xs
xsm
sm
md
lg

“หายไวๆนะ”...สี จิ้นผิง ส่งสาส์นอวยพรให้ทรัมป์ หายไข้โควิด-19 ช้ากว่าผู้นำโสมแดง คิม จองอึน

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


แฟ้มภาพรอยเตอร์ส: ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กำลังสนทนากับประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ที่ มาร์-อา-ลาโก ในปาล์ม บีช ฟลอริด้า สหรัฐอเมริกา ภาพวันที่ 6 เม.ย. 2017
เซาท์ ไชน่า มอร์นิ่งโพสต์รายงาน ทันทีที่ข่าว ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และภริยา เมลาเนีย ทรัมป์ ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือโควิด-19 กลุ่มผู้นำทั่วโลกได้ส่งสาส์นส่งกำลังใจและแสดงความหวังให้ทั้งคู่หายไวๆ ขณะที่ประมุขรัฐแห่งแดนมังกร ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ส่งสาส์นฯในเย็นวันเสาร์(3 ต.ค.) ตามหลังผู้นำโลกหลายคน ช้ากว่าผู้นำโสมแดงอย่าง คิม จองอึนเสียอีก

ทรัมป์ประกาศในเช้าวันศุกร์(2 ต.ค.) ว่าเขาและภริยาไปตรวจร่างกายและผลเลือดออกมาเป็นบวกที่แสดงว่าติดเชื้อไวรัสโคโรนา ขณะที่ศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯกำลังมาถึงในวันที่ 3 พ.ย.นี้แล้ว

นเรนทระ โมที นายกรัฐมนตรีแห่งอินเดีย และอิมราน ข่าน นายกรัฐมนตรีแห่งปากีสถาน เป็นผู้นำโลกกลุ่มแรกที่ประเดิมส่งสาส์นขอให้ประมุขแดนพญาอินทรีหายไวๆ ซึ่งกลุ่มวิเคราะห์มองว่าทั้งสองกำลังแข่งกันเรียกเสียงสนับสนุนจากสหรัฐฯอีกเช่นเคย

ด้านไต้หวันซึ่งกำลังต้องการความช่วยเหลือจากวอชิงตันมากขึ้น ทันทีที่รู้ข่าวฯก็ออกโรงแถลงส่งกำลังให้ผู้นำสหรัฐฯและสตรีหมายเลขหนึ่งฟื้นไข้โควิด-19 โดยเร็ว

สำหรับคู่ท้าชิงเก้าอี้นายใหญ่ทำเนียบขาว นาย โจ ไบเดน จากพรรคเดโมแครต ก็ส่งคำอวยพรให้คู่แข่งหายไข้ ขณะที่วลาดิมีร์ ปูตินแห่งรัสเซีย ก็ส่งกำลังใจในเวลาไล่เลี่ยกัน ด้านพันธมิตรที่เหนียวแน่นของปักกิ่งคือ คิม จองอึนผู้นำสูงสุดแห่งเกาหลีเหนือ ก็ยังออกโรงมาแถลงความเห็นอกเห็นใจและหวังอย่างจริงใจว่า ทรัมป์และสตรีหมายเลขหนึ่งจะหายป่วยหายไข้ในเร็ววัน

หลังจากที่ข่าวทรัมป์ติดโควิด-19 เผยแพร่ออกไปกว่าหนึ่งวันหนึ่งคืน สำนักข่าวซินหัวถึงออกข่าวว่าเอกอัครราชทูตจีนประจำสหรัฐฯ ชุย เทียนข่าย และโฆษกหญิงแห่งกระทรวงต่างประเทศจีน ได้ร่อนสาส์นส่งความหวังและกำลังใจในเย็นวันเสาร์ที่ผ่านมา ด้วยข้อความว่าประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน และสตรีหมายเลขหนึ่ง เผิง ลี่หยวน ขอแสดงความเห็นอกเห็นใจและหวังว่าประธานาธิบดีแห่งสหรัฐฯ และภริยาจะหายไข้อย่างเฉียบไว

ก่อนหน้า ทรัมป์มักคุยโวต่อสาธารณะถึงสัมพันธภาพฉันมิตรกับทั้งสี จิ้นผิง และคิม จองอึน แม้ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศจะผจญวิกฤตตึงเครียดมาตลอด โดยเฉพาะความสัมพันธ์สองชาติมหาอำนาจโลกจีนกับสหรัฐฯยิ่งนับวันบูดเน่าทั้งจากความขัดแย้งในประเด็นฮ่องกง ประเด็นไต้หวัน และการสกัดดาวรุ่งยักษ์ใหญ่เทคโนโลยีจีน ไปยันศึกน้ำลายโรคระบาดใหญ่โควิด-19 โดยทรัมป์พูดตอกย้ำอยู่เป็นประจำว่า “มันคือ ไวรัสจีน”


กำลังโหลดความคิดเห็น