโมง
สำหรับการแถลงผ่อนปรนมาตรการล็อกดาวน์โดยมีการกำหนดวันยกเลิกของทางการเซี่ยงไฮ้ครั้งนี้ได้ระบุตารางเวลาที่ชัดเจนที่สุด หลังจากที่ผู้อาศัยในเมืองผิดหวังมาครั้งแล้วครั้งเล่ากับการเลื่อนกำหนดการยกเลิกข้อจำกัดต่างๆ ระหว่างมาตรการล็อกดาวน์อย่างเข้มข้น
คณะกรรมาธิการสุขภาพเซี่ยงไฮ้ แถลงในวันจัททร์ (16 พ.ค.) ผู้ป่วยรายใหม่มีจำนวน 938 ราย โดยลดลงร้อยละ 31.5 ในช่วง 24 ก่อนหน้า และถือเป็นครั้งแรกนับจากวันที่ 24 มี.ค. ที่จำนวนผู้ป่วยรายใหม่ต่ำกว่า 1,000 ราย
มาตรการล็อกดาวน์เซี่ยงไฮ้อย่างเข้มข้นทำให้กิจกรรมในภาคเศรษฐกิจโดยเฉพาะการค้าปลีก อุตสาหกรรมการผลิต และการจ้างงานแทบหยุดนิ่ง และยิ่งโหมกระแสวิตกว่ามาตรการควบคุมโควิดในจีนจะทำให้การเติบโตเศรษฐกิจไตรมาส 2 หดตัว
ข้อมูลเศรษฐกิจที่แถลงในวันจันทร์ (16 พ.ค.) ระบุว่าผลผลิตอุตสาหกรรมจีนในเดือน เม.ย. ลดลงร้อยละ 2.9 เทียบกับปีก่อนหน้า ซึ่งตกฮวบลงจากอัตราขยายตัวที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.0 ในเดือน มี.ค. ขณะที่ภาคค้าปลีกหดตัวร้อยละ 11.1 ปีต่อปี หลังจากที่ลดลงร้อยละ 3.5 ในเดือนก่อนหน้า
อย่างไรก็ดี กลุ่มวิเคราะห์ชี้ว่ากิจกรรมเศรษฐกิจแดนมังกรอาจจะฟื้นตัวดีขึ้นในเดือน พ.ค. โดยคาดกันว่ารัฐบาลและธนาคารกลางจะอัดฉีดมาตรการกระตุ้นเพื่อช่วยภาคต่างๆ ให้ฟื้นตัวเร็วขึ้น