สำนักข่าวเซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ สื่อจีน รายงาน (2 พ.ย.) ดัชนีการจัดซื้อของไฉซิน (Caixin/Markit Manufacturing Purchasing Managers Index) เผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ หรือ PMI ภาคการผลิตในเดือน ต.ค. พุ่งแตะระดับ 53.6
ตัวเลขดังกล่าวเพิ่มจากระดับ 53.0 ของเดือน ก.ย. 2563 และเป็นการเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 6 นอกจากนี้ ยังนับว่าเป็นตัวเลขที่สูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. 2554 หรือสูงที่สุดในรอบเกือบ 10 ปี
นักวิเคราะห์อธิบายว่า ค่าดัชนี PMI มีเส้นแบ่งระหว่างภาวะเศรษฐกิจที่ขยายตัวแข็งแกร่งและหดตัวที่ระดับ 50 โดยหากเคลื่อนไหวสูงกว่าระดับ 50 แสดงถึงการขยายตัวของเศรษฐกิจ และหากหดตัว ดัชนีจะลดไปต่ำกว่าระดับ 50
ตัวเลขดังกล่าวสอดคล้องกับตัวเลข PMI ที่จัดทำโดยสำนักงานสถิติจีน ซึ่งประกาศ (31 ต.ค.) ว่า ช่วงเวลาดังกล่าว จีนมี PMI ภาคการผลิตที่ระดับ 51.4 ซึ่งสะท้อนว่า เศรษฐกิจจีนกำลังฟื้นตัวจากผลกระทบของสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19
ดัชนีการจัดซื้อของไฉซินให้ความสำคัญกับบริษัทเอกชนขนาดเล็ก ในขณะที่ดัชนีการจัดซื้อซึ่งจัดทำโดยภาครัฐ มักให้ความสำคัญกับวิสาหกิจของรัฐขนาดใหญ่
รายงานระบุว่า ดัชนี PMI ภาคการผลิตของจีนขยายตัวจากโรงงานอุตสาหกรรมที่เริ่มใช้กำลังผลิตมากขึ้น ทำให้มีอุปสงค์และอุปทานด้านการผลิตมากขึ้น และยังทำให้ผู้ประกอบการมีความมั่นใจมากขึ้น
ในด้านอื่น ๆ ดัชนีการจ้างงานยังอยู่ในแดนขยายตัว ดัชนีคำสั่งซื้อใหม่พุ่งขึ้นสูงที่สุดนับตั้งแต่เดือน พ.ย. 2553 ในขณะที่ดัชนีผลผลิตยังเคลื่อนไหวในแดนขยายตัวติดต่อเป็นเดือนที่ 8
นายหวัง เจ๋อ นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสของ Caixin Insight Group ให้ความเห็นว่า การระบาดของโรคโควิด – 19 ในต่างประเทศยังเป็นปัจจัยสำคัญกำหนดอัตราการส่งออก และยังมีความไม่แน่นอนนอกจีน ดังนั้น ผู้กำหนดนโยบายควรใช้ความระมัดระวังเกี่ยวกับนโยบายการเงินการคลังหลังสถานการณ์โควิด - 19