สำนักข่าวซินหัว — ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ผลไม้เมืองร้อนจากภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงไทยและเวียดนาม ถูกขนส่งขึ้นรถไฟในระบบห่วงโซ่ความเย็นเข้าสู่เมืองหนานหนิงของเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง ซึ่งมีพรมแดนเชื่อมต่อกับประเทศในอาเซียนทั้งทางบกและทางน้ำ โดยความเคลื่อนไหวดังกล่าวนี้ดำเนินไปภายใต้ความร่วมมือระหว่างจีน-อาเซียนที่ลึกซึ้งขึ้น
เมืองผิงเสียงของกว่างซี มีสมญานามว่า “ประตูทิศใต้ของจีน” เป็นเมืองด่านหน้าบนพรมแดนจีน-เวียดนาม และท่าเรือบกใหญ่ที่สุดของจีนที่นำเข้า-ส่งออกผลไม้ร่วมกับอาเซียน ปัจจุบัน ผลไม้เมืองร้อนจากภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่นำเข้าผ่านด่านผิงเสียงมีมากเกือบ 3 ใน 4 ของปริมาณนำเข้าผลไม้ประเภทเดียวกันทั้งหมด
เมื่อวันที่ 25 ก.พ. 2020 ขบวนตู้คอนเทนเนอร์เย็นขนาด 45 ฟุต จำนวน 7 ตู้ ขนส่งแก้วมังกรของเวียดนามเข้าสู่สถานีผิงเสียงเป็นขบวนแรกนับตั้งแต่เปิดด่านนำเข้าผลไม้ในผิงเสียง หลังจากมาถึงสถานี สินค้าก็ถูกขนส่งเป็นกลุ่มตามลำดับความสำคัญแบบจุดต่อจุดไปยังนครเซี่ยงไฮ้และเขตมณฑลอื่นๆในจีน
เดือนเมษายนปีนี้ กว่างซีเพิ่มด่านผิงเสียง (เส้นทางรถไฟ) และด่านตงซิง เพื่อนำเข้าผลไม้ไทยที่ส่งออกไปจีนผ่านประเทศที่สาม นอกจากด่านมิตรภาพเดิมแล้ว ปัจจุบันยังมีด่านอีก 3 แห่งในมณฑลกว่างซีที่สามารถขยายการค้าผลไม้ไทยได้
เมื่อวันที่ 21 พ.ค. ผลไม้ไทยเข้าสู่จีนเป็นครั้งแรกผ่านรถไฟระบบห่วงโซ่ความเย็นข้ามพรมแดน บรรทุกตู้คอนเทนเนอร์เย็นขนาด 40 ฟุต จำนวน 6 ตู้ ที่บรรจุมังคุดและทุเรียน 156 ตัน เมื่อผ่านการตรวจสอบที่ศูนย์โลจิสติกส์ด่านรถไฟผิงเสียงระหว่างประเทศแล้วก็ถูกกระจายต่อไปยังที่ต่างๆ ของจีนอย่างรวดเร็วเนื่องจากมังคุดและทุเรียนจำเป็นต้องมีการดูแลเรื่องอุณหภูมิเป็นอย่างดี บริษัทการรถไฟหนานหนิงจึงจัดสรรตู้คอนเทนเนอร์เย็นเพื่อรองรับปัญหาดังกล่าว อุณหภูมิของตู้บรรจุมังคุดและทุเรียนถูกควบคุมอยู่ที่ 2-8 องศาเซลเซียสในระหว่างการขนส่ง เพื่อให้ผู้บริโภคได้ลิ้มรสผลไม้นำเข้าที่สดใหม่
ศูนย์โลจิสติกส์ด่านรถไฟผิงเสียงระหว่างประเทศมีหน้าที่ดูแลด้านศุลกากร การตรวจสอบ และการขนส่งสินค้าทางรถไฟ ผ่านขั้นตอนพิธีการทางศุลกากรแบบ “ครบวงจร” ช่วยให้มั่นใจได้ว่าผลไม้สดใหม่จะส่งถึงผู้บริโภคหลายพันครัวเรือน
หลี่จวิ้น เจ้าหน้าที่ฝ่ายขนส่งสินค้าของการรถไฟหนานหนิงกล่าวว่า “เราเชื่อมต่อกับศุลกากรผิงเสียงเพื่อให้การขนส่งสินค้าทางรถไฟเย็นข้ามพรมแดนราบรื่น เรายังปรับปรุงแผนการขนส่งและเปิดช่องทางสีเขียว ซึ่งทั้งช่วยลดการติดต่อระหว่างผู้คน ควบคุมการแพร่ระบาดข้ามพรมแดน และยังทำให้สินค้าส่งไปทั่วประเทศโดยเร็วที่สุด”
บริษัทโลจิสติกส์เป่าเซิงจงเหิงในกว่างซีอาศัยข้อได้เปรียบทางภูมิศาสตร์ที่ติดกับเวียดนาม และความต้องการผลไม้ระหว่างสองประเทศที่มีปริมาณมาก หันมาตั้งฐานในผิงเสียง คว้าโอกาสในการแลกเปลี่ยนความร่วมมือการค้าผักและผลไม้ร่วมกับเวียดนามและไทย และส่งเสริมการดำเนินงานของรถไฟระบบห่วงโซ่เย็นข้ามพรมแดน
ตั้งแต่ต้นปี 2020 จนถึงสิ้นตุลาคม บริษัทได้ส่งตู้คอนเทนเนอร์บรรจุผลไม้จำนวน 520 ตู้จากเวียดนามและไทยไปยังผิงเสียง มีมูลค่ามากกว่า 120 ล้านหยวน (ประมาณ 553 ล้านบาท) และยังมีแผนที่จะนำเข้าผลไม้เช่น แก้วมังกร ขนุน ทุเรียน มังคุด อีกกว่า 500 ตู้ก่อนสิ้นปี
นับตั้งแต่เปิดด่านนำเข้าผลไม้ทางรถไฟผิงเสียง ศักยภาพในการขนส่งผลไม้ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ก็พัฒนาขึ้นอย่างมาก ซึ่งเป็นก้าวสำคัญในการสร้างระบบหมุนเวียนห่วงโซ่ความเย็นข้ามพรมแดนระหว่างจีน-อาเซียน นับตั้งแต่ต้นปีจนถึงวันที่ 31 ส.ค. มีการนำเข้าผลไม้จากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ผ่านด่านผิงเสียงทั้งหมด 57 ล็อต รวม 641 คัน ในจำนวนนั้นเป็นผลไม้ไทย 24 ล็อต รวม 269 คัน รถไฟห่วงโซ่ความเย็นข้ามพรมแดนทั้งหมด 65 ขบวน บรรทุกผลไม้มากกว่า 16,000 ตันจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉลี่ย 2 ขบวนต่อสัปดาห์
เจ้าหน้าที่การรถไฟหนานหนิงกล่าวว่า ในอนาคตจะยังคงสนับสนุนจุดเด่นของด่านแห่งนี้ในเรื่องการขนส่งปริมาณมากและพิธีการศุลกากรที่รวดเร็ว เปิดเส้นทางรถไฟตู้คอนเทนเนอร์เย็นบรรจุผลไม้ ขยายการค้าระหว่างจีนและประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ให้กว้างขึ้น