ทางการจีนแถลงในวันนี้(4 ส.ค.) ผู้ป่วยโควิด-19 ภายในท้องถิ่นรายใหม่ทำสถิติสูงสุดนับจากเดือนม.ค.ที่ผ่านมา โดยในการระบาดครั้งนี้สายพันธุ์เดลต้าเป็นตัวการโหมกระพือการติดเชื้อแบบลูกโซ่ในกว่า 20 เมือง ขณะนี้บางเมืองได้ขยายมาตรการควบคุมโรคระบาด เช่น ตัดลดเที่ยวบิน และขยายการตรวจโควิด
มาตรการจำกัดการเดินทางและปิดเมืองดังกล่าว ทำให้โนมูระปรับลดการคาดการณ์อัตราเติบโตเศรษฐกิจจีนช่วงเดือนก.ค.-ก.ย. รวมทั้งอัตราเติบโตทั้งปี โดยชี้ว่าการแก้ปัญหาโดยยึดหลักความอดทนเป็นศูนย์ในการสกัดไวรัสนั้นกระทบเศรษฐกิจมาก
จีนเริ่มพบเคสผู้ติดเชื้อกลายพันธุ์เดลต้าในช่วงปลายเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา จากนั้นก็เกิดการแพร่ระบาดแบบลูกโซ่ในเมืองต่างๆเกือบ 30 เมืองในราว 15 มณฑล รวมทั้งเมืองหลวงปักกิ่ง และนครอู่ฮั่นซึ่งเป็นแหล่งแพร่เชื้อไวรัสโคโรน่าพันธุ์ใหม่ในปลายปี 2019
สำหรับสถานการณ์ล่าสุด หน่วยควบคุมโรคระบาดจีนแถลงในวันนี้(4 ส.ค.) ระบุผู้ป่วยโควิด-19 ภายในท้องถิ่นรายใหม่ เท่ากับ 71 ราย นับเป็นจำนวนผู้ป่วยรายวันที่สูงที่สุดนับจากวันที่ 30 ม.ค.ที่ผ่านมา และยังนับเป็นจำนวนที่เพิ่มขึ้นในช่วง 5 วันนับจากวันที่ 30 ก.ค.
ขณะนี้เมืองที่มีการระบาดทั้งหมดยังไม่ล็อคดาวน์แบบเต็มอัตราศึก โดยมีสองสามเมืองที่ออกมาตรการจำกัดความเคลื่อนไหว ด้านเมืองที่เป็นศูนย์กลางแพร่กระจายคือนครหนันจิง และเมืองหยังโจว ในมณฑลเจียงซู ซึ่งมีผู้ป่วยในท้องถิ่นมากสุด ได้ออกมาตรการระงับชั่วคราวเที่ยวบินภายในประเทศ รถประจำทางระยะไกล แท็กซี่และพาหนะที่ใช้แอพเรียกรถ ทั้งขาเข้าและขาออกจากเมือง
เมืองอื่นๆ เช่น เจิ้งโจว ในมณฑลเหอหนัน และจิงโจว ได้ปิดเมืองห้ามคนจากเขตใกล้เคียง จำกัดการคมนาคมในพื้นที่ที่ความเสี่ยงสูง
ด้านเมืองอู่ฮั่นตรวจโควิดยกเมือง 12 ล้านคนเมื่อพบเคสผู้ป่วยในท้องถิ่นรายใหม่ 7 ราย (2 ส.ค.) และล่าสุด(3 ส.ค.) พบเคสผู้ป่วย 9 ราย พร้อมกับปิดบางเขตของเมือง
สำหรับสถานการณ์แพร่ระบาดล่าสุด (ข้อมูล 0-24.00 น. วันที่ 3 ส.ค.) ผู้ป่วยโควิดรายใหม่ในจีน เท่ากับ 96 รายซึ่งสูงจากวันก่อนหน้า (90 ราย) ในจำนวนผู้ป่วยรายใหม่นี้เป็นเคสติดเชื้อในท้องถิ่น 71 ราย ได้แก่ เจียงซู35, หูหนัน15, หูเป่ย9, ซันตง6, อวิ๋นหนัน3, เหอหนัน2, ฝูเจี้ยน1
แหล่งท่องเที่ยวชื่อดัง ‘จางจยาเจี้ย’ ล็อคเมือง
หลายเมืองที่เกิดการระบาดภายในท้องถิ่นได้ปิดแหล่งท่องเที่ยวและย่านบันเทิง ส่วนแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังจางจยาเจี้ย มณฑลหูหนัน ซึ่งได้กลายเป็นเป็นแหล่งแพร่เชื้อหลักอันดับสองรองจากหนันจิง ล่าสุดสำนักงานป้องกันและควบคุมโควิดประจำเมืองได้ประกาศห้ามทั้งคนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวออกจากเมืองตั้งแต่วันอังคาร (3 ส.ค.) ขณะนี้จางจยาเจี้ยได้ปิดสถานที่ท่องเที่ยวทุกแห่งในเมืองและยกระดับ 11 พื้นที่เป็นพื้นที่เสี่ยงปานกลางสำหรับโรคโควิด-19 ตั้งแต่วันที่ 30 ก.ค.
จางจยาเจี้ยได้จัดเตรียมโรงแรมและอุปกรณ์ป้องกันโรคระบาดแก่บรรดานักท่องเที่ยวที่ติดค้างอยู่ในเมืองโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย และจัดส่งบุคลากรการแพทย์ไปทำการทดสอบกรดนิวคลีอิกให้นักท่องเที่ยวที่โรงแรมด้วย