กลุ่มสื่อต่างประเทศรายงาน (14 ก.ค.) “โดนัลด์ ทรัมป์” ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศลงนามในคำสั่งยุติการให้สิทธิพิเศษแก่ฮ่องกง ส่งผลให้ฮ่องกงจะได้รับการปฏิบัติเช่นเดียวกับจีนแผ่นดินใหญ่
ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ระบุว่า มาตรการดังกล่าวเป็นการลงโทษจีนต่อการออกกฎหมายความมั่นคงฮ่องกง ซึ่งสหรัฐฯ มองว่าเป็นการกดขี่ข่มเหงชาวฮ่องกง
“ไม่มีสิทธิพิเศษ ไม่มีการปฏิบัติทางเศรษฐกิจเป็นกรณีพิเศษ และไม่มีการส่งออกเทคโนโลยีที่มีความอ่อนไหวไปให้ฮ่องกงอีกต่อไป” ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าว
คำสั่งดังกล่าวสร้างผลกระทบต่อความเป็นศูนย์กลางทางการเงินของโลกของฮ่องกง รวมถึงการเป็นประตูไปสู่ตลาดการเงินระหว่างประเทศของจีน
ทรัมป์ฯ เปิดเผยว่าเขาได้ลงนามใน Hong Kong Autonomy Act ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังในการเอาผิดกับใครก็ตามที่เกี่ยวข้องกับการริดรอนเสรีภาพในฮ่องกง
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา สหรัฐฯ เพิ่งประกาศคว่ำบาตรนายเฉิน เฉวียนกั๋ว เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ประจำเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์และคณะกรรมการประจำกรมการเมือง (โปลิตบูโรแห่งพรรคคอมมิวนิสต์จีน) พร้อมเจ้าหน้าที่รัฐอีก 3 คน ด้วยข้อกล่าวหาเกี่ยวกับนโยบายต่อต้านชนกลุ่มน้อยในจีน
เมื่อวันศุกร์ (10 ก.ค.) ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ระบุว่า ความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับสหรัฐฯ “เสียหายอย่างร้ายแรง” (severely damaged) ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ในส่วนของสหรัฐฯ เอง คำสั่งดังกล่าวอาจก่อปัญหาให้บริษัทของสหรัฐฯ กว่า 1,300 แห่งที่จัดตั้งในฮ่องกงต้องเผชิญความยุ่งยากต่อไป