จีนห่วง วงจรการระบาดสายเดลต้า ยอมรับเป็นไปได้ที่วัคซีนจะมีประสิทธิภาพน้อยลงต่อเชื้อกลายพันธุ์

เซาท์ไชน่า มอร์นิงโพสต์ (25 มิ.ย.) - เพียงไม่กี่วันหลังจากมณฑลกวางตุ้งสามารถปราบการระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่เกิดจากสายกลายพันธุ์เดลต้าหลับเริ่มระบาดในปลายเดือนพฤษภาคม เมื่อพนักงานสนามบินเซินเจิ้นรายหนึ่ง ถูกตรวจพบว่าติดเชื้อสายพันธุ์ที่แพร่เชื้อได้สูง จนเกิดมีคลัสเตอร์ใหม่มีผู้ติดเชื้อในท้องถิ่น 6 รายที่พบในเซินเจิ้นและตงกวน ทั้งหมดสืบย้อนไปถึงพนักงานสนามบินที่มีผลตรวจเป็นบวกเมื่อวันที่ 14 มิถุนายน

เมื่อวันพุธ ที่ปรึกษาด้านสุขภาพของรัฐบาลบอกกับสื่อท้องถิ่นว่าขณะนี้ทางการกำลัง "ต่อสู้" กับวงจรการระบาดฯ ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพของจีนได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับการแพร่เชื้อในระดับสูงของสายพันธุ์ใหม่ เช่น เดลต้า และความเป็นไปได้ที่วัคซีนจะมีประสิทธิภาพน้อยลงต่อเชื้อเหล่านี้

ไวรัสกลายพันธุ์เดลต้า - หรือ B. 1.617.2 - ถูกระบุครั้งแรกในอินเดียในเดือนตุลาคม 2020 ขณะนี้ได้แพร่กระจายไปยัง 92 ประเทศและถูกกล่าวหาว่ามีกรณีเพิ่มขึ้นในสหราชอาณาจักร โปรตุเกส รัสเซีย อินโดนีเซีย และส่วนอื่น ๆ ของเอเชีย

เฟิง จื่อเจี้ยน รองผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของจีนกล่าวว่า ระยะฟักตัวของสายพันธุ์เดลต้านั้นสั้นกว่ามาก และอาจมีการติดเชื้อ 5-6 รุ่นภายในเวลาเพียง 10 วัน

แพทย์และที่ปรึกษาของรัฐบาลในกวางโจว ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการระบาดในเดือนพฤษภาคม กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ได้รับแรงกดดันมหาศาลในช่วงเริ่มต้น เนื่องจากความเร็วในการแพร่เชื้อ แพทย์ผู้ปฏิเสธที่จะเสนอชื่อเนื่องจากไม่ได้รับอนุญาตให้พูดกับสื่อ กล่าวว่านั่นหมายถึงการเปลี่ยนมาตรการควบคุมและการปรับน้ำยาที่ใช้ในการทดสอบให้รวดเร็ว

แพทย์อีกคนของกวางโจว กวนเซียงตง บอกกับสำนักข่าวซินหัวของทางการว่า กรณีการแพร่ระบาดครั้งล่าสุดมีความรุนแรงมากขึ้น

แต่เดล ฟิชเชอร์ ศาสตราจารย์แห่งโรงเรียนแพทย์หยงลูหลิน (Yong Loo Lin) แห่งมหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ กล่าวว่า ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าสายพันธุ์เดลต้ามีความรุนแรงมากกว่า

“นี่เป็นการคาดเดา แต่ความคิดที่แพร่หลายก็คือมีการแพร่กระจายเพิ่มขึ้น” ฟิชเชอร์กล่าว “มีจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้นซึ่งทำให้ดูเหมือนมีความรุนแรงมากขึ้น”

ศาสตราจารย์ จิน ต่งหยาน นักไวรัสวิทยาระดับโมเลกุลจากมหาวิทยาลัยฮ่องกง กล่าวว่า ไวรัสกลายพันธุ์นี้อาจมีความท้าทายในการควบคุมมากกว่า เนื่องจากคนหนุ่มสาวอาจติดเชื้อได้ง่ายกว่าสายพันธุ์ก่อนหน้านี้

"สายพันธุ์เดลต้าสามารถแพร่เชื้อได้มากกว่าและสามารถขยายเพิ่มได้อย่างรวดเร็วในระบบทางเดินหายใจส่วนบน ด้วยเหตุนี้ ยิ่งประชากรที่เคลื่อนที่มากขึ้นซึ่งเป็นประชากรวัยหนุ่มสาวมีโอกาสติดเชื้อได้ดี” จินกล่าว “นี่เป็นการเปลี่ยนแปลงรูปแบบของผู้ป่วยในระดับหนึ่ง และก่อให้เกิดความท้าทายต่อการควบคุมการระบาดใหญ่”

ฟิชเชอร์ตั้งข้อสังเกตว่าจำนวนคนหนุ่มสาวที่พบติดเชื้อมีจำนวนมากขึ้นอาจเป็นผลมาจากผู้สูงอายุที่ได้รับการฉีดวัคซีนมากขึ้น

“ดังนั้นการตีความทั้งหมดเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นจึงได้รับผลกระทบจากหลายสิ่งหลายอย่างที่เราไม่มีในปีที่แล้ว” เขากล่าว

วัคซีนที่มีอยู่สามารถจัดการกับไวรัสกลายพันธุ์ได้ดีเพียงใดเป็นอีกข้อกังวลหลัก ผลการศึกษาที่ตีพิมพ์โดยหน่วยงานด้านสุขภาพของสหราชอาณาจักรเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม พบว่าการฉีดวัคซีน AstraZeneca หรือ Pfizer เพียงเข็มแรกช่วยลดความเสี่ยงของการพัฒนาอาการที่เกิดจากตัวแปรเดลต้าได้ถึง 33 เปอร์เซ็นต์ เทียบกับ 50% ในสายพันธุ์อัลฟ่า

วัคซีนแอสตร้าเซเนก้า เข็มที่ 2 ช่วยเพิ่มการป้องกันสายพันธุ์เดลต้าเป็น 60 เปอร์เซ็นต์ เทียบกับ 66% เมื่อเทียบกับสายพันธุ์อัลฟ่า Pfizer สองโดสมีประสิทธิภาพ 88% เทียบกับ 93 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับสายพันธุ์อัลฟ่า

แอนโธนี่ เฟาซี หัวหน้าที่ปรึกษาทางการแพทย์ของทำเนียบขาว เรียกตัวแปรดังกล่าวว่าเป็นภัยคุกคามที่ใหญ่ที่สุดต่อความพยายามของสหรัฐฯ ในการกำจัดโควิด-19 และคาดการณ์ว่าในไม่ช้ามันจะกลายเป็นสายพันธุ์ที่ครอบงำในสหรัฐอเมริกา

แมตต์ แฮนค็อก รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขของอังกฤษ กล่าวว่า เชื้อนี้สามารถแพร่เชื้อได้มากกว่าสายพันธุ์อัลฟ่า 40% ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่มีอิทธิพลมากที่สุดในโลก และสามารถแพร่เชื้อได้มากกว่าสายพันธุ์ก่อนหน้าถึง 90%