สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงาน ผลการศึกษาประสิทธิภาพวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 จัดทำโดยกระทรวงสาธารณสุขอินโดนีเซีย ระบุว่า วัคซีนโคโรนาแวคที่ผลิตโดยบริษัทจีน ชิโนแวค ไบโอเทค มีประสิทธิภาพถึง 98 เปอร์เซนต์ในการป้องกันการเสียชีวิตจากโควิด-19 และมีประสิทธิภาพถึง 96 เปอร์เซนต์ในการป้องกันการเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลของกลุ่มเจ้าหน้าที่การแพทย์ชาวอินโดนีเซียได้รับการฉีดวัคซีน
Pandji Dhewantara หัวหน้าทีมวิจัยฯแถลงผลการศึกษาประสิทธิภาพวัคซีนชิโนแวค ในกรุงจาการ์ตา วันนี้(12 พ.ค.) เผยว่า
ผลการศึกษาประสิทธิภาพวัคซีนชิโนแวคได้จากการรวบรวมข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ในหน่วยดูแลรักษาสุขภาพ จำนวน 120,000 คนในกรุงจาการ์ต้า ที่ฉีดวัคซีนระหว่างเดือนม.ค. ถึงเดือน มี.ค.ปีนี้
การศึกษาเฟสที่สามของวัคซีนชิโนแวคทั่วโลกให้ประสิทธิผลที่แตกต่างกันไป สำหรับการศึกษาในอินโดนีเซียพบว่า วัคซีนชิโนแวคป้องกันการเกิดอาการโรคโควิด-19 ในกลุ่มที่ทำการศึกษาได้ถึง 94 เปอร์เซ็นต์
“จากข้อมูลที่เราได้รับบ่งชี้ว่าอุบัติการณ์ป่วยไข้และเสียชีวิตของกลุ่มเจ้าหน้าที่หน่วยดูแลสุขภาพ มีแนวโน้มลดลง” Siti Nadia Tarmizi รัฐมนตรีว่าการสาธารณสุขกล่าวในที่ประชุมข่าว
นอกจากนี้ ข้อมูลจากสมาคมการแพทย์แห่งอินโดนีเซีย (Indonesian Medical Association) ระบุว่า จำนวนแพทย์ที่เสียชีวิตจากโควิด-19 ลดลงอย่างสำคัญตั้งแต่อินโดนีเซียเริ่มโครงการฉีดวัคซีนในปีนี้
ข้อมูลสถิติในเดือนม.ค. ระบุว่าแพทย์ 64 คนได้เสียชีวิตจากโรคระบบทางเดินหายใจโดยถือเป็นอัตราสูงที่สุดนับจากเกิดโรคระบาด แต่ตัวเลขนี้ลดลงครึ่งในเดือน ก.พ. และในเดือนที่แล้ว ตัวเลขแพทย์ที่เสียชีวิต มีแค่ 8 คน
ความหวังในการต่อสู้โรคโควิด-19 ได้ฉายออกมาจากการศึกษาวัคซีนเฟสที่สามในอินโดนีเซีย ซึ่งพบว่าวัคซีนมีประสิทธิภาพสูง 65 เปอร์เซ็นต์ และการศึกษาในตุรกี พบว่าวัคซีนมีประสิทธิภาพสูง 91.25% เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ทีมนักวิจัยในบราซิลพบว่า วัคซีนมีประสิทธิภาพ 50.4 เปอร์เซ็นต์
ด้านองค์การอนามัยโลก (WHO) พบว่า วัคซีนชิโนแวค ช่วยป้องกันโควิด-19 ในกลุ่มวัยผู้ใหญ่ที่อายุต่ำกว่า 60 ปี แต่ยังขาดข้อมูลเชิงคุณภาพเกี่ยวกับความเสี่ยงอาการข้างเคียงที่ร้ายแรง