‘Tang Ping’ (躺平) อ่านว่า ‘ถ่างผิง’ แปลตามหน้าศัพท์ คือ นอนราบ หรือนอนเฉยๆ เป็นคำแฝงนัยยะคำใหม่ล่าสุดที่ติดเทรนด์ฮิตระเบิดชนิดมาแรงแซงโค้งในโลกโซเชียลจีนอยู่ในขณะนี้
‘Tang Ping’ หรือ‘นอนราบ’ คือปฏิกิริยาหนีความกดดันในสังคมของกลุ่มคนรุ่นใหม่ในจีน ขณะนี้กลุ่มคนรุ่นใหม่วัยหนุ่มสาววัยทำงานในจีนกำลังขานรับ ‘วัฒนธรรมนอนราบ’อันเนื่องมาจากความท้อแท้ต่อสภาพกดดันในสังคมโดยเฉพาะวัฒนธรรมการทำงานที่หนักสาหัสเกินไปแต่กลับได้ผลประโยชน์ไม่สมกับที่ได้ลงแรงเหนื่อยยาก จนกระทั่งมาถึงจุดที่ไม่ต้องการทนอยู่กับสภาพนี้อีกต่อไปและหันหลังให้กับความคาดหวังของสังคม
คำแฝงนัยยะ “นอนราบ” ที่ส่งเสียงกระหึ่มไปทั่วโลกออนไลน์แดนมังกร มีต้นตอมาจาก โพสต์ในแพลตฟอร์มสนทนายอดนิยมจีน คือ Tieba (อ่านว่า เทียปะ贴吧) ซึ่งตอนนี้ถูกลบออกเรียบร้อยโรงเรียนจีนไปแล้ว ผู้เขียนโพสต์ชิ้นที่ถูกลบไปนี้ได้เล่าถึงชีวิตตกงานในสองปีที่ผ่านมาอย่างชิวๆ โดยละทิ้งแนวคิดความสำเร็จในสังคม และประกาศใช้ทัศนะชีวิต “นอนราบ” อยู่เฉยๆเท่านั้นเอง
“ ในเมื่อไม่เคยมีเทรนด์แนวคิดที่สอนให้มนุษย์ยึดตัวเองเป็นหลัก*ในประเทศของเรา ผมจึงสร้างแนวคิดเพื่อตัวเอง ‘นอนราบ’ คือแนวทางเคลื่อนไหวของผม เพียงแค่ ‘นอนราบ’ มนุษย์ก็จะเป็นเครื่องวัดทุกสิ่งทุกอย่าง*” นี่คือ ‘คำประกาศนอนราบ’ ของเขา
‘คำประกาศนอนราบ’ ดังกล่าวได้รับการขานรับอย่างรวดเร็ว กลายเป็นคำใหม่ฮิตติดเทรนด์ บางกลุ่มถึงกับยกเป็น “ขบวนการทางจิตวิญญาณ” หรือ ‘ลัทธินอนราบ’ พร้อมกับเกิดปฏิกิริยาขานรับแบบลูกโซ่ อย่างเช่นใน โต้วป่าน Douban ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มโซเชียลรายใหญ่ของจีนที่จัดทำเรทติ้งภาพยนตร์และซีรีส์ มีการตั้งกลุ่มที่ใช้ชื่อว่า “Lying Down Group” (หรือ กลุ่มนอนราบ) มีสมาชิกเกือบ 6,000 คน โดยโพสต์หัวข้อหนึ่งที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือ คู่มือนอนราบ ‘A Guide to Lying Down’ ที่แจงรายการขั้นตอนไลฟ์สไตล์ ‘นอนราบ’
สื่อในฮ่องกง เซาท์ ไชน่า มอร์นิ่งโพสต์ เผยผลการสำรวจที่จัดทำโดยเวยปั๋ว (หรือทวิตเตอร์เมืองจีน) ระหว่างวันที่ 28 พ.ค. และ 3 มิ.ย. พบว่า “61 เปอร์เซ็นต์ของผู้เข้าร่วมการสำรวจ 241,000 ราย บอกว่าพวกเขาต้องการไลฟ์สไตล์แบบ ‘นอนราบ’”
“เวนดี้” สมาชิกคนหนึ่งของ ‘กลุ่มนอนราบ’ บอกกับสื่อจีน Sixth Tone ว่า ‘ปรัชญานอนราบ’ ของเธออาจสรุปได้คือ “การให้ความสำคัญอันดับแรกกับความสงบสุขแก่จิตวิญญาณและร่างกาย”
“เนื่องจากมาตรฐานกระแสหลักปัจจุบัน คือวิถีชีวิตที่ต้องทำงานหนัก ดิ้นรนสร้างคะแนนการประเมินผลงานที่สูง ดิ้นรนซื้อบ้าน ซื้อรถยนต์ และมีลูก แต่ตอนนี้ฉันปฏิเสธทำงานล่วงเวลา ไม่สนใจการเลื่อนตำแหน่ง และไม่เข้าร่วมดราม่างานสังสรรค์ของบริษัท”
