"จีน-รัสเซีย" จับมือดัน "ไช่เหนี่ยว" ในเครืออาลีบาบา เพิ่มประสิทธิภาพการขนสินค้าระหว่างจีน-ยุโรป

ซินหัว - ไช่เหนี่ยว เน็ตเวิร์กของกลุ่มอาลีบาบา จับมือกับแอร์บริดจ์คาร์โก ของรัสเซีย เปิดเส้นทางขนส่งสินค้าจีน-ยุโรปสายใหม่ ระหว่างฮ่องกง-มาดริด 3 เที่ยวต่อสัปดาห์ ชี้เพิ่มประสิทธิภาพการจัดส่งได้อีก 30% มุ่งเป้าส่งสินค้าไปยังทุกพื้นที่ทั่วโลกได้ภายใน 72 ชั่วโมง

วันศุกร์ที่ 17 กรกฎาคม ผ่านมา กลุ่มสื่อจีนรายงานว่า ไช่เหนี่ยว เน็ตเวิร์ก (菜鸟网络) หน่วยงานโลจิสติกส์ของอาลีบาบา กรุ๊ป (阿里巴巴集团) และแอร์บริดจ์คาร์โก แอร์ไลน์ส (AirBridgeCargo Airlines) สายการบินสัญชาติรัสเซีย ร่วมกันเปิดเส้นทางขนส่งสินค้าทางอากาศจีน-ยุโรปสายใหม่ เพื่อขยับขยายความร่วมมือทางการค้าระหว่างจีน – ยุโรป

สำหรับ เที่ยวบินแรกของเส้นทางขนส่งสินค้าทางอากาศจีน-ยุโรปสายใหม่ ได้ขนส่งสินค้าจากเขตบริหารพิเศษฮ่องกงของจีน สู่กรุงมาดริด เมืองหลวงของสเปน เมื่อวันอังคาร (14 ก.ค.) โดยเส้นทางใหม่นี้มีกำหนดให้บริการ 3 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ เริ่มตั้งแต่เดือนสิงหาคมปี 2563

ไช่เหนี่ยว เน็ตเวิร์ก คาดการณ์ว่าเที่ยวบินขนส่งสินค้าสายใหม่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพด้านระยะเวลาจัดส่งสินค้าจากจีนไปยังยุโรปถึงร้อยละ 30

ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. สำนักข่าวซินหัวก็รายงานว่า ไช่เหนี่ยว ประกาศเพิ่มเงินลงทุนเพื่อยกระดับประสิทธิภาพการขนส่งทางอาการข้ามพรมแดนเป็น 2 เท่า เพื่อตอบสนองเป้าหมายคือ การขนส่งพัสดุในทั่วประเทศจีนได้ภายในเวลา 24 ชั่วโมง และขนส่งในพื้นที่อื่น ๆ ทั่วโลกภายในเวลา 72 ชั่วโมง

ไช่เหนี่ยวจะเพิ่มจำนวนเที่ยวบินเช่าเหมาลำเพื่อการส่งออกจาก 260 เที่ยวเป็น 1,260 เที่ยวภายในช่วง 9 เดือนข้างหน้า ซึ่งหมายความว่าระยะเวลาการขนส่งทางอากาศจะลดลงครึ่งหนึ่ง จากเดิม 7-10 วัน เหลือเพียง 3-5 วัน นอกจากนี้จะขยายเครือข่ายคลังสินค้าในต่างประเทศจาก 30 แห่งซึ่งครอบคลุมพื้นที่ 1 ล้านตารางเมตร ให้เพิ่มเป็นกว่า 2 ล้านตารางเมตร ภายใน 3 ปีข้างหน้าอีกด้วย

การขยายเครือข่ายคลังสินค้าดังกล่าวจะเอื้อให้ ธุรกิจขนาดกลางและเล็ก (เอสเอ็มอี) สามารถเก็บสินค้าไว้ในคลังสินค้าต่างประเทศเหล่านี้ล่วงหน้าได้ ทำให้การจัดส่งสินค้าข้ามพรมแดนกว่าร้อยละ 90 ในเมือง 100 แห่ง เกิดขึ้นได้ภายในเวลา 72 ชั่วโมง

อนึ่ง ไช่เหนี่ยว เน็ตเวิร์ก ก่อตั้งเมื่อปี 2556 เป็นบริษัทสาขาด้านโลจิสติกส์ของอาลีบาบา ซึ่งถือครองหุ้นส่วนอยู่ราวร้อยละ 63 ในปี 2562 โดยไช่เหนี่ยวฯ มุ่งประยุกต์ใช้อินเทอร์เน็ตแห่งสรรพสิ่ง (ไอโอที) วิธีแก้ไขห่วงโซ่อุปทานอัจฉริยะ อัลกอริธึม และเทคโนโลยีต่าง ๆ เพื่อเพิ่มพูนประสิทธิภาพของภาคธุรกิจโลจิสติกส์