สืบเนื่องจากความขัดแย้งระหว่างไต้หวันและจีนที่ทวีความเข้มข้นระหว่างสองปีมานี้ อีกทั้งการเคลื่อนไหวทางทหารของจีนที่ส่งฝูงบินรบมาป้วนเปี้ยนเฉียดจมูกไต้หวันอย่างถี่ๆในปีนี้เพื่อกดดันให้ไทเปยอมรับการปกครองจีน ล่าสุด(13 ธ.ค.)ไต้หวันแถลงรายงานประเมินการรับมือภัยคุกคาม ซึ่งระบุว่า หากทัพพญามังกรเอาจริงส่งปฏิบัติการบุกเต็มอัตราศึกโดยใช้กำลังทหารยกพลขึ้นบก และเข้ายึดท่าเรือตลอดจนสนามบินแห่งต่างๆบนเกาะก็จะพิชิตศึกได้ยากมากทีเดียว เนื่องจากอุปสรรคการขนส่ง อีกทั้งส่งกองกำลังบำรุงที่จะส่งมาช่วย
ไต้หวันชี้อุปสรรคในการบุกยึดดินแดนดังกล่าวไว้ในรายงานประเมินภัยคุกคามดินแดนที่จัดทำโดยกระทรวงกลาโหมไต้หวัน
ในรายงานฉบับดังกล่าวระบุอีกว่า ศักยภาพในการขนส่งของจีนยังมีไม่มากพอที่จะยกพลเข้าบุกไต้หวันสำเร็จในเที่ยวเดียว แต่ต้องใช้วิธี “ที่ไม่มาตรฐาน” โดยใช้เรือลำเลียงขนส่งยานพาหนะ ซึ่งต้องอาศัยโครงสร้างพื้นฐานรองรับ อย่างท่าเรือ และสนามบิน เป็นต้น
ด้านไต้หวันได้ป้องกันท่าเรือและสนามบินแห่งต่างๆอย่างเหนียวแน่น ดังนั้นกองทัพจีนไม่สามารถเข้ายึดเกาะไต้หวันได้ในเวลาอันสั้น ส่วนการปฏิบัติการยกพลขึ้นบกก็มีความเสี่ยงสูงอย่างยิ่ง
นอกไปจากนี้ ในบริเวณช่องแคบไต้หวันยังมีกองทัพสหรัฐฯและญี่ปุ่นคอยติดตามการเคลื่อนไหวทางทหารอย่างใกล้ชิด หากจีนคอมมิวนิสต์บุกไต้หวันยังต้องมีกองกำลังสำรองสำหรับรับมือกับการแทรกแซงจากต่างชาติอีกด้วย
ในปีๆที่ผ่านมา ประธานาธิบดีไช่อิงเหวินได้พัฒนาความทันสมัยกองทัพไม่หยุดยั้งเพื่อรับมือกับกองทัพจีน รัฐบาลในไทเปยังเตรียมอัดฉีดงบฯทหารอีก 240,000 ล้านเหรียญไต้หวัน (8,660 ล้านเหรียญสหรัฐ) สำหรับพัฒนากองทัพในห้าปีข้างหน้า ซึ่งมุ่งไปที่อาวุธของทัพนาวีทั้งขีปนาวุธ และเรือรบ
ที่มา ข่าวรอยเตอร์ส