เวนดี้ บอกว่าเธอกำลังปรับเปลี่ยนชีวิตสู่ “การนอนราบอย่างสมบูรณ์แบบ” โดยลาออกจากงานและใช้ชีวิตอย่างประหยัดที่สุดด้วยเงินออม
สื่อกระแสหลักที่เป็นกระบอกเสียงใหญ่ของจีน ไชน่า เดลี่ ได้อธิบายเหตุที่นำไปสู่ปรากฏการณ์วัฒนธรรม ‘นอนราบ’ จากคำแฝงนัยยะที่ฮิตในจีนในช่วงก่อนหน้านี้สองคำ ได้แก่ Nei Juan (内卷) อ่านว่า เน่ยจ้วน แปลตามหน้าศัพท์คือ การพัวพันหรือเข้าร่วมอยู่ในแวดวง และอีกคำคือ Ge Jiu Cai (割韭菜) อ่านว่า เกอจิ่วไช่ แปลตามหน้าศัพท์คือ ตัดเก็บเกี่ยวผักกุยไช่
สำหรับ Nei Juan หมายถึงการแข่งขันที่รุนแรง เต็มไปด้วยการแก่งแย่งปัดแข้งปัดขาทำร้ายกันเอง จนผู้คนเหนื่อยอ่อนล้าทั้งกายและจิตใจสุดๆ แต่ในที่สุดก็ไม่ได้รับผลตอบแทนที่คุ้มกับเรี่ยวแรงที่ทุ่มเทไป เปรียบได้กับการวิ่งหรือเดินย่ำอยู่กับที่ ยิ่งวิ่งยิ่งเหนื่อยโดยที่ไม่มีวันจะได้ก้าวหน้าไปไหนหรือขยับสถานภาพสูงขึ้น
ส่วน Ge Jiu Cai หมายถึงการทุ่มเททั้งแรงกายแรงใจ ทุนรอน และทรัพยากรอื่นๆทั้งหมดจนสร้างผลประโยชน์เบ่งบานเต็มที่แต่ก็ถูกผู้ที่มีอิทธิพลเหนือกว่ามาตัดเก็บเกี่ยวไปเรื่อยๆ เหมือนกับการตัดเก็บเกี่ยวผักกุยไช่เมื่อต้นเติบโตเต็มที่จากนั้นก็ปล่อยให้ใบงอกงามขึ้นมาใหม่เพื่อรอเก็บเกี่ยวรอบต่อไป
ดังนั้น หัวใจตรรกะของ “นอนราบ” จึงคือ “แค่นอนราบก็หลุดพ้นจากวงใน พ้นจากใบมีดตัดเก็บเกี่ยวฯ”
แต่วัฒนธรรม ‘นอนราบ’นี้ ก็สร้างความวิตกกังวลแก่ผู้นำในประเทศอย่างแน่นอน อาจารย์ หวง ผิง มหาวิทยาลัย อีสต์ ไชน่า นอร์มัล ยูนิเวอร์ซิตี้ (East China Normal University) นักวิจัยด้านวัฒนธรรมคนรุ่นใหม่ บอกกับสื่อจีน ว่า ‘วิถีชีวิตแบบนอนราบ’ อาจคุกคามต่อผลผลิตของประเทศ ฝ่ายรัฐอาจวิตกถ้าเกิดทุกคนหยุดทำงานกัน อย่างไรก็ตาม หวงชี้ว่า ‘การนอนราบ’ เป็นทางเลือกที่มีเหตุผลมากกว่าเป็นทัศนคติในด้านลบ คนหนุ่มสาวบางกลุ่มต้องการปลดเปลื้องภาระ “เมื่อพวกเขาไม่สามารถตามการพัฒนาของสังคมได้ทัน อย่างเช่น ราคาบ้านที่สูงระฟ้า ‘การนอนราบ’ ก็เป็นทางเลือกที่มีเหตุผล
สุดท้ายขอยกตัวอย่างเซเลปจีนชื่อก้องโลกที่ดูเป็นสมาชิก ‘นอนราบ’ ไปแล้ว คือ แจ็ค หม่า โดยขณะนี้ หม่า มุ่งทำงานอดิเรกวาดรูปและงานการกุศล หลังจากที่เหน็ดเหนื่อยสร้าง อาลีบาบา กรุ๊ป และเมื่อสองเดือนกว่าที่แล้วก็เพิ่งโดนทางการปรับ 18.2 พันล้านหยวน หรือ 2.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ฐานโทษฐานผูกขาดตลาด ก็มีบางกระแสชี้ว่า “จีนเก็บเกี่ยวผักกุยไช่ของแจ๊ค หม่าแล้ว” !
* Human subjectivity: แนวคิดที่สอนให้มนุษย์ยึดตัวเองเป็นหลัก
*The measure of all things: เครื่องวัดทุกสิ่งทุกอย่าง