อาร์ทีไอ สื่อไต้หวัน รายงาน (16 ต.ค.) ยอดการบริโภคปลาในไต้หวันช่วง 7 ปี ลดลง 32% สาเหตุเพราะภาวะมีบุตรน้อยและกลัวก้างปลาติดคอ
สหกรณ์การประมงไต้หวันเปิดเผยสถิติการบริโภคปลาในประเทศในช่วง 7 ปีที่ผ่านมาลดลง 32% สาเหตุสำคัญมาจากภาวะมีบุตรน้อยและผู้ปกครองกลัวก้างปลาติดคอเด็ก ส่งผลให้เด็กไม่ชอบรับประทานปลา
จากข้อมูลสถิติของสหกรณ์การประมงไต้หวันพบว่า ปี 2017 ประชากรไต้หวันบริโภคปลาเฉลี่ยคนละ12.42 กิโลกรัม/ปี เทียบกับปี 2010 หรือ 7 ปีก่อนหน้านั้นลดลง 32% สาเหตุสำคัญมาจากภาวะมีบุตรน้อย ทำให้พ่อแม่หรือผู้ปกครองปกป้องลูกมากเกินไป จากการสำรวจความคิดเห็นของผู้ปกครองพบว่า ที่ไม่อยากให้ลูกรับประทานปลาเพราะกลัวก้างจะติดคอลูก แต่บางรายยังคงให้ลูกรับประทานปลาที่มีก้างน้อยหรือปลาที่เอาก้างออกหมดแล้ว อย่างไรก็ดีมีจำนวนไม่น้อยที่ให้ลูกทานเนื้อสัตว์ชนิดอื่นแทน ขณะที่อาหารกลางวันในโรงเรียนก็มักหลีกเลี่ยงการทำอาหารเมนูปลาเพราะเกรงจะเกิดปัญหาก้างติดคอเด็ก ด้วยเหตุนี้จึงมีส่วนทำให้เด็กไม่คุ้นชินกับการรับประทานปลาและไม่ชอบทานปลา
สหกรณ์การประมงไต้หวันเผยว่า ในอนาคตจะทดลองส่งเจ้าหน้าที่ไปให้ความรู้เรื่องปลาและการรับประทานปลาในโรงเรียน โดยจะเน้นเรื่องการรับประทานปลาอย่างไรไม่ให้ก้างติดคอ โดยหวังว่าจะช่วยทำให้เด็กหันมารับประทานปลากันมากขึ้น ซึ่งนอกจากทำให้เด็กได้รับโปรตีนคุณภาพดีที่มีประโยชน์ต่อร่างกายแล้ว ยังเป็นการช่วยเหลือชาวประมงไต้หวันที่มีประมาณ 3.2 แสนคนอีกด้วย